Huawei เผยโฉมหน้าของ EMUI 11 ที่จะรันบนพื้นฐานของ Android 11 และประกาศรายชื่อพันธมิตรร่วมพัฒนา AppGallery จากทั่วโลก พร้อมประกาศรายชื่อเครื่องที่จะได้ไปสัมผัสกับ EMUI 11
หัวเว่ยเปิดตัว EMUI 11 ในงานประชุม Huawei Developer Conference 2020 (Together) ที่ทะเลสาบซงซาน มณฑลกว่างตง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 14 กันยายนที่ผ่านมา ได้มีการประกาศอัปเดตใหม่ๆ บน AppGallery และเน้นย้ำถึงความสำเร็จของ AppGallery ในช่วงสามไตรมาสแรกของปี 2563 พร้อมการเผยโฉมระบบปฏิบัติการใหม่ของ EMUI
นายหวัง เฉิงลู่ ประธานฝ่ายซอฟต์แวร์ของหัวเว่ย ได้กล่าวแนะนำฟีเจอร์หลักที่มากับระบบปฏิบัติการใหม่ ได้แก่ การออกแบบประสบการณ์ผู้ใช้ (UX) โดยอิงหลักวิศวกรรมมนุษยปัจจัย (human factors) ฟีเจอร์ใหม่ๆ ด้านความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย และการยกระดับประสบการณ์การใช้งานที่ครอบคลุมทุกสถานการณ์
ศิลปะการออกแบบตามหลักวิทยาศาสตร์เพื่อตอบสนองผู้ใช้งานอย่างลงตัว
แรงบันดาลใจที่เป็นศิลปะ EMUI 11 จะเป็นเสมือนผืนผ้าใบสำหรับวาดภาพ ให้ผู้ใช้ได้แสดงความคิดสร้างสรรค์ด้วยตัวเลือก Always-On Display (AOD) โฉมใหม่ ให้ผู้ใช้สามารถกำหนดหน้าจอได้ตามรสนิยมของตนเอง
โดย AOD ใหม่นี้จะมีหน้าตาเหมือนจานสีที่มีแม่สี แดง เหลือง น้ำเงิน ได้รับแรงบันดาลใจจากผลงานศิลปินนักวาดภาพ พีต มองเดรียน (Piet Mondrian) ผู้ใช้จะมีอิสระที่จะออกแบบได้มากกว่ากรอบสีของมองเดรียน โดยเลือกสีจากรูปภาพของตนเองมาใช้เป็นจานสีบนหน้าจอ AOD ก็ได้ เช่น สามารถทำให้หน้าจอ AOD เข้ากับสีชุดของตนเองในแต่ละวัน เพียงถ่ายรูปเสื้อผ้าของตน แล้วจากนั้นอัลกอริทึม AI ก็จะถอดรหัสสีออกมาจากรูปภาพนั้นๆ และสร้างเป็นจานสีใหม่ที่เข้ากันเพื่อตั้งเป็นหน้าจอ AOD
และเพื่อการออกแบบให้เข้ากับหลักการยศาสตร์ของ EMUI 11 มีการวิจัยจากนักวิชาการชั้นแนวหน้าด้านวิศวกรรมมนุษยปัจจัยจากมหาวิทยาลัยชั้นนำและสถาบันบัณฑิตวิทยาศาสตร์จีน พัฒนาภาพกับประสบการณ์แบบตอบสนองของ EMUI 11 ให้เหมาะสมที่สุด
แอนิเมชันเปลี่ยนฉากใหม่แบบ “ลองเทค” (long take) ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากเทคนิคชื่อเดียวกันในวงการภาพยนตร์ ช่วยให้ผู้ใช้มีสมาธิกับภารกิจในมือมากยิ่งขึ้น ผลการวิจัยทางวิศวกรรมมนุษยปัจจัยของหัวเว่ยชี้ว่า เมื่อเทียบกับการเปลี่ยนฉากทั่วไปแล้ว การเปลี่ยนฉากแบบลองเทคทำให้ดวงตาขยับน้อยลงอย่างมีประสิทธิภาพ และลดความเหนื่อยล้าในขณะที่พัฒนาประสิทธิภาพการจดจำไปด้วย
เทคโนโลยีการทำงานได้บนหลายอุปกรณ์ที่พัฒนาไปอีกระดับ
การใช้งานอย่างครอบคลุมทุกสถานการณ์คืดการทำงานได้บนหลายอุปกรณ์ของหัวเว่ย เช่น MeeTime และ Multi-Screen Collaboration ซึ่งได้กลายมาเป็นฟีเจอร์ที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของ EMUI
ฟีเจอร์ Multi-Screen Collaboration ขณะนี้รองรับการใช้งานพร้อมกันถึง 3 หน้าต่าง ทำงานได้หลายประโยชน์พร้อมกัน เช่น นักเรียนนักศึกษา สามารถใช้หน้าต่างแรกดูครูสอน ใช้หน้าต่างที่สองสำหรับเปิดแอปพลิเคชันจดโน้ต และใช้หน้าต่างที่สามคุยกับเพื่อนร่วมชั้นเกี่ยวกับสื่อการเรียนการสอนไปพร้อมกัน เป็นต้น
นอกจากนี้ ฟีเจอร์ Multi-Screen Collaboration ยังทำให้การเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์มีประโยชน์มากขึ้น เช่นนำแล็ปท็อปและแท็บเล็ตมาเชื่อมต่อกันแล้ว แท็บเล็ตสามารถทำหน้าที่เป็นเว็บแคมเสริม หรือเป็นจอที่สองให้แล็ปท็อปได้ด้วย ผู้ใช้สามารถแก้ไขไฟล์เอกสารที่บันทึกไว้บนแล็ปท็อปได้จากบนแท็บเล็ต ถ้าแท็บเล็ตสามารถรองรับการใช้ปากกาวาดภาพก็ยิ่งสะดวก เช่นผู้ใช้สามารถขีดเขียนเพิ่มเติมบนสไลด์พรีเซนเทชันได้เมื่อต้องการ เพื่อช่วยอธิบายไอเดียให้ชัดเจนยิ่งขึ้น
ระบบรักษาความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว
EMUI มอบบริการรักษาความปลอดภัยที่ใช้ง่ายเพื่อปกป้องข้อมูลของผู้ใช้ เพราะในส่วนกลไกระบบ TEE OS ของ EMUI ได้รับผลการประเมินในเกรด CC EAL5 + ซึ่งถือเป็นขั้นสูงสุดของการวัดระดับความปลอดภัยของระบบปฏิบัติการไมโครเคอร์เนลเพื่อการพาณิชย์ของโลก
EMUI 11 มาพร้อมฟีเจอร์รักษาความเป็นส่วนตัวใหม่ โดยในขณะที่ส่งภาพผู้ใช้สามารถปกปิดข้อมูลในรายละเอียดของภาพ เช่น สถานที่ เวลา และรายละเอียดของตัวเครื่อง ก่อนส่งได้อย่างง่ายดาย รวมถึงมีการบันทึกแบบเข้ารหัสที่ช่วยให้ผู้ใช้จดข้อมูลส่วนตัวโดยใส่รหัสล็อคไว้ได้
อัปเดตสำคัญบน AppGallery
หัวเว่ยได้ย้ำถึงความสำเร็จของ Huawei AppGallery ในสามไตรมาสแรกของปี 2020 เกี่ยวกับการสนับสนุนจากพันธมิตรระดับโลก
Huawei อาศัยการตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ AppGallery ด้วยการเข้าถึงความต้องการที่หลากหลายของผู้ใช้ในภูมิภาคต่างๆ และสรรหาบริการหรือแอปพลิเคชันคุณภาพมาตอบโจทย์ความต้องการนั้นๆ ให้แก่ผู้ใช้
กลยุทธ์ ‘Global + Local strategy’ ของ AppGallery คือแนวคิดจัดรายการแอปฯ ที่ทำให้ผู้บริโภคได้สัมผัสกับประสบการณ์เน้นแอปฯ ยอดนิยมในท้องถิ่น และบริการที่เป็นที่นิยมในระดับโลกไปพร้อมๆ กัน อีโคซิสเต็มของหัวเว่ยยังคงเติบโตต่อเนื่องจากการสนับสนุนของพันธมิตรที่มีอยู่ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นผู้พัฒนาแอปรายใหญ่ Bolt, Deezer, Foodpanda, TomTom Go Navigation, LINE, Qwant และ Telegram ที่ปัจจุบันได้เข้ามาจัดทำแอปพลิเคชันให้ดาวน์โหลดบน AppGallery ของ Huawei เรียบร้อยแล้ว
ผู้พัฒนาท้องถิ่นเองก็เล็งเห็นประโยชน์ที่จะได้จากการพัฒนาแอปบน AppGallery เนื่องจากผู้บริโภคย่อมต้องการใช้แอปฯ และบริการในท้องถิ่นของตนเองเป็นหลัก ตัวอย่างเช่นในเอเชีย-แปซิฟิก
- Agoda แอปฯ สำหรับการท่องเที่ยว ที่เข้าไปช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวในท้องถิ่น
- Lazada แอปฯ อีคอมเมิร์ซชื่อดังอย่าง ก็มีให้ดาวน์โหลดบน AppGallery เช่นกัน
- Grabjobs เป็นแพลตฟอร์มการจัดหางานชั้นนำในเอเชีย ได้ผสานความร่วมมือกับ Caas Kit ของหัวเว่ย ซึ่งช่วยให้สามารถดำเนินการสรรหาบุคลากรและสัมภาษณ์ภายในแอปฯ ได้
- PayBy การชำระเงินด้วยการจดจำใบหน้าแบบ 3 มิติ ที่สนับสนุนโดย Security kit นั้นก็ช่วยให้การชำระเงินมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
- Sweet Selfie ยังได้เพิ่มโหมดกลางคืนสุดพิเศษและระบบป้องกันการสั่นไหวในฟีเจอร์ของแอปฯ หลังจากที่รวมเข้ากับ Camera kit ของหัวเว่ยอีกด้วย
การสนับสนุนอย่างเต็มรูปแบบของ AppGallery ช่วยให้พันธมิตรประสบความสำเร็จทางธุรกิจ พร้อมช่วยพวกเขาในการปลดล็อกโอกาสใหม่ๆ ด้วยการร่วมมือด้านการตลาดกับหัวเว่ย ทำให้แอปฯ ต่าง ๆ อย่าง TomTom AmiGO มีอัตราการดาวน์โหลดเพิ่มขึ้นถึง 22 เท่า ขณะที่ Kumu แอปฯ ถ่ายทอดสดทางทีวีจากฟิลิปปินส์ก็มีผู้ใช้งานแบบพรีเมียมเพิ่มขึ้น 220% และทำรายได้เพิ่มขึ้นมากกว่า 40 เท่าในช่วง 15 วันแรก และในปีที่ผ่านมา Huawei มีส่วนช่วยผลักดันพันธมิตรให้สามารถแจ้งเกิดเข้าสู่ตลาดจีนมาแล้วกว่า 700 รายเลยทีเดียวครับ
ประกาศอัปเดต EMUI 11 (Beta) ให้กับดีไวซ์ 10 รุ่น
ภายในงาน หัวเว่ยยังได้ประกาศรายชื่อเครื่องที่จะได้รับอัพเดทระบบเป็น EMUI 11 (Beta) โดยมีทั้งมือถือและแท็บเล็ต รายชื่อชุดแรกที่จะได้รับการอัปเดต EMUI 11 (Beta) คือ
HUAWEI P40, HUAWEI P40 Pro, HUAWEI P40 Pro+, HUAWEI Mate 30, HUAWEI Mate 30 5G, HUAWEI Mate 30 Pro, HUAWEI Mate 30 Pro 5G, PORSCHE DESIGN HUAWEI Mate 30 RS, HUAWEI MatePad Pro และ HUAWEI MatePad Pro 5G
ซึ่ง EMUI 11 (Beta) จะปล่อยอัปเดตไปถึงรุ่น Honor 30, Honor V30, HUAWEI nova 7 ในภายหลัง และอุปกรณ์รุ่นอื่นๆ อาจจะมีตามมาในการประกาศครั้งต่อไป
“ถึงแม้จะมีความท้าทายมากขึ้น AppGallery และอีโคซิสเต็มของ Huawei Mobile Services (HMS) ก็ยังคงมีความเติบโตในปีนี้ ซึ่งต้องขอขอบคุณพันธมิตรของเรา ด้วยการสนับสนุน และความใส่ใจที่แข็งแกร่ง เราจะเดินหน้าลงทุนในอีโคซิสเต็มเพื่อสร้างสรรค์หนึ่งในสามสุดยอดแพลตฟอร์มแอปพลิเคชันระดับโลก เรามั่นใจว่าหากหัวเว่ยทำงานร่วมกันกับพันธมิตรอย่างใกล้ชิดมากขึ้น เราจะช่วยให้พวกเขาเติบโต และบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจได้ โดยเฉพาะพันธมิตรที่เป็นที่นิยมในท้องถิ่นที่ต้องการขยายธุรกิจไปสู่ตลาดโลก” นายหวัง เหยียนหมิน ประธานฝ่ายพันธมิตรระดับโลก บริษัทหัวเว่ย บิสสิเนส กรุ๊ป กล่าว