วันนี้ทาง Huawei ประเทศไทย จัดแถลงสถิติต่างๆ จากการจำหน่ายสมาร์ทโฟนในประเทศไทยของ Huawei ก็มีตัวเลขที่ดีขึ้นครับในปีนี้ ส่วนแบ่งการตลาดโตขึ้นทั้งในประเทศไทยและตลาดโลก จากยอดขายของ Huawei P10 และ Mate 9 เป็นหลัก จากปีที่แล้วในไตรมาสเดียวกัน มีส่วนแบ่งตลาดเพียง 1.2% แต่ในปีนี้ โตขึ้นถึงแปดเท่าในเชิงจำนวน และเพิ่มขึ้นห้าเท่าในเชิงมูลค่า จนปัจจุบันกินส่วนแบ่งตลาดไทยอยู่ที่ 10.7% เป็นอันดับสามของประเทศในขณะนี้ครับ
เพราะจุดแข็งของ Huawei คือเป็นหนึ่งในไม่กี่แบรนด์ ที่มีสินค้าครบทุกช่วงตลาด ตั้งแต่ราคาสองหมื่นขึ้นไป ลงไปจนถึงเครื่องราคาตำ่กว่าสามพัน รวมทั้งสินค้าในหมวดของแท็บเล็ตอีกด้วยครับ
แต่แน่นอน เพื่อนๆ ต้องเคยได้ยินข่าวปัญหาเรื่องหน่วยความจำที่เป็นดราม่า ในช่วงที่ผ่านมาของ Huawei ที่ทำให้เกิดการสะดุดไปบ้าง แต่ทางบริษัท Huawei เชื่อว่าจะกระทบต่อความเชื่อมั่นในระยะสั้นๆ เท่านั้น เพราะจากตัวเลขสถิติต่างๆ ก็เริ่มที่จะกลับมาสู่ภาวะปกติในขณะนี้แล้ว
ซึ่งในอนาคตครึ่งปีหลังต่อจากนี้สิ่งที่ Huawei จะพัฒนามากขึ้น
- หัวเว่ยจะเพิ่มแบรนด์ช้อปให้มากกว่า 60 ช้อป และเพิ่มช่องทางการจำหน่าย จากที่มีอยู่ในขณะนี้ประมาณ 9,000 ร้านค้า และจะพัฒนาไปในหลักหมื่นภายในปีนี้ครับ
- เพิ่มมาตรฐานบริการหลังการขาย โดยจะมีระบบ Door to door service บริการรับเครื่องซ่อมถึงหน้าบ้าน และมีเครื่องสำรองให้ใช้งานในระหว่างซ่อม ซึ่งจะขยายให้มีศูนย์ซ่อมหลักของแบรนด์ มากถึง 14 สาขา
- การันตีการซ่อมให้เสร็จภายในหนึ่งชั่วโมงสำหรับสินค้าพรีเมี่ยม ถ้าไม่เสร็จ จะมีเครื่องสำรองให้ใช้งาน
- มือถือ Huawei จะพัฒนาต่อในด้าน AI วิเคราะห์การใช้งานของผู้ใช้งาน และเน้นบริการในระบบคลาวด์ และระบบเน็ตเวิร์คใหม่ๆ ที่จะใส่เข้ามาในความสามารถของ Kirin รุ่นต่อไปจาก Huawei
- huawei ตั้งเป้าจะเป็นแบรนด์ผู้นำเทคโนโลยีของโลก เน้นกลุ่ม พรีเมี่ยม ซึ่งเป็นกลุ่มที่ทำตลาดได้ดีที่สุดของบริษัท โดยในไทย Huawei ทำยอดขายจากสินค้าพรีเมี่ยมราคา 15,000 บาทขึ้นไป นับเป็นจำนวน 40% ของบริษัท (มาตรฐานส่วนแบ่งยอดขายของสมาร์ทโฟนพรีเมี่ยมในประเทศไทยปกติเฉลี่ย 35%)
- ประเทศไทยเรานับเป็นหนึ่งในกลุ่มประเทศที่สำคัญเป็นกลุ่มแรกของ Huawei
- เป้าหมายปีนี้จะเติบโตขึ้นสามเท่า และขึ้นเป็นอันดับสองของส่วนแบ่งตลาดในไทยให้ได้
จากการสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคของกลุ่มผู้ใช้สมาร์ทโฟนในปัจจุบัน Huawei พบว่า คนต้องการสมาร์ทโฟนที่สินค้าราคาแพงขึ้น พรีเมี่ยมมากขึ้น โดยมีการเปลี่ยนแปลงจุดประสงค์ของการใช้งานในด้านการถ่ายภาพและการใช้งานในด้านสุขภาพที่โตขึ้รมากกว่า 80%
และตั้งใจมองหาสมาร์ทโฟนเพื่อไปใช้งานในการเล่นเกมแบบจริงจังมากกว่า 100 ล้านคนในปัจจุบัน ฉะนั้น Huawei จะยังเน้นการทำตลาดในระดับพรีเมี่ยมต่อไป ควบคู่กับการออกผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายและโดดเด่นในอนาคตอีกแน่นอนครับ
ทั้งหมดก็เป็นแนวทางแบบคร่าวๆ ของ Huawei กับประเทศไทยของเราในปีนี้ครับ