วันนี้ Huawei ประเทศไทยได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ นำทัพมาด้วยสมาร์ตโฟนเรือธง Huawei P40 ที่อัดแน่นไปด้วยสเปกสุดทันสมัย กล้องสุดเทพด้วย AI พร้อมความสามารถในการรองรับ 5G ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ต่อด้วย Huawei Nova 7i ที่จะมาสร้างสีสันให้กับชีวิตด้วยดีไซน์ที่สดใส มาพร้อมสเปคจัดเต็มในราคาสุดคุ้ม รวมถึง Huawei MatePad Pro แท็บเล็ตระดับโปร FullView Display ที่จัดเต็มด้วยฟังก์ชันการทำงานที่ครบถ้วน พร้อมเป็นดีไวซ์คู่ใจในทุกกิจกรรม และอุปกรณ์สวมใส่รุ่นล่าสุด Huawei Watch GT 2e
Huawei P40
สำหรับประเทศไทยนั้น Huawei ได้นำสมาร์ตโฟนในไลน์ Huawei P40 มาจำหน่ายสองรุ่น ได้แก่ Huawei P40 และ Huawei P40 Pro ไม่ได้นำรุ่นพลัสเข้ามาจำหน่าย โดย Huawei P40 Pro ที่มาพร้อมนวัตกรรมกล้องถ่ายภาพและวิดีโอที่เหนือระดับขึ้นไปอีกขั้น ประกอบด้วยเซ็นเซอร์กล้องแบบ RYYB ขนาดใหญ่ที่สุด ให้การถ่ายภาพในทุกสภาพแสงยังคมชัด เซ็นเซอร์อุณหภูมิสี ที่เก็บรายละเอียดสีได้แม่นยำราวตาเห็น ทั้งยังมีกล้องหน้าความละเอียดสูง 32 ล้านพิกเซล ที่สามารถถ่ายภาพและวิดีโอที่ความคมชัดระดับ 4K พร้อมสร้างเอฟเฟ็คท์โบเก้ (หน้าชัด หลังเบลอ) ได้แบบเรียลไทม์ ตอบโจทย์เทรนด์การทำ vlog ในยุคนี้
และเช่นเดิม Huawei ยังคงจับมือกับ Leica ในการพัฒนาเลนส์และตัวกล้อง โดยสเปกกล้องของ Huawei P40 และ Huawei P40 Pro มีดังนี้
Huawei P40
- กล้องหลัก 50 ล้านพิกเซลเซนเซอร์ UltraVision f/1.9 พร้อม optical stabilization.
- กล้องเลนส์มุมกว้างพิเศษ 16 ล้านพิกเซล
- กล้องซูม 3x SuperSensing 8 ล้านพิกเซลพร้อท optical stabilization.
- รองรับ Huawei XD Fusion Engine, และระบบซูม 30x digital zoom.
Huawei P40 Pro
- กล้องหลัก 50 ล้านพิกเซลเซนเซอร์ UltraVision รูรับแสง f/1.9 พร้อม optical stabilization.
- กล้องเลนส์มุมกว้างพิเศษ ความละเอียด 40 ล้านพิกเซล v
- กล้องเลนส์ซูม 3x SuperSensing ซูมดิจิตอลได้ 50 เท่า ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล
- เซนเซอร์ ToF วัดความชัดตื้นลึกของวัตถุ
ด้านซอฟต์แวร์มาพร้อมกับ EMUI 10.1 เพิ่มเติมฟีเจอร์ Huawei Golden SnapTM ที่ใช้ AI เพิ่มคุณภาพในการถ่ายภาพ ไม่ว่าจะเป็นการลบเงาสะท้อน คนที่เดินผ่าน หรือปรับแต่งภาพให้แบบหรือวัตถุในภาพมีสีสัน รายละเอียดและสัดส่วนที่สวยสมจริง ซึ่งนอกจากฟีเจอร์ในการถ่ายภาพ ยังมาพร้อม MeeTime ฟีเจอร์วิดีโอคอลระดับ Full HD, ฟังก์ชันการแชร์ข้อมูลที่สะดวกรวดเร็วและง่ายดายเพียงสัมผัสอุปกรณ์เข้าด้วยกัน ผ่าน Huawei Share
สำหรับ Huawei P40 ทั้งสองรุ่น มีสีให้เลือกมากถึง 3 สี คือ Silver Frost, Blush Gold และ Deep Sea Blue มาพร้อมโปรโมชันการเปิดตัวจัดเต็ม ที่นอกเหนือจากของสมนาคุณแล้ว ยังมีสิทธิพิเศษมากมายจากผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ โดยราคาพิเศษพร้อมแพ็คเกจ สำหรับ Huawei P40 เริ่มต้นที่ 5,490 บาท และ Huawei P40 Pro เริ่มต้นที่ 7,990 บาท สำหรับข้อมูลผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมและการพรีออเดอร์ สามารถคลิกดูรายละเอียดได้ที่: https://consumer.huawei.com/th/campaign/p40/
Huawei Nova 7i
Huawei Nova 7i เป็นสมาร์ทโฟนระดับกลางรุ่นล่าสุดที่มาพร้อมฟังก์ชันและฟีเจอร์แบบจัดเต็ม โดดเด่นด้วยกล้องหลัง 4 ตัว ความละเอียดสูงสุด 48 ล้านพิกเซล ประกอบด้วยเลนส์มุมกว้างพิเศษ (ultra wide) เลนส์มาโคร และเลนส์ที่ให้ภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอ ที่ทำงานร่วมกับ AI ให้การปรับแต่งภาพและวิดีโอแบบมืออาชีพ พร้อมกล้องหน้าที่ช่วยให้การถ่ายภาพเซลฟี่ในที่แสงน้อยสวยจับใจ ด้วยความละเอียด 16 ล้านพิกเซลและโหมด Super Night Selfie 2.0
หน้าจอดีไซน์ Punch Display หรือเจาะรูบนหน้าจอ ขนาด 6.4 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD+ ผสานรวมกับชิปเซ็ต Kirin 810 มอบประสบการณ์ความบันเทิงที่ลื่นไหล เล่นเกมที่มีกราฟฟิคภาพแน่นได้อย่างไม่สะดุด ประมวลผลฉับไวด้วยแรมที่สูงถึง 8GB และความจุภายในเครื่อง 128GB ฟินต่อเนื่องด้วยแบตเตอรี่สุดอึดถึง 4200 mAh ให้ทั้งเล่นและใช้งานได้ตลอดทั้งวัน ควบคู่กับเทคโนโลยีการชาร์จไว HUAWEI SuperCharge 40 วัตต์ ซึ่งสามารถชาร์จถึง 70% ภายในครึ่งชั่วโมง มาพร้อมตัวเลือกสีสันที่ให้สองอารมณ์ เรียบเท่ด้วยสี Midnight Black หรือสดใสมีชีวิตชีวากับสี Sakura Pink สำหรับข้อมูลผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมและการพรีออเดอร์ สามารถคลิกดูรายละเอียดได้ที่: https://consumer.huawei.com/th/phones/nova-7i/
Huawei MatePad Pro
Huawei MatePad Pro เป็นแท็บเล็ตระดับโปร มาพร้อมหน้าจอขนาด 10.8 นิ้ว แบบ FullView Display มอบประสบการณ์ภาพที่ เต็มตา ด้วยอัตราส่วนของหน้าจอต่อตัวเครื่องสูงสุดถึง รองรับการแสดงเฉดสีตามมาตรฐาน DCI-P3 เทียบเท่ากับระบบสีที่ใช้ในวงการภาพยนตร์ ให้สีสันตรงตามตาเห็น นอกจากภาพแล้วยังให้ประสบการณ์เสียงที่ทรงพลังรอบทิศทาง ด้วยลำโพง 4 จุด รับรองการเซตระบบเสียงโดย Harman Kardon มีไมโครโฟน 5 ตัว โดยซ่อนหนึ่งตัวไว้ที่กล้องหลัง เพื่อลดเสียงรบกวน
ตัวเครื่องรองรับการชาร์จไร้สาย 15W และเป็นแท็บเล็ตตัวแรกของโลกที่สามารถชาร์จไร้สายให้อุปกรณ์อื่นด้วยกำลังไฟ 7.5 วัตต์ (Reverse Wireless Charge) แรงด้วยชิปประมวลผล Kirin 990 สามารถเล่นวิดีโอได้ยาวนานถึง 12 ชั่วโมง หรือทำงานผ่านโปรแกรมออฟฟิศต่างๆ ติดต่อกันได้สูงถึง 11 ชั่วโมง มาพร้อมระบบปฏิบัติการ EMUI 10 ที่รองรับฟีเจอร์ Huawei Share ให้การเชื่อมต่อและทำงานร่วมกันระหว่างอุปกรณ์ลื่นไหล สามารถทำงานหลายหน้าจอได้ในเวลาเดียวกัน
นอกจากนี้ยังมาพร้อมฟีเจอร์ App Multiplier ที่รองรับการใช้แอปพลิเคชันหลายตัวพร้อมกัน ตอบโจทย์การทำงานและการเรียนที่บ้าน ด้วยโหมด PC ที่เชื่อมต่อกับ M-Pencil และ Smart Magnetic Keyboard แบบไร้สายได้อย่างยอดเยี่ยม พร้อมด้วยฟีเจอร์ใหม่ Screen-off Shorthand ที่ช่วยให้ผู้ใช้จดบันทึกทุกแรงบันดาลใจได้อย่างทันท่วงที สำหรับข้อมูลผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมและการพรีออเดอร์ สามารถคลิกดูรายละเอียดได้ที่: https://consumer.huawei.com/th/campaign/matepad-pro/
Huawei Watch GT 2e
สมาร์ทวอร์ช GT รุ่นอัปเกรดที่โดดเด่นด้วยหลากหลายฟีเจอร์ใหม่ สามารถปรับโหมดให้เหมาะสมกับการออกกำลังกายในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายแบบ elliptical ในฟิตเนส หรือการว่ายน้ำ ที่สามารถวัดอัตราการเต้นของหัวใจ ค่าการเผาผลาญ และระยะทางได้อย่างต่อเนื่อง
ทำงานด้วยชิปเซ็ต Kirin A1 ที่ประมวลผลแบบชิปเซ็ตคู่มาพร้อมอัลกอริทึ่มการประหยัดพลังงาน 2.0 ที่ช่วยลดการใช้พลังงาน ให้แบตเตอรี่สามารถใช้งานแบบทั่วไปได้นานถึง 2 สัปดาห์ อักทั้งยังมีฟีเจอร์ Motion Watch Face ที่ให้หน้าปัดปรับเปลี่ยนเป็นจอแสดงภาพได้ และสามารถสั่งชัตเตอร์ถ่ายภาพจากระยะไกล เมื่อเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน โดยรองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์โฟนทั้ง iOS และ Android ตัวเรือนออกแบบให้สายมีดีไซน์ต่างๆ ตามการใช้งานและไร้รอยต่อมากยิ่งขึ้น โดยมีสีให้เลือกมากถึง 3 สี คือ Graphite Black, Lava Red และ Mint Green สำหรับข้อมูลผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมและการพรีออเดอร์ สามารถคลิกดูรายละเอียดได้ที่:https://consumer.huawei.com/th/wearables/watch-gt-2e/