ในงาน TME 2013 ปีนี้ I-mobile นับเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่น่าจะทำยอดจำหน่ายไปได้ดีในงาน TME เป็นอันดับต้นๆ จากกระแสเครื่องรุ่นใหม่ๆ ที่ทยอยออกมาวางจำหน่ายอย่างมากมายและต่อเนื่อง แถมยังน่าสนใจในเรื่องของราคาและความสามารถ
แต่ด้วยการพัฒนาในช่วงหลังๆ และข้อมูลข่าวสารจากทาง i-mobile นั้นค่อนข้างเยอะ และเพือนๆ หลายๆ คนอาจจะมีตกหล่นกันไป เราเลยเอามารายงานให้ฟังกันอีกสักหน่อย กับห้าเรื่องประกอบการตัดสินใจ เพราะเหล่านี้ คือรูปแบบเฉพาะของเครื่องจาก I-Mobile ที่น่ารู้ครับ ^^
1. สมาร์ทโฟน i-Mobile ระบบ Android ในรุ่นหลังๆ จะเริ่มทำการอัพเดทซอฟแวร์ผ่านทางอินเตอร์เน็ต (OTA) ได้ด้วยตนเองที่บ้านแล้ว
ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผล ที่คนมักจะบ่นแอนดรอยด์จาก I-Mobile มานาน เพราะการจะอัพเดทซอฟแวร์ตัวใหม่แต่ละครั้ง ต้องเดินทางไปยังช็อบไอโมบาย เพื่อให้ช่างทำการอัพเดทซอฟแวร์ให้ อยู่กลางกรุงคงไม่เท่าไหร่ แต่อยู่ห่างไกลมันช่างลำบากยากเย็นแค่เพียงอยากจะอัพซอฟแวร์นิดๆหน่อยๆ
แต่นับตั้งแต่รุ่น I-Mobile IQX เป็นต้นไป ทาง I-Mobile รับปากจะพยายามใส่การอัพเดทซอฟแวร์แบบออนไลน์ ที่จะทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องเดินทางไปไหน แค่เพียงต่อเน็ตและเช็คเวอร์ชั่นระบบได้จากภายในเครื่องตัวเองได้ทันที และที่สำคัญ การอัพเดทผ่าน OTA ถ้าไม่มีปัญหาอะไรก็น่าจะเริ่มพร้อมใช้งานในอีกหนึ่งสัปดาห์ข้างหน้านี่แล้วครับ โดยเริ่มที่ตัวพระเอก IQX ก่อนเลยเป็นเครื่องแรก ^^ ฉะนั้น สอบถามทางพนักงานให้ดี ว่ารุ่นไหนต่อจากนี้ จะสามารถอัพเดทซอฟแวร์ผ่านอินเตอร์เน็ตได้มั่งนะครับ ^^
[divider]
2. บางรุ่นของ I-mobile เป็นแอนดรอยด์ที่ยังสามารถย้ายแอพพลิเคชั่น ไปลงยังเมมโมรี่ภายนอกอย่าง Micro SD card ได้
หายากแล้วเต็มที กับความสามารถนี้ การย้ายข้อมูลของตัวแอพพลิเคชั่นไปยังหน่วยความจำภายนอกได้ เพราะในระยะหลังๆ สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ส่วนใหญ่ ไม่ยอมอนุญาตใหำการย้าย แม้ตัวแอพพลิเคชั่นจะรองรับ ระบบจะรองรับ แต่ตัวเครื่องกลับไม่ยอมรับ ทำให้เราสามารถใช้หน่วยความจำภายนอกอย่าง Micro SD card ได้เพียงเก็บหนัง เก็บเพลง เก็บภาพ หรือไฟล์ใช้งานต่างๆ แต่จะนำมาใช้ร่วมกันกับระบบไม่ได้
แต่ในสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์บางรุ่นของ I-Mobile ยังคงมีการรองรับการย้ายแอพไปเก็บไว้ที่เมมได้อยู่ครับ นั้นถือเป็นการกลบจุดด้อยในเรื่องของหน่วยความจำภายในของเครื่องที่ทาง i-Mobile มักให้เรามาไม่เคยจะเกินขนาด 4GB ถ้าใครกลัวว่าพื้นที่จะไม่พอลงแอพพลิเคชั่นให้สาแก่ใจเราได้เพียงพอ สอบถามพนักงาน ว่ารุ่นใดบ้างที่สามารถย้ายแอพลงเมมภายนอกได้ครับ
หรือจะลองด้วยตัวท่านเองก็ได้ เผื่อพี่พนักงานขายไม่เข้าใจ โดยการหยิบสินค้าตัวโชว์มาลองเข้าไปที่ [ การตั้งค่า > แอปพลิเคชั่น > เลื่อนหาไปยังแอพพลิเคชั่น Line ที่ทาง i-Mobile มักจะติดตั้งเอาไว้ให้ในทุกเครื่อง > เข้าไปแล้ว ถ้าสามารถกดปุ่ม “ย้ายไปยัง SD card” ได้ ก็แปลว่า ตัวเครื่องรุ่นนั้นย้ายแอพไปเมมโมรี่ภายนอกได้ครับ (แต่เครื่องต้องใส่ SD card ไว้แล้วนะครับ)
[divider]
3. เลือกซื้อเครื่องให้ตรงใจ เพราะไม่นานรุ่นใหม่ จะตามออกมาอย่างรวดเร็วแน่นอน
ชั่วโมงนี้ในไทย ไม่มีแบรนด์ไหนจะรุกหนัก ส่งรุ่นใหม่ๆออกมาลุยตลาดขนาด i-Mobile อีกแล้วครับ สิ่งหนึ่งที่อยากจะบอกคือ “ซื้อวันนี้ใช้วันนี้” เอาที่เราพอใจ ราคาถูกเครื่องน่าใช้ เอาให้แน่ใจเพราะรุ่นใหม่ๆ มาจ่อคิวออกอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว ถ้าเรารอ ก็จะต้องรอกันไปเรื่อยๆอย่างแน่นอนละครับ
อย่างรุ่น IQ 5.1 ที่กำลังวางจำหน่ายในงาน Mobile Expo 2013 ครั้งนี้ ก็อีกไม่นานจะมีรุ่น 5.1 Pro, 5.2, 5.3 ตามออกมา เพราะว่ามันอยู่ในสายการวางจำหน่ายไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วละครับ แล้วถ้าจะรอ ถึงวันนั้น รุ่นใหม่กว่าก็จะรอต่อคิวอีกต่อๆไปอยู่ดี ฉะนั้นตัดสินใจในวันนี้ไว้อย่างไร ก็เอามาใช้เถอะครับ ^^
[divider]
4.แอพพลิเคชั่นแถมมาไม่ได้ใช้ ลบได้แม้จะเป็นแอพที่มากับรอมเครื่อง
ถ้าเราจะสังเกตในเครื่องของ i-mobile ระบบแอนดรอยด์แต่ละรุ่น เขามักจะมีการเตรียมแอพพิลเคชั่นจำนวนหนึ่งไว้ตั้งแต่การตั้งค่าโรงงานเลยละครับ ซึ่งแม้จะเป็นแอพพลิเคชั่นที่เราหาได้จากใน Playstore ก็ตาม นั้นเพราะทาง i-mobile คิดว่า แบบนี้มันง่ายกว่าสำหรับผู้เริ่มต้นที่ยังไม่ค่อยเข้าใจอะไรในระบบการใช้งานของแอนดรอยด์ ส่วนหนึ่งถือว่าดีครับ เพราะบางแอพพลิเคชั่นนั้น เขาใส่ตัวเวอร์ชั่นเต็มมาให้ใช้งานเลย ไม่ต้องไปซื้อ แต่บางตัวสำหรับเรา ไม่ได้ใช้ประโยชน์
แอพพลิเคชั่นเหล่านี้ แม้เราจะทำการรีเซ็ตเครื่องไปแล้วก็ตาม แต่ด้วยความที่มันฝังมากับตัวระบบ ทำให้มันก็ยังคงอยู่แม้จะได้เครื่องมาใหม่ๆก็ตามที แต่ถ้าเราไม่ใช้ เราสามารถลบทิ้งได้ตามปกติเลยครับ เป็นการลดการใช้พื้นที่จัดเก็บของเครื่องเราได้ด้วย
บางคนเคยถามว่า “ทำไมรีเซ็ตเครื่องก็แล้วแอพพวกนี้ไม่หายไป” นั้นเพราะเราต้องใช้การลบแอพแบบธรรมดาๆ นี่แหละครับ ไม่ต้องรีเซ็ต ยิ่งไปรีเซ็ต ไอ้ที่ลบไว้ก็จะกลับมาอีกครั้งนั้นเองครับ ^^
[divider]
5.ซิมการ์ด 3GX ที่แถมมาอย่าเพิ่งไร้เยื่อใย ลองใส่เข้าไปใช้ก่อน แล้วอาจจะค้นพบสิ่งที่ต้องการ
โปรโมชั่นในช่วงนี้ของเครื่อง I-Mobile มักจะมีซิมการ์ดของเครือข่าย 3GX ของเขาเองแถมมาให้ด้วย เป็นทั้งการทำตลาด เป็นทั้งของแถม เพราะจะมีชั่วโมงการใช้งานฟรีทั้งอินเตอร์เน็ตทั้งการโทรมาให้เราด้วย บางเครื่องจะได้รับโปรแถมที่เยอะมาก ร่วมๆสองพันบาทเลยทีเดียว สิ่งที่อยากจะบอกก็คือ เครื่องไอโมบายส่วนใหญ่นั้นรองรับระบบสองซิมการ์ดครับ ถ้าเรามีใช้ประจำใจแล้วทั้สองซิมก็แล้วไป แต่ถ้าเรามีซิมใช้งานหลักอยู่เพียงซิมเดียว ลองเอาเจ้าซิมแถมนั้นมาใช้งานดูครับ ด้วยเหตุผลที่ผมแนะนำนั้นคือ
1. มันฟรี เป็นการทดลองใช้แบบไม่เสียอะไร
2. ช่องซิมยังว่าง ถ้าเครื่องเราเป็นระบบสองซิมอะนะ
2. มันเป็นเครือข่าย 3G 2100 Mhz ฉะนั้น สมาร์ทโฟนแทบจะทุกเครื่องที่ขายในประเทศไทย รองรับการใช้งานกับเจ้าซิมนี่แน่นอนครับ วันนึงจำเป็นต้องย้ายเครื่อง ก็จะรองรับแน่นอน
3. เร็วกว่าที่คิด หลังจากผมทดลองใช้แล้ว บอกเลยว่าด้วยจำนวนคนใช้เครือข่าย 3GX นี่ยังน้อย ความเร็วในการรับส่งข้อมูลอยู่ในระดับน่าพอใจมากครับ
4. โปรโมชั่นถูก ถ้าทดลองใช้งานแล้วถูกใจ ลองไปเหลือบดูโปรโมชั่นและโบนัสการเติมเงินดูครับ จะยิ่งถูกใจมากกว่า ^^ ผมเชื่อว่าในงาน Mobile Expo ครั้งนี้ มีโปรชัวร์หรือข้อมูลที่คุณหาได้แน่นอนว่า ราคาค่าบริการและโบนัสการเติมเงินของ 3GX เป็นอย่างไรครับ
***เสริมว่า ยังไม่แนะนำถ้าจะเอาไปใช้งานเป็นซิมหลักโดยทันที ถ้าเรายังไม่เคยทดสอบการใช้งานในพื้นที่สัญญาณที่เราจะใช้ครับ สัญญาณเน็ตน่าพอใจแต่สัญญาณการโทรต้องลองดูก่อน และซิมที่แถมมาให้ใช้ฟรีๆนี่แหละ เป็นตัวไว้ทดสอบชั้นดีเลยละครับ ^^ แต่ถ้าเอาไว้เป็นซิมเสริม น่าสนใจสุดๆครับ
สุดท้าย ขอเสริมข้อมูลพิเศษสำหรับเพื่อนๆที่สนใจเครื่อง I-Mobile IQX และอาจจะยังไม่ทราบข้อมูลนี้ ด้วยเครื่อง IQX ในล็อตแรกที่ทาง i-Mobile นำเข้ามาจำหน่าย เพื่อให้ทันงาน Mobile Expo เครื่องล็อตแรกที่เป็นประมาณ 20% ของทั้งหมด จะใช้เลนซ์กล้องของทาง Samsung ในกล้องหน้า และใช้เลนซ์ของบริษัท OV ในกล้องถ่ายภาพด้านหลังนะครับ
ส่วนในเครื่องล็อตต่อไปที่เหลือ จะมีการเปลี่ยนไปใช้เลนซ์กล้องจากทาง Sony แทนทั้งหมด
ส่วนอะไรดีกว่ากัน อันนี้ไม่ทราบจริงๆ ^^ ตัวเลนซ์มีผลแต่ก็ยังน้อยกว่าตัวซอฟแวร์ จะดีไม่ดีอยู่ที่ทาง i-Mobile ปรับจูนเลนซ์ไหนออกมาได้ดีกว่ากัน