ก่อนอื่นของทำความเข้าใจกับเพื่อนๆ หลายคนก่อนนะครับ ว่าข้อมูลของเราบนสังคมออนไลน์นั้นมีค่ามหาศาล หากมีคนเข้าถึงข้อมูลของเราได้ เขาจะนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์หลากหลายวิธี ทั้งนำบัญชีเราไปสร้างเรื่องหลอกลวงคนใกล้ชิด ศึกษาพฤติกรรมของเรา นำบัญชีไปขายต่อ หรืออื่นๆ อีกมากครับ ใส่ใจและให้ความสำคัญมันมากขึ้นดีกว่าที่จะปล่อยให้สายเกินไป
บัญชีผู้ใช้สังคมออนไลน์แต่ละอัน ตอนนี้มันก็เหมือนแหล่งเก็บข้อมูลส่วนตัวที่มีค่า เราจะเห็นการพยายามแฮ็กข้อมูลเข้าระบบหลายต่อหลายครั้ง เมื่อวานนี้ LINE ก็ถูกแฮ็กขโมยบัญชีผู้ใช้ จนทาง Never เจ้าของแอพ LINE ต้องออกมาประกาศให้ผู้ใช้ทั่วโลกเปลี่ยนรหัสผ่านโดยด่วน ส่วน Facebook ก็เป็นแหล่งข้อมูลสำคัญที่เหล่าแฮ็กเกอร์พยายามเข้าถึง ในประเทศไทยก็จะเห็นบ้างกับกลุ่มคนที่ขโมยบัญชีของเราไปขายต่อในลักษณะปั้มยอด Like หรือ Follower ที่หลายคนคงเห็นข้อความที่เขาประกาศขายบ่อยๆ ใน Facebook นี่ยังถือว่าเป็นแค่แฮ็กเกอร์ทั่วๆ ไป ขโมยข้อมูลไปขายต่อ แต่หากเป็นหน่วยงานของรัฐทำเองหละ? โดยไม่มีหมายจากศาล แอบขโมยข้อมูลเพื่อสอดส่องพฤติกรรมของเรา ละเมิดสิทธิอย่างชัดเจน แถมมาในรูปแบบหลอกลวง สื่อถึงเจตนาที่ไม่ดีอย่างเห็นได้ชัด? เราจะรับกันได้ไหม?
พฤติกรรมของ ICT
เมื่อวานนี้ หน้าเว็บไซต์ http://www.tcsd.info ซึ่งจะแสดงแทนหน้าเว็บไซต์ที่ถูกทางการปิดกั้น(Block) จะมีปุ่มที่เขียนว่า “Close” เพิ่มเข้ามาแบบเด่นชัดด้านบนขวาของหน้าจอคอมพิวเตอร์ ซึ่งโดยทั่วไปปุ่มชื่อนี้จะใช้เพื่อปิดหน้าต่างบราวเซอร์ แต่สำหรับปุ่มนี้บนเว็บไซต์ http://www.tcsd.info เมื่อคลิกไปแล้ว จะไปที่หน้า Facebook ของเรา และบังคับให้เราติดตั้งแอพพลิเคชั่นชื่อ “Login” เพื่อให้เรากดยอมรับการติดตั้ง หากเรากด “ตกลง” เพื่อติดตั้งแล้วหละก็ แอพพลิเคชั่นนี้ก็จะเข้าถึงข้อมูลของเราใน Facebook ได้ทั้งหมด ซึ่งถือว่าเป็นภัยคุกคามกับเราเป็นอย่างมาก
พฤติกรรมนี้ของ ICT ถือว่าเป็นการส่อในเจตนาที่ไม่ดีเป็นอย่างมาก อย่างแรกคือสร้างปุ่ม “Close” ขึ้นมาหลอกผู้ใช้งานให้คิดว่าเป็นปุ่มสำหรับปิดหน้าเว็บไซน์นั้น แต่ความจริงเป็นปุ่มให้ติดตั้งแอพพลิเคชั่น และชื่อแอพพลิเคชั่นก็ใช้ชื่อว่า “Login” ยิ่งทำให้ผู้ใช้งานเข้าใจผิดไปอีกว่าตัวเองกำลัง Login เข้าใช้งาน Facebook ตามปกติ
คำแนะนำและการระมัดระวังของผู้ใช้อย่างเรา
ในขณะนี้เว็บไซต์ดังกล่าวได้นำปุ่ม Close ออกไปแล้วครับ แต่เราขอแนะนำให้เพื่อนๆ ระมัดระวังต่อพฤติกรรมลักษณะนี้ ไม่ว่าจะโดยมิจฉาชีพหรือหน่วยงานของรัฐ ที่พยายามเข้าถึงและขโมยข้อมูลของเราในสังคมออนไลน์ สำหรับ Facebook นี้ก็โชคดีอย่างหนึ่งที่ทาง Facebook ก็พยายามปกป้องข้อมูลและสร้างความปลอดภัยในการใช้งานอย่างเต็มที่ เราต้องกด “ตกลง” เพื่อยอมรับก่อนที่มันจะติดตั้งเองได้ ดังนั้นก็จำไว้ง่ายๆ ว่า อย่างลงแอพพลิเคชั่นที่เราไม่ไว้วางใจ หากมันเด้งให้ติดตั้งแอพพลิเคชั่นก็กดปิดมันไปซะ เท่านี้ก็จะช่วยเราได้เป็นอย่างมาก เช่นเดียวกับปลั๊กอินบนบราวเซอร์ต่างๆ ที่จะเป็นเครื่องมือให้กลุ่มคนไม่หวังดีกับเราได้ ท่องเอาไว้ว่าอย่างติดตั้งปลั๊กอินหรือแอพพลิเคชั่นที่ไม่น่าไว้วางใจ ทั้งบน Facebook หรือเว็บบราวเซอร์ต่างๆ ครับ
วิธีปิดหรือถอนการติดตั้งแอพพลิเคชั่นของ Facebook และเว็บบราวเซอร์
หากเราหลงกลไปติดตั้งแอพพลิเคชั่นพวกนี้ แนะนำให้เราไปถอนการติดตั้งปลั๊กอินหรือแอพพลิเคชั่นเหล่านั้นออกให้หมดครับ วิธีการดังต่อไปนี้
วิธีถอนการติดตั้งปลั๊กอินบน Chrome(สำหรับ Firefox ทำได้ในทำนองเดียวกัน) เข้าไปที่การตั้งค่าของตัวเบราว์เซอร์ (ส่วนขยาย หรือ Addon) จากนั้นเข้าไปลบหรือถอนการติดตั้งปลั๊กอินที่เราลงไปได้เลยครับ
สำหรับการถอนการติดตั้งแอพพลิเคชั่นบน Facebook ง่ายๆ ครับ เพียงเข้าไปที่ การตั้งค่า >> apps แล้วมองหาแอพพลิคชั่นต้องสงสัย ในที่นี้คือแอพพลิเคชั่นที่ชื่อว่า “Login” หรือชื่ออื่นตามแต่ที่ผู้ไม่หวังดีจะทำออกมาหลอกลวงเรา จากนั้นสังเกตด้านขวาสุดของแถวข้างๆ คำว่า “edit” จะมีเครื่องหมายกากบาทอยู่ เราก็กดเพื่อลบออกได้ทันทีครับ
ขอให้ทุกคนโชคดีและมีความสุขในการใช้งานสังคมออนไลน์ของเรานะครับ
ที่มา Senchanthichai Joey ผ่าน Thai Netizen Network ผ่าน Blognone และ AppdisQus.com