ช่วงหลังๆนอกจากการผลิตมือถือที่เน้นเทคโนโลยีกล้องระดับแถวหน้าอย่างมือถือรุ่นที่มาพร้อมกับ PureView Technology แล้ว อีกสิ่งที่เราจะเห็นได้คือการพัฒนาแอพพลิเคชั่นที่ช่วยให้การถ่ายภาพของเรามีอรรถรสมากขึ้น โดยแอพถ่ายภาพที่หลายๆคนยอมรับว่าเป็นแอพด้านการถ่ายภาพที่ดีมากๆอย่าง Nokia Camera เองก็เป็นแอพที่ Nokia ทำออกมาโดยมีคุณสมบัติที่อัดแน่นอยู่ภายในแอพอย่างเต็มเปี่ยม และโหมด Smart เองก็เป็นอีกคุณสมบัติที่น่าสนใจภายในเจ้าแอพนี้ครับ
นอกจากนี้แอพ Nokia Camera เองก็มาพร้อมกับมือถือ Windows phone 8 ที่ดีที่สุดในตอนนี้อย่างเจ้า Nokia Lumia 1520 อีกด้วย สำหรับท่านที่เพิ่งก้าวเข้าสู่อารยธรรม (ขอยืมมานิดนึง) Windows phone พร้อมกับเจ้า Nokia Lumia 1520 ที่ยังไม่คุ้นเคยกับแอพนี้ ลองมาอ่านกันดูครับ
[divider]
ความจริงแล้วโหมด Smart เองไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะโหมด Smart นี้เกิดจากการที่ Nokia ได้รวมเอาแอพที่มีชื่อว่า Nokia Smart Cam เข้ากับแอพถ่ายรูประดับโปรอย่าง Nokia Pro Cam และกลายมาเป็นแอพ Nokia Camera ให้เราได้ใช้งานกันในปัจจุบันนั่นเอง เพราะฉะนั้นคุณสมบัติอะไรที่เคยมีในแอพ Nokia Smart Cam ก็จะมีอยู่ในโหมด Smart ของแอพ Nokia Camera ทั้งหมด ซึ่งนับเป็นข้อดีคือ เราสามารถถ่ายภาพแบบมือโปรด้วยโหมด Pro หรือจะถ่ายภาพโดยเน้นลูกเล่นด้วยโหมด Smart ได้ภายในแอพเดียว โดยไม่ต้องปิด-เปิดแอพหลายๆแอพ
โหมด Smart ของแอพ Nokia Camera สามารถเข้าใช้งานได้โดยเปิดแอพ Nokia Camera ตามปกติ จากนั้นแตะที่ไอค่อนรูปสี่เหลี่ยมซ้อนกัน (ดูจากรูปด้านล่าง) และเราก็จะเข้าสู่โหมด Smart
การถ่ายรูปในโหมด Smart นี้ทำได้ง่ายๆ โดยการแตะที่ไอค่อนโหมด Smart ค้างไว้หรือจะกดปุ่มชัตเตอร์บนตัวเครื่องค้างไว้ก็ได้ครับ หลักสำคัญอย่างเดียวของการถ่ายภาพในโหมดนี้ (หรือจะทุกการถ่ายภาพก็ได้) คือเราต้องจับกล้องให้นิ่งตลอดเวลาจนกว่าวงแหวนในรูปจะหมุนครบรอบซึ่งหมายถึงการบันทึกภาพเสร็จสิ้น
[divider]
เมื่อการบันทึกภาพเสร็จสิ้นแล้ว เราจะสามารถเติมลูกเล่นเข้าไปในภาพของเราได้ผ่านคุณสมบัติต่างๆที่มีในโหมด Smart ดังนี้
1. Best shot (ภาพที่ดีที่สุด)
เป็นคุณสมบัติที่ให้เราเลือกภาพจาก 10 เฟรมที่แอพบันทึกได้ (และ 7 เฟรมสำหรับมือถือรุ่นที่มีแรม 512 MB) และเลือกภาพที่เราชอบที่สุดมาใช้งาน เป็นคุณสมบัติที่เหมาะสำหรับการเลือกรูปที่มีการเคลื่อนไหวมากๆ ซึ่งด้วยการที่ระบบบันทึกภาพให้เราถึง 10 เฟรมนั้น อย่างน้อยก็น่าจะมีซัก 1 เฟรมที่ใช้งานได้ ซึ่งทำให้เราไม่พลาดช่วงเวลาสำคัญนั้นๆ
2. Action shot (ภาพเคลื่อนไหว)
เป็นคุณสมบัติที่จะจับภาพวัตถุที่เคลื่อนไหวจากทั้ง 10 เฟรม (และ 7 เฟรมสำหรับมือถือรุ่นที่มีแรม 512 MB) มาวางซ้อนกันในภาพภาพเดียว โดยเราสามารถเลือกได้ว่าจะเอาวัตถุในเฟรมใดให้ปรากฏในรูปของเรา โดยแตะที่จุดวงกลมด้านล่างของรูปภาพ
และยิ่งไปกว่านั้น เราสามารถปรับการเคลื่อนไหวในบางจังหวะให้จางลง (fade) เพื่อเพิ่มมิติการเคลื่อนไหวของวัตถุได้ โดยแตะที่ปุ่มสี่เหลี่ยมด้านล่างของปุ่มบันทึก ซึ่งเราสามารถเลือกที่จะเปิดหรือปิดคุณสมบัตินี้ได้ตามต้องการ ซึ่งทำให้การเคลื่อนไหวในภาพดูสมบูรณ์ยิ่งขึ้นไปอีกระดับครับ
3. Motion Focus (โฟกัสภาพเคลื่อนไหว)
เป็นคุณสมบัติที่ตรงข้ามกับ Action shot ซึ่งก็คือตัวแอพจะจับวัตถุที่เคลื่อนไหวให้หยุดนิ่ง และทำให้วัตถุที่หยุดนิ่ง (เช่นพวกฉากหลังต่างๆ) ดูเคลื่อนไหวแทน
โดยวัตถุที่เคลื่อนไหวนั้นเราสามารถเลือกวัตถุ 1 ใน 10 เฟรมที่เราบันทึกไว้ (และ 7 เฟรมสำหรับมือถือรุ่นที่มีแรม 512 MB) ได้ว่าต้องการจะเอาวัตถุจากเฟรมใดมาแสดงในภาพ (เราสามารถเลือกตำแหน่งของวัตถุได้โดยการลากนิ้ว (swipe) บนหน้าจอ
นอกจากนี้เรายังสามารถปรับความเร็วในการเคลื่อนไหวของฉากหลังได้ว่าจะให้ดูเคลื่อนไหวเร็วหรือช้า (โดยการแตะที่ไอค่อนรูปเข็มไมล์รถทางด้านขวา)
4. Change face (เปลี่ยนหน้า)
เป็นโหมดที่ส่วนตัวผมว่าน่าสนใจที่สุดใน Smart Mode ครับเพราะเป็นจุดขายที่ Nokia เองก็ใช้เป็นตัวชูโรงมาตั้งแต่สมัยตอนโปรโมทแอพ Smart Shoot แล้วครับ โดยตัวแอพจะจับภาพใบหน้าของคนในรูปเป็นจำนวน 10 เฟรม (และ 7 เฟรมสำหรับมือถือรุ่นที่มีแรม 512 MB) จากนั้นเราสามารถเลือกเปลี่ยนใบหน้าของคนในรูปจากรูปทั้ง 10 เฟรมนั้นตามต้องการ ซึ่งช่วยให้เราสามารถเลือกใบหน้าที่ดีที่สุดสำหรับทุกคนในรูปได้โดยไม่ต้องถ่ายรูปใหม่นั่นเอง (หรือจะแกล้งเพื่อนโดยการเลือกใบหน้าที่หลุดๆของทุกคนมารวมในรูปเดียวกันแทน ก็น่าสนุกไปอีกแบบครับ)
5. Remove object (ลบวัตถุเคลื่อนไหว)
เป็นอีกโหมดหนึ่งที่ผมชอบมากเช่นกัน โดยหลักการคือระบบจะตรวจจับวัตถุที่มีการเคลื่อนไหวในภาพทั้ง 10 เฟรม (และ 7 เฟรมสำหรับมือถือรุ่นที่มีแรม 512 MB) และเราสามารถเลือกที่จะลบวัตถุที่มีการเคลื่อนไหวที่เราไม่ต้องการออกจากรูปของเราได้ ซึ่งเป็นประโยชน์มากในกรณีที่เราต้องการถ่ายภาพในบริเวณที่มีคนพลุกพล่าน ซึ่งเราสามารถเลือกลบคนที่เดินผ่านหน้ากล้องของเรา ให้เหลือแต่เฉพาะวัตถุที่เราต้องการได้ง่ายๆครับ
[divider]
ก็ครบแล้วครับสำหรับคุณสมบัติที่มีในโหมด Smart ของแอพ Nokia Camera ซึ่งนับว่าเป็นอีกแอพหนึ่งที่ช่วยตอบสนองความต้องการของผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายรูปได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นโหมด Pro ที่เน้นสำหรับคนที่ชอบการปรับแต่งค่าต่างๆเหมือนการถ่ายรูปด้วยกล้องจริงๆ โหมด Smart ที่เหมาะสำหรับการเพิ่มลูกเล่นที่น่าสนใจให้กับรูปของเรา และโหมดการถ่ายวิดีโอที่สามารถบันทึกเสียงแบบ Directional Stereo ที่มีคุณภาพเสียงสูงมากได้ (สำหรับ Nokia Lumia 1520 เท่านั้น)
ขอให้ทุกท่านมีความสุขในการใช้งานแอพสำหรับถ่ายรูปที่ดีมากๆตัวหนึ่งในตอนนี้ ซึ่งมีคุณสมบัติมากมายและเปิดให้เราปรับใช้งานได้อย่างหลากหลายตามแต่ละสถานการณ์และจินตนาการของเรากันครับ