หลังจากที่ Apple เปิดอัพเดต iOS11 กันไป หลายต่อหลายคนก็ออกมาพูดถึงปัญหาบั๊กต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับ iOS11 นี่ทั้งบน iPad และ iPhone กันมากมาย แต่หนึ่งในประเด็นที่เป็นปัญหาและสร้างความหงุดหงิดใจให้ผู้ใช้มากที่สุดก็คือเรื่องของอัตราการกินแบตเตอร์รี่ที่ไวขึ้นอย่างน่าใจหายนั่นเอง
วันนี้ Wandera ออกมาเปิดเผยข้อมูลสำคัญที่น่าจะช่วยให้หลายๆ คนที่ยังไม่ได้ทำการอัพเดต iOS11 ได้ลองตัดสินใจชะลอกันอัพเดตออกไปก่อน โดยข้อมูลที่ว่านั้นเป็นการเก็บสถิติจากผู้ใช้งานเครือข่ายของต้นทั้งสิ้น 50,000 รายที่ใช้ iPhone และ iPad ไล่ไปจากกลุ่มที่ใช้งานปานกลางทั่วไปและกลุ่มที่ใช้งานหนัก ผลปรากฏว่า iOS11 นั้นกินแบตเตอร์รี่มากกว่า iOS10 แบบมหาโหด ซึ่งคิดเป็นมากกว่าสองเท่าของแบตเตอร์รี่ที่ใช้งานในเวลาเท่ากันบน iOS10 เลยทีเดียว
เมื่อลงลึกลงไปถึงตัวเลขพบว่าผู้ใช้งาน iPhone เคยใช้งานตัวเครื่องบน iOS10 ได้เฉลี่ยที่ 240 นาทีต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง แต่เมื่ออัพเดตมาเป็น iOS11 นั้น ผู้ใช้งานจะสามารถใช้งานได้เฉลี่ยเหลือเพียง 96 นาทีเท่านั้นต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ซึ่งเป็นตัวเลขที่ลดลงประมาณ 60% เลยทีเดียว
“ในอีกนัยหนึ่งก็คือ iOS 10 นั้นกินแบตเตอร์รี่ประมาณ 0.006958% ต่อวินาที ในขณะที่ iOS 11 นั้นกินแบตเตอร์รี่ที่ 0.01739% ต่อวินาที” Wandera อธิบายไว้ในรายงาน
Wandera คาดว่าสาเหตุหลักของการกินแบตเตอร์รี่ในครั้งนี้น่าจะมาจากรูปแบบการอินเด็กซ์แบบใหม่ของ Spotlight ที่ Apple นำมาใช้ใน iOS11 นั้นเอง และส่วนหนึ่งเกิดจากการที่คนอยากทดลองเล่นฟังก์ชั่นต่างๆ ใน iOS11 ที่ตนเพิ่งอัพเดตไป แต่นั้นก็ยังไม่ใช่ปัญหาที่ควรจะทำให้เกิดอัตราการสิ้นเปลืองแบตเตอร์รี่ที่สูงขึ้นถึง 60% อยู่ดี และเพราะเหตุนี้ Wandera จึงออกคำแนะนำให้ผู้ใช้งาน iPhone, iPad อย่าเพิ่งอัพเดตระบบของตัวเองก่อนหากยังไม่ได้ทำ และรอจนกว่า Apple จะมีการอัพเดตแก้ไขออกมา
น่าแปลกใจที่เราไม่ได้ยินรายงานเรื่องการกินแบตเตอร์รี่เกิดขึ้นกับ iPhone ตัวใหม่อย่าง iPhone 8 และ iPhone 8 Plus เลย ซึ่งเท่าที่เห็นก็มีเพียงรายงานของเครื่องรุ่นก่อนหน้าที่ทำการอัพเกรดขึ้นมาเป็น iOS11 เท่านั้น แต่ ณ ตอนนี้คงได้ข้อสรุปแล้วว่าใครยังไม่อยากเป็นเสือปืนไว แอละสามารถรอได้ก็ควรตัดใจรอการอัพเดตเพิ่มเติมจาก Apple ก่อนดีกว่าแล้วค่อยอัพเดตต่อไป