ย้อนกลับไปเมื่อประมาณเดือนมิถุนายน 2556 ที่ผ่านมา Apple ได้แนะนำให้เรารู้จักกับ iOS เวอร์ชั่นใหม่ที่ถือได้ว่าเป็นการพลิกหน้าประวัติศาสตร์ของ iOS โดยสิ้นเชิง ไม่ว่าจะทางด้านรูปลักษณ์ หน้าตา และความสามารถทางการใช้งาน จนต้องขอยืมคำของ Apple มาใช้เลยว่า “นี่มันเหมือนมือถือเครื่องใหม่ชัดๆ”
แต่แน่นอนว่ากว่าจะออกมาเป็นตัวเต็มให้เพื่อนๆ ได้ดาวน์โหลดไปอัพเกรดใช้งานกันในวันนี้นั้น iOS7 ผ่านการพัฒนามาแล้วถึง 7 เวอร์ชั่นด้วยกัน (รวมเวอร์ชั่น GM) และได้มีการแก้ไขปรับปรุงบั๊คต่างๆ ที่ผู้ร่วมทดสอบได้พบเจอกันไปนักต่อนัก โดยผมยังจำได้ดีในวันแรกที่ได้ลองใช้ iOS7 เบต้า 1 นั้น ปัญหาที่ผมพบเจอมีมากมายหัวแตกไปหมด เริ่มตั้งแต่แอพพลิเคชั่นอีเมลที่มาจากทาง Apple โดยตรงที่เข้าไม่ได้ เด้งกันเป็นพรรวรรณ ต่อด้วยปัญหาการโซ้ยแบตของ iOS เวอร์ชั่นใหม่นี้ ตลอดยาวไปจนปัญหาเรื่องซาฟารีค้าง (แล้วตรูตะเข้าอินเตอร์เน็ตยังไงฟะ) แล้วก็ปัญหาการลงแอพพลิเคชั่นสำคัญๆ อย่าง Skype และอื่นๆ อีกมากมายไม่ได้ที่ตามมาเป็นทิวแถวอีก จนต้องบอกว่า iOS7 นี้น่าจะมาเสถียรชนิดที่เกือบจะพร้อมใช้งานได้จริงๆ ก็ตอนเบต้า 6 เข้าไปแล้ว และมาพร้อมใช้งานจริงๆ ก็ตอน GM นี่แหละครับ
แต่ถึงจะอย่างนั้นคงต้องบอกว่า ตลอดระยะเวลา 3 เดือนที่อยู่กับเจ้า iOS7 นี้แม้จะมีปัญหาเกิดขึ้นอยู่เรื่อยๆ แต่ก็ประสมปนเปไปกับความประทับใจในตัว iOS 7 ที่ให้สิ่งที่ชาว iOS ต้องการได้เรียกได้ว่าแทบจะทั้งหมดเป็นอย่างดี และวันนี้ APPDISQUS จะพาเพื่อนๆ มาดูกันว่า ตลอดระยะเวลา 3 เดือนที่เราได้ทดสอบใช้งาน จนมาถึงวันนี้ที่ iOS7 ออกตัวจริงมาสักที เจ้าโอเอสเวอร์ชั่นล่าสุดนี้มีดีอย่างไรบ้าง
เครื่องรุ่นที่สามารถอัพเดต iOS7 ได้ และความสามารถที่แตกต่างกันไปในแต่ละรุ่น
จริงอยู่ว่า iOS7 นั้นชัดเจนว่าทำมาเพื่อรองรับการใช้งาน iPhone 5S และ iPhone 5C แบบเต็มสูบ แต่นั่นก็ใช่ว่า Apple จะใจร้ายไม่ยอมให้เครื่องที่พอรับไหวได้ไปต่อ โดยในการอัพเดตครั้งนี้นั้น เครื่องสองรุ่นที่ไม่ได้ไปต่อคือเครื่องรุ่นเก่ารหัสชื่อเรียกรุ่นเป็น 3 ทั้ง iPhone 3G และ iPhone 3GS แต่สำหรับผู้ที่ใช้งาน iPhone 4 หรืออุปกรณ์บนชิปเซ็ต A4 ขึ้นไปนั้นยังได้ไปต่อ แต่อาจไปได้แบบไม่เต็มที่สักเท่าไหร่นัก โดยในรายละเอียดมีดังต่อไปนี้
ฝั่งการถ่ายภาพและวิดีโอ
- การถ่ายภาพในหมวดหมู่พาโนราม่าจะสามารถใช้งานได้บน iPhone 4S และ iPod Touch 5 เป็นต้นไป สำหรับโหมดภาพแบบสี่เหลี่ยมและฟอร์แมตของวิดีโอรวมไปจนถึงการปัดนิ้วเพื่อแคปเจอร์นั้นจะสามารถใช้ไดงานได้ตั้งแต่ iPhone 4 และ iPad 3 (The New iPad), iPad Mini และ iPod Touch 5 เป็นต้นไป
- ฟิลเตอร์ต่างๆ ในแอพพลิเคชั่นกล้องถ่ายรูปของ Apple จะสามารถใช้ได้บน iPhone 4S และ iPod Touch 5 เป็นต้นไป แม้ว่าในรายการของ Apple จะระบุว่าเฉพาะ iPhone 5 ขึ้นไปเท่านั้นจึงจะใช้งานฟังก์ชั่นนี้ได้ แต่จากเฟิร์มแวร์เวอร์ชั่น GM ที่ออกมาให้ทดสอบก่อนหน้านี้เผยให้เห็นว่า iPhone 4S เองก็สามารถใช้งานฟังก์ชั่นนี้ได้เช่นเดียวกัน ส่วนฟิลเตอร์ในส่วนของการแต่งรูปภาพนั้นจะมีมาให้ตั้งแต่ iPhone 4, iPad 3 (The New iPad), iPad Mini และ iPod Touch 5 เป็นต้นไป
ฝั่งฟังก์ชั่นพิเศษอื่นๆ
- AirDrop จะสามารถใช้งานได้บน iPhone 5, iPad 4, iPad Mini และ iPod Touch 5 เป็นต้นไป โดยต้องใช้งานควบคู่ไปกับบัญชีของ iCloud
- Siri จะสามารถใช้งานได้บน iPhone 4S, iPad with Retina Display, iPad Mini และ iPod Touch 5 เป็นต้นไป โดยต้องใช้งานคู่กับการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต
- iPhone 4 และ อุปกรณ์ที่รันบนชิปเซ็ต A4 ทุกตัวจะไม่สนับสนุนการทำงานของฟีเจอร์ใหม่ที่เรียกว่า 3D Flyover และการใช้งานฟังก์ชั่นการนำทางแบบเรียลไทม์ในแอพพลิเคชั่นแผนที่ได้ นั่นรวมไปถึงฟังก์ชั่นอื่นๆ ที่มีเพิ่มเข้ามาเช่นการใช้งาน AirPlay แบบมิรเรอร์ เอฟเฟ็คโอเอสใหม่ที่เป็นแบบกึ่งโปร่งใสทั้งหมด ภาพพักหน้าจอแบบเคลื่อนไหวได้ และงานด้านกราฟิกที่พัฒนาขึ้นบน iOS7 นี้อื่นๆ อีกมากมาย
การติดตั้งและพื้นที่คงเหลือที่จำเป็นต้องใช้ในการอัพเดต
iOS7 สามารถทำการอัพเดตได้ผ่านทางการอัพเดตจากตัวเครื่องโดยตรงในเมนู Software Update หรือหากต้องการความยุ่งยากหน่อยก็เสียบสายเชื่อมต่อ iDevice ของคุณเข้ากับ iTunes บนคอมพิวเตอร์แล้วอัพเดตผ่านทางนั้น แต่ก่อนการอัพเดต เราอยากให้คุณ เตรียมพร้อมเครื่องของคุณและสำรองข้อมูลก่อนการอัพเดต iOS7 ไว้ให้เรียบร้อนก่อนเพื่อความปลอดภัย
บน iOS7 นี้ เนื้อที่คงเหลือของคุณจะลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับ iOS6 โดยเนื้อที่โดยละเอียดที่ระบบปฏิบัติการต้องการในแต่ละเครื่องนั้นแตกต่างกันไป และมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
คุณจำเป็นต้องเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตในกระบวนการอัพเดต ตั้งแต่ขั้นตอนการดาวน์โหลดเฟิร์มแวร์ไปจนถึงการแอคติเวตเครื่อง (สำหรับเครื่องใหม่) และหากคุณเลือกรีสตอร์ข้อมูลกลับจากคอมพิวเตอร์ คุณจำเป็นต้องเตรียมเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ของคุณที่มีโปรแกรม iTunes อยู่เอาไว้ด้วย หากเลือกรีสอตร์ผ่าน iCloud คุณสามารถเรียกคืนข้อมูลได้ผ่านทางอินเตอร์เน็ตหรือ Over The Air เลย
ด้านล่างนี้เป็นสกรีนช็อตของขั้นตอนการอัพเดต iOS7 หลังจากที่ดาวน์โหลดและติดตั้งโอเอสใหม่เสร็จเรียบร้อยแล้วเรียงตั้งแต่ต้นจนจบ กดดูรูปขั้นตอนไปทีละรูปได้เลยนะครับ โดยรูปภาพนี้นำมาจากเว็บไซต์ Arstechnica.com อีกทีครับ
ในหน้าต่อไป เราจะพูดถึงเรื่องการออกแบบดีไซน์ iOS7 ตัวใหม่นี้ รวมไปจนถึงภาคการใช้งานแบบละเอียดยิบ และบทสรุปจากการใช้งานมาตลอด 3 เดือน เชิญกดอ่านต่อหน้าต่อไปกันได้เลยครับ!