แอพพลิเคชั่นและการใช้งานที่แตกต่างกันออกไปในด้านของอารมณ์
ในเมื่อ UI หลักของตัวเครื่องได้รับการอัพเกรดไปแบบชนิดที่เรียกได้ว่าเปลี่ยนแปลงแบบสุดๆ กันไปแล้ว UI ทั่วไปของแอพพลิเคชั่นต่างๆ เองก็ต้องเปลี่ยนตามเช่นเดียวกันครับ โดยที่ผ่านมานั้นนักพัฒนาแอพพลิเคชั่นบน iOS ต้องเหนื่อยกับการก้ามตามการอัพเดตในช่วงปีสองปีหลังมากเป็นพิเศษเลยทีเดียว เริ่มตั้งแต่ตอนที่มีการอัพเกรดหน้าจอจากจอธรรมดามาเป็น Retina Display ต่อด้วยการอัพเดตขนาดของจอภาพจาก 3.5 นิ้ว มาเป็น 4.00 นิ้ว และล่าสุดนี้อีกกับการอัพเดตครั้งสำคัญในเรื่องของดีไซน์และการออกแบบจาก iOS แบบเดิมๆ ให้กลายมาเป็น iOS7 ครั้งนี้ APPDISQUS จึงอยากพาเพื่อนๆ มาดูความสามารถและความเก๋ไก๋ของฟังก์ชั่นเดิม/ใหม่ที่มีมากับ iOS7 กันสักหน่อย
ฟังก์ชั่นการค้นหาและศูนย์กลางการแจ้งเตือน (Search & Notification Center)
ฟังก์ชั่นค้นหา หรือ Search ที่ใน iOS6 ลงไปเคยทำได้โดยการปัดไปหน้าซ้ายสุดนั้น ใน iOS7 มีการปรับเปลี่ยนวิธีการเรียกใช้งานใหม่ให้สามารถเข้าถึงได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้นด้วยการตวัดนิ้วเป็นแนวดิ่งบนหน้าจอเบาๆ เพียงเท่านี้ฟังก์ชั่นการค้นหาก็จะเรียกตัวเองขึ้นมา ซึ่งการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ทำให้การใช้งานค้นหารายชื่อ แอพพลิเคชั่น เพลง และไฟล์ต่างๆ เป็นไปได้อย่างง่ายดายขึ้นมาทีเดียว ในขณะเดียวกัน UI ของฟังก์ชั่นนี้ก็เปลี่ยนไปมากกว่าเดิมเยอะ โดยเป็นการออกแบบคงสไตล์ความเป็น iOS7 เอาไว้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ด้วยพื้นหลังที่ขุ่นๆ กว่าสีวอลเปเปอร์ปกติของเรา โปร่งใสแบบเบลอๆ ให้เห็นด้านหลังได้เล็กๆ เพื่อคงธีมความสวยงาม ทำให้การเรียกใช้งานการค้นหาดูไม่ขัดตาโดดอารมณ์เกินไปเหมือนอย่างที่เคยเกิดขึ้นในโอเอสก่อนหน้านี้
อีกฟังก์ชั่นที่ขอพูดถึงไปควบคู่กันคือฟังก์ชั่นศูนย์กลางการแจ้งเตือนซึ่งมีวิธีการเรียกใช้งานที่ใกล้เคียงกับฟังก์ชั่นค้นหาก่อนหน้า โดยสำหรับฟังก์ชั่นนี้นั้นการเรียกใช้งานสามารถทำได้ง่ายๆ โดยการลากนิ้วจาก “มุมบนสุดขอบจอ” ลงมาบริเวณจอภาพของเรา เพียงเท่านี้ศูนย์กลางการแจ้งเตือนหรือ Notification Center ก็จะปรากฏขึ้นมา โดยในฟังก์ชั่นนี้ Apple ออกแบบ UI มาได้อย่างสวยงาม ใช้ง่าย และเข้าใจได้ง่ายเพียงชายตามองมากๆ เพราะ UI ของมันจะแบ่งออกเป็น 3 แท็บด้วยกัน โดยแบ่งเป็น “วันนี้” “ทั้งหมด” และ “ไม่ได้รับ” ความหมายก็ตามชื่อของมันเลยครับ โดยมีรายละเอียดดังนี้
แท็บแรก “วันนี้” จะแสดงเหตุการณ์สำคัญๆ ที่เกิดขึ้นภายในวันนี้เช่นบอกวันที่ พยากรณ์อากาศ ปฏิทินของวันนี้ตลอดจนนัดหมายที่กำลังจะมาถึงในวันพรุ่งนี้ และใครที่ชอบเทรดหุ้นก็จะแสดงการเคลื่อนไหวของหุ้นให้เห็นในหน้านี้เลย ส่วนในแท็บ
แท็บที่สอง“ทั้งหมด” นั้นจะเป็นการแสดงการแจ้งเตือน “ทั้งหมด” ที่ระบบส่งมาให้คุณ ไม่ว่าจะจากแอพพลิเคชั่นต่างๆ รวมไปจนถึงข้อความและอีเมล
และในส่วนของแท็บ “ไม่ได้รับ” นั้นเป็นการแสดงการแต้งเตือนจากแอพพลิเคชั่นที่เรายังไม่ได้เปิดหรือตรวจสอบดู (หลักๆ แล้วจะเป็นพวกเหตุการณ์สำคัญๆ โดย Apple จะทำการคัดกรองเองว่ามันสำคัญพอไหม ดังนั้นเราจะไม่ค่อยได้เห็นการแจ้งเตือนจากเกมในบริเวณนี้สักเท่าไหร่นัก) เพื่อให้เราไม่พลาดทุกเหตุการณ์สำคัญนั่นเอง
ฟังก์ชั่นการควบคุมมัลติทาสกิ้งและการจัดการแฟ้ม (Multitasking & Folder)
ฟังก์ชั่น Multitasking หรือการควบคุมการสลับการใช้งานระหว่างแอพพลิเคชั่นของ iOS7 ในครั้งนี้ถือว่าเปลี่ยนไปเยอะมากเลยทีเดียวทั้งทางด้านหน้าตาและความสามารถของมัน โดยในส่วนของหน้าตานั้นเราคงไม่เจาะลงไปเยอะมากนักเพราะมันก็เหมือนกับฟังก์ชั่นอื่นๆ ที่ Apple ออกแบบมาให้รองรับไปกับ UI ของ iOS7 แต่เรื่องของการใช้งานคือสิ่งที่ต้องพูดถึงเป็นอย่างยิ่ง โดยการใช้งานของ Multitasking ในครั้งนี้นั้นไม่ได้ดูทื่อๆ เซ่อๆ เหมือนอย่างตัวก่อนหน้าแต่อย่างใด ซึ่งเจ้า Multitasking ตัวนี้นั้นสามารถพรีวิวแอพพลิเคชั่นที่เราเปิดใช้งานอยู่ได้เป็นหน้าต่างแบบเรียลไทม์ตามการใช้งานจริง เรียกได้ว่านี่คือ Multitasking ที่ช่วยพรีวิวแอพพลิเคชั่นที่เปิดอยู่ได้อย่างสมบูรณ์มาก และหากเราต้องการจะเรียกใช้แอพพลิเคชั่นไหนนั้นก็คือกดลงไปที่หน้าต่างนั้นๆ เพื่อเรียกแอพที่ต้องการขึ้นมาใช้งานนั่นเอง และหากต้องการปิดแอพพลิเคชั่นบางตัวออกจากการทำงานก็เพียงแค่ตะหวัดมันทิ้งไปจากหน้าจอเหมือนเขี่ยสิวเสี้ยนทิ้งไปอย่างไม่จำเป็นต้องแคร์ แค่นี้มันก็ปิดการทำงานอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว
ฟังก์ชั่นนี้ถือว่ามีการพัฒนาจาก Apple มามากทีเดียวตลอดระยะเวลาที่ iOS7 ยังอยู่ในช่วงของการทดสอบ โดยเริ่มตั้งแต่ช่วงเบต้าแรกๆ ที่การจำเรียกแอพพลิเคชั่นในหน้า Multitasking มาใช้งานได้นั้นต้องใช้การแตะลงไปที่ไอคอนเล็กๆ ของแอพพลิเคชั่นซึ่งขอบอกเลยว่าทำได้ไม่สะดวกมากๆ หลังจากนั้น Apple ก็ใจดีขึ้นมาหน่อยด้วยการให้แตะลงไปที่หน้าต่างแอพที่ต้องการใช้งานได้ แต่มีข้อแม้ว่าต้องแตะสองครั้ง และเป็นอีกครั้งที่ผมว่าล้มเหลว เพราะมันไม่คล่องมือเอาซะเลย ก่อนจะมาถึงเวลาชั่นท้ายๆ (น่าจะสักเบต้า 5 – 6) ที่เราสามารถแตะลงไปที่หน้าต่างแอพพลิเคชั่นได้เลยเพียงครั้งเดียวก็เรียกแอพมาใช้งานได้อย่างในปัจจุบันซึ่งทำให้การใช้งานเป็นไปได้อย่างคล่องตัวมากที่สุดเลย ส่วนวิธีการเรียกใช้งาน Multitasking นั้นก็ยังเหมือนกับเวอร์ชั่นอื่นๆ ก็คือการจิ้มปุ่มโฮมสองครั้งติดกันนั่นเอง
อังหนึ่งฟังก์ชั่นที่เท่าที่ลองใช้งานดูแล้วรู้สึกว่าเป็นไมเนอร์เชงจ์มากๆ ก็คือฟังก์ชั่นโฟลเดอร์ที่ขอไม่พูดอะไรมากไปกว่าเหมือนกับ iOS6 แต่ต่างกันตรงที่ UI ถูกปรับเปลี่ยนให้เป็นแบบ iOS7 เท่านั้นเอง
ฟังก์ชั่นการเรียกใช้งานแผงควบคุมและภาพพักหน้าจอแบบใหม่ที่เลือกทั้งทั้งเคลื่อนไหวและคงที่ (Control Center & Wallpaper)
การเรียกใช้งานแผงการควบคุมหรือ Control Center นั้นทำได้ง่ายๆ มากครับใน iOS7 เพราะเพียงคุณ “ลากนิ้วขึ้นจากขอบจอล่างขึ้นมาบนจอ” เพียงเท่านี้คุณก็เรียกแผงควบคุมสวยๆ เก๋ๆ ขึ้นมาใช้งานได้แล้ว โดยในแผงควบคุมนั้นก็มีให้เราเลือกใช้ได้อย่างครบถ้วนตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบ ขอบอกว่ามีมากกว่าเข้าผ่านทาง การตั้งค่า เสียอีกนะเออ มีอะไรบ้างดูจากสกรีนช็อตด้านบนได้เลย
ฟังก์ชั่นบางฟังก์ชั่นในแผงควบคุมใช้ได้เฉพาะกับอุปกรณ์บางรุ่นเท่านั้น เช่นฟังก์ชั่น AirDrop ที่เอื้อให้การเชื่อมต่อระหว่าง iDevice เป็นไปได้อย่างง่ายดายและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น (อารมณ์ประมาณ WiFi Direct ของ Samsung น่ะครับ) นอกจากนี้ฟังก์ชั่นใหม่ๆ ที่ไม่ได้มีอะไรน่าตื่นเต้นมากมายแต่อาจมีประโยชน์ในบางสถานการณ์อย่างฟังก์ชั่นไฟฉายก็มีใส่เพิ่มเข้ามาพร้อมพาเนลในการเปิดปิดได้จากแผงการควบคุมนี้เลย
อีกหนึ่งฟังก์ชั่นที่ถือเป็นการอัพเกรดตัวเองขึ้นมาให้เท่าทันสมัยได้เป็นอย่างดีบน iOS7 ก็คือการเปลี่ยนภาพพื้นหลังที่มีให้เลือกสองลักษณะคือแบบภาพเคลื่อนไหว (ไม่คงที่) และภาพนิ่ง (ภาพฉากนิ่ง) ตามที่เราเห็นอยากเลย ซึ่งภาพเคลื่อนไหวนั้นก็ตามชื่อมันบอก แต่ความเก๋มันอยู่ที่การเคลื่อนไหวนั้นไม่ได้อาศัยการเคลื่อนไหวโดยตรงจากภาพเท่านั้น หากแต่ยังเป็นการบวกเอาเซ็นเซอร์จับการเคลื่อนไหวของตัวเคลื่องมาใช้เพื่อให้ภาพเคลื่อนไหวเหล่านั้นสามารถทำงานได้ตามหลักฟิสิกซ์จริงอีกด้วย และการประยุกต์เอาเซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวนี้ยังนำมาใช้กับภาพพื้นหลังแบบนิ่งที่จะสามารถมองเห็นเป็นมุมตื้น ลึก หนา บางได้จากการเอียงหน้าจอแม้ภาพที่เราเลือกมาจะเป็นภาพนิ่งก็ตาม สองฟังก์ชั่นนี้ที่เพิ่มขึ้นมา บวกกับรูปภาพที่สวยๆ จะทำให้คุณสามารถสร้างพื้นหลังสุดเริ่ดให้กับ iDevice ของตัวเองได้ชนิดที่เอาไปอวดใครก็ไม่ต้องอายเขาเลย
จริงๆ แล้ว Apple ยังมีการใส่ฟังก์ชั่นน้อยใหญ่อีกมากกว่า 200 ฟีเจอร์มาให้กับการอัพเดต iOS7 ในครั้งนี้ แต่จะให้ APPDISQUS เราสาธยายครบทั้งหมดก็เห็นจะไม่ไหว เอาเป็นว่าที่เหลือลองไปเล่นกันดู แต่รับรองว่าเป็นอะไรที่เด็ดๆ และน่าสนใจทั้งนั้น
หนึ่งฟังก์ชั่นใหม่ที่อยากแนะนำเป็นพิเศษ (กันรายชื่อ หรือ Call Blocking) และอีกหนึ่งฟังก์ชั่นเดิมที่ได้รับการอัพเกรดใหญ่ (ดึงข้อมูลของแอปฯ อยู่เบื้องหลัง หรือ Background App Refresh)
ชาว iOS หลายๆ คนพยายามหาทางออกในการบล็อกหรือกีดกั้นเบอร์บางเบอร์ไม่ให้ติดต่อเราได้มาโดยตลอด และที่ผ่านมามีแอพพลิเคชั่นหลายๆ แอพที่สามารถทำหน้าที่ตรงส่วนนี้ได้ แม้จะออกแนวง่อยๆ ไปบ้างก็ตาม แต่ปัญหานี้จะหมดไปใน iOS7 ครับ เพราะว่า Apple มาพร้อมกับฟังก์ชั่นที่หลายๆ คนเรียกร้องหาแล้ว นั่นก็คือฟังก์ชั่น “กั้นรายชื่อ หรือ Call Blocking” ที่ทำให้คุณสามารถกีดกั้นสายที่ไม่ต้องการคุยด้วยได้จากตัวเลือกเมนูที่มีเพิ่มขึ้นในรายชื่อเบอร์โทรของคนนั้นๆ เลย เพียงกดที่ “ระงับสายผู้โทรนี้” จากนั้นก็เลือก “กั้นรายชื่อ” เพียงเท่านี้คนที่คุณไม่อยากคุยด้วย หรือไม่อยากรับสายก็จะไม่สามารถติดต่อคุณได้ทั้งจากทาง การโทร ข้อความและรวมไปถึงการทำ Facetime ด้วย
ส่วนฟังก์ชั่น ดึงข้อมูลของแอปฯ อยู่เบื้องหลัง หรือ Background App Refresh นั้นแม้ว่าจะมีมาตั้งแต่สมัย iOS ตัวก่อนแล้ว แต่ในตัวใหม่นี้ Apple ได้ใส่ความสามารถเบื้องหลังของมันลงไปให้ฉลาดขึ้นด้วยการให้แอพพลิเคชั่นที่เขียนมาบน API ใหม่นั้นสามารถเก็บข้อมูลการใช้งานที่ผู้ใช้งานใช้ในชีวิตประจำวันและเกี่ยวข้องกับแอพพลิเคชั่นของตนเพื่อเอาไว้ให้ระบบ iOS7 ประมวลผลเพื่อหาช่วงเวลาดาวโหลดอัพเดตใหม่ๆ ได้อย่างเหมาะสม ไม่ทำร้ายแบตเตอร์รี่ของผู้ใช้งานเหมือนอย่างที่ผ่านมาอีกต่อไป แม้ว่าฟังก์ชั่นนี้จะไม่ได้เห็นผลอะไรแบบเป็นชิ้นเป็นอัน แต่เราก็รู้สึกได้ตลอดระยะเวลาการใช้งาน iOS7 มาทั้ง 3 เดือนนี้ว่ามันทำงานจริง และยิ่งมาในเบต้า 6 เป็นต้นมา แบตเตอร์รี่ของ iPhone 5 ของผมอยู่ยั้งยืนยงขึ้นกว่าเดิมมากมายเลยทีเดียว