กล้องถ่ายรูป ฟังก์ชั่นการถ่ายวิดีโอ และอัลบัมรูปพร้อมการจัดระเบียบการดูรูปแบบใหม่
กล้องถ่ายรูป
iPhone ขึ้นชื่อลือชาอยู่แล้วในเรื่องของการใช้งานเป็นอุปกรณ์สำหรับการถ่ายรูปและวิดีโอในยุคสมัยของมันแต่ละรุ่น แต่สิ่งที่ทำให้หลายๆ คนผิดหวังเห็นจะเป็นแอพพลิเคชั่นกล้องถ่ายรูปของ Apple เองที่ยังไม่สามารถเอื้อการใช้งานได้อย่างเต็มที่เท่าที่ควรนัก แต่มาในครั้งนี้ Apple เองพยายามที่จะแก้ไขข้อบกพร่องเหล่านั้นออกไปให้มากที่สุด และขอเชิญทุกท่านพบกับแอพพลิเคชั่นกล้องถ่ายรูปใหม่บน iOS7 ที่มาพร้อมหลายสิ่งสำคัญๆ ที่เปลี่ยนแปลงไป
ใน iOS 7 มาพร้อมกับโหมดการถ่ายภาพทั้งสิ้น 4 แบบด้วยกัน (มือถือรุ่นเก่าๆ บางตัวไม่สามารถเล่นโหมดบางโหมดได้) โดยแบ่งออกเป็น “โหมดวิดีโอ” “โหมดรูปภาพ” “โหมดพาโนราม่า” และโหมดล่าสุดที่เปิดตัวมาใน iOS7 นี้ก็คือ “โหมดจตุรัส” ที่ขอบอกว่ายังหาเหตุผลไม่เจอจริงๆ ว่ามีเพื่ออะไร (น้องจากเพื่อ Instagram?)
UI ทั้งหมดของแอพกล้องใหม่นี้ก็ได้รับการพัฒนาไปใหม่หมดเลยครับ การเปลี่ยนหมวดกล้องสามารถทำได้ง่ายๆ เพียงการปัดนิ้วซ้ายหรือขวาบนหน้าจอเพื่อเลือกหมวดหมู่ (ง่ายมากๆ) การใช้งานลูกเล่นต่างๆ ก็ทำได้ง่ายๆ เพียงการจิ้มที่ไอคอนโหมดนั้น ยกตัวอย่างเช่นไอคอนที่คล้ายๆ ช่องเจ็ดสีแต่เป็นขาวดำ เมื่อกดแล้วจะพาคุณเข้าสู่การเลือกใช้ฟิลเตอร์ที่มากับกล้องที่เพิ่งเพิ่มเข้ามาใน iOS7 นี้
การถ่ายวิดีโอ
อีกหนึ่งจุดที่จำเป็นต้องพูดถึงมากๆ ใน iOS7 ก็คือในส่วนของการถ่ายวิดีโอ โดยในครั้งนี้ iOS7 (บน iPhone 5) สามารถที่จะใช้ฟังก์ชั่นซูมในขณะที่ถ่ายวิดีโอได้แล้ว ซึ่งแน่นอนว่านี่คือฟังก์ชั่นที่หลายๆ คนรอคอยอย่างใจจดใจจ่อมานานแต่ก็ต้องผิดหวังไปในหลายๆ ครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนกันครับ เพราะผมขอย้ำตรงนี้อีกครั้งว่า iOS7 สามารถถ่ายวิดีโอแบบซูมได้แล้วจริงๆ เอ้า! ใครยังไม่เชื่อก็ลองดูภาพประกอบด้านล่างนี้นะครับ
จะเห็นว่าในรูปเป็นโหมดการถ่ายวิดีโอ และในตอนนี้มีแถบซูมขึ้นมาด้านข้างแล้วนะครับ โดยวิธีการใช้แถบซูมนั้น จะใช้เป็นการลากนิ้วขึ้นลงเพื่อซูมเข้า/ซูมออก หรือจะใช้เป็นการขยุ้มหรือขยายนิ้วที่หน้าจอลงไปตรงๆ เลยก็ได้แล้วแต่ความสะดวกครับ เป็นอันเคลียร์ว่า Apple ได้ใส่ฟังก์ชั่นนี้มาใน iOS7 ของตัวเองตามที่ใครหลายๆ คนต้องการแล้วเป็นที่เรียบร้อย
เมื่อว่ากันถึงคุณภาพของรูปที่ถ่ายออกมาแล้วถือว่ายังไม่ได้เห็นอะไรแตกต่างไปจากเดิมเท่าไหร่นักครับ อาจเป็นเพราะฮาร์ดแวร์ของมันมาสุดที่ตรงนี้ ซอฟต์แวร์คงทำได้แค่เอื้อประโยชน์ในการใช้งานให้มากกว่าเดิมเสียมากกว่า แต่แหม…ไอ้เราก็แอบลุ้นไม่ได้เพราะเห็น HTC หรือ Nokia ยังชอบทำบ่อยๆ เลยไอ้ปล่อยเฟิร์มแวร์แล้วถ่ายรูปได้ดีขึ้นเนี่ย
อัลบัมรูปพร้อมการจัดระเบียบรูปภาพแบบใหม่
ใน iOS 7 นี้มีอีกหนึ่งอย่างที่ได้รับการพัฒนาไปให้ดีกว่าเดิมยิ่งขึ้น (ซึ่งของเดิมโดยส่วนตัวผมก็คิดว่าดีอยู่แล้ว) สิ่งๆ นั้นก็คือแอพพลิเคชั่นรูปภาพที่ไว้ใช้สำหรับดูอัลบัมรูปนั่นเอง โดยครั้งนี้ Apple เปลี่ยนแปลง UI ใหม่พร้อมกับเพิ่มฟังก์ชั่นพิเศษเข้าไปเพื่อให้การค้นหารูปภาพเป็นไปได้อย่างง่ายดายมากยิ่งขึ้น
ฟังก์ชั่นที่ว่านั้นก็คือการแบ่งการจัดเรียงรูปภาพออกเป็นสามหมวดหมู่ใหญ่ๆ โดยเริ่มจาก รูปภาพที่กำลังดูอยู่ ต่อด้วย “ชั่วขณะ” ซึ่งจะเป็นการแยกอัลบัมรูปออกจากกันโดยการใช้เกณฑ์วัน เวลา และสถานที่ๆ ถ่ายมาผสมกัน ก่อนจะต่อด้วย “ชุดรวม” ที่จะมองอัลบัมในมุมกว้างขึ้นไปอีก และท้ายที่สุดคือของใหม่ที่มีการเพิ่มเข้ามาเพื่อให้คุณสามารถจำแนกรูปออกจากกันได้เป็นปีๆ อย่าง “ปี”
แม้จะดูเป็นฟังก์ชั่นที่ไม่ค่อยจะมีอะไรมาก แต่อยากให้ลองมองในมุมที่ว่า เมื่อนานวันเข้า คุณถ่ายรูปเก็บเอาไว้มากขึ้นเรื่อยๆ สะสมกันหลายๆ ปีมากขึ้นเรื่อยๆ หากคุณต้องการย้อนกลับไปดูรูปเก่าๆ ในปีก่อนหน้านานๆ คุณคงต้องใช้วิธีสกรอล์หน้าย้อนกลับไปเรื่อยๆ เป็นแน่หากไม่มีการจัดเรียงเป็นรายปีแบบนี้ ทีนี้ล่ะงานงอกเลยล่ะครับ
แต่ที่น่าประทับใจกว่านั้นคือ UI ในส่วนของแอพพลิเคชั่นนี้ แม้มันจะดูเรียบง่าย แต่ก็ผ่านการออกแบบมาโดนคำนึงถึงการใช้งานจริงเป็นที่สุด เพราะทำให้การทำงานทุกอย่างง่ายมากจริงๆ ครับ และที่เด็ดไปกว่านั้นคือทรานซิชั่นของมันเวลาที่กดเปลี่ยนวิธีการเรียงการแสดงผลภาพไปเป็นวิธีต่างๆ มันให้ความรู้สึกเหมือนค่อยๆ ซูมเข้าเมื่อกดดูการเรียงภาพแบบละเอียดขึ้น และซูมออกเมื่อกดดูการเรียงภาพเป็นเป็นภาพกว้างมากยิ่งขึ้น ซึ่งตรงประเด็นและลงตัวกับลักษณะการใช้งานของมันมากทีเดียวครับ
การพัฒนาขึ้นอีกขั้นของ Siri พร้อมการถอดคำว่า “เบต้า” ออกจากนาม
อัพเดตทั้งระบบชุดใหญ่ขนาดนี้ทั้งที หากไม่อัพเดต Siri เลขาส่วนตัวของผู้ใช้ iPhone ทุกคน (ตั้งแต่ iPhone 4S เป็นต้นมา) ก็คงจะกะไรอยู่ แต่การกลับมาครั้งนี้ของ Siri นั้นหาใช่เพียงแค่การอัพเดตเพื่อเปลี่ยนตัวเลขเวอร์ชั่นไม่ แต่เป็นการอัพเดตที่มาพร้อมการถอดคำว่า “เบต้า” ที่ห้อยท้ายอยู่เป็นเวลานานไปเลยต่างหาก
Siri ในเวอร์ชั่นใหม่บน iOS7 นี้หลักๆ แล้วยังคงเหมือนเดิม ต่างกันก็ตรง UI ของมันที่แน่นอนว่ามีการคงธีมไว้ให้ออกมาในอารมณ์ iOS7 อยู่ รวมไปจนถึงความสามารถของ Siri เองที่เพิ่มมากขึ้นในเรื่องของประเด็นการถามตอบที่สามารถทำได้อย่างหลากหลายขึ้น วิธีการเรียกใช้งานสิรินั้นก็ยังคงเหมือนเดิมคือผ่านการกดปุ่มโฮมค้างเอาไว้หรือการยกโทรศัพท์ขึ้นมาแนบหู (หากตั้งค่าเอาไว้) Siri ก็จะโผล่ออกมาให้เราได้เรียกใช้งานโดยอัตโนมัติในทันที
แต่สิ่งที่มีเพิ่มเข้ามาอย่างเด่นชัดที่สุดในครั้งนี้ของ Siri ตัวเต็มบน iOS7 ก็คือการเพิ่มเสียงสนทนาของ Siri ให้เป็นเสียงผู้ชายเพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกใช้สิ่งที่ตัวเองฟังแล้วลื่นหูและสบายใจเป็นที่สุดได้นั่นเอง ถึงแม้ตัวผมเองจะคิดว่า Siri ก็ควรจะเป็นผู้หญิงน่ะแหละดีแล้วเพราะชื่อก็ออกแนวผู้หญิงเหลือเกินสำหรับคนไทยเรา (สิริ) แต่ก็เชื่อเช่นกันว่าหลายๆ คนอาจจะอยากได้ Siri เป็นผู้ชายมากกว่าด้วยเหตุผลอีกร้อยแปดพันเก้า
อย่างไรก็ตาม ประโยชน์ของ Siri สำหรับชาวไทยเราคงจะยังไม่เกิดง่ายๆ เพียงเท่านี้ ตราบใดที่ Siri ยังไม่เรียนรู้ที่จะพูดไทย เชื่อว่าคนไทยหมู่มากที่ใช้ iPhone / iPad อยู่ก็คงไม่คิดจะเรียก Siri ขึ้นมาใช้งานอย่างแน่นอน ดังนั้นผมขอไม่ลงลึกในส่วนนี้ไปกว่านี้ดีกว่า
อื่นๆ ประปรายที่ยังควรค่าแก่การพูดถึงอยู่บ้าง
นอกจากฟีเจอร์ใหญ่ๆ เด่นๆ ที่เราได้ใช้งานกันชีวิตประจำวันเวลาที่ใช้ iOS7 แล้ว เจ้าโอเอสใหม่ล่าสุดจาก Apple ตัวนี้ยังมาพร้อมกับการอัพเดตแอพพลิเคชั่นที่เคยได้ชื่อว่า “ห่วยขั้นเทพ” อย่าง Apple Map หรือแอพพลิเคชั่น “แผนที่” อีกด้วย สำหรับในส่วนของการใช้งานจริงนั้น ผมยังไม่มีโอกาสได้ลองจนสามารถบอกรายละเอียดอะไรได้มากมายนัก แต่ที่แน่ๆ คือในเวอร์ชั่นใหม่นี้ของ Apple Map มาพร้อมกับการบอกทางแบบเทิร์น บาย เทิร์น หรือการบออกทางแบบโค้งต่อโค้งอย่างแน่นอน (ในรุ่นที่รองรับ)
อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่น่าสนใจแต่ชาวไทยยังไม่ได้สัมผัสก็คือฟีเจอร์ที่มีชื่อว่า iTunes Radio ที่ Apple หมายมั่นปั้นมือว่าจะมาเป็นแอพพลิเคชั่นทางการตลาดที่สามารถแทนที่ Pandora ได้เลย แน่นอนว่าในตอนนี้เรายังไม่รู้ว่าอนาคตของมันจะไปในแนวทางใดเพราะว่าเราเองยังไม่มีโอกาสได้ลองเล่น แต่ทันทีที่ Apple เปิดให้ชาวไทยได้สัมผัสกับประสบการณ์การฟังเพลงผ่านทาง iTunes Radio บ้างแล้ว เมื่อนั้น APPDISQUS จะไม่ยอมพลาดที่จะเอามาลองทดสอบกันอย่างแน่นอน
นอกจากสองตัวนี้แล้วก็ยังมีแอพพลิเคชั่นอีกบางอย่างที่เรายังไม่ได้พูดถึง ไม่ว่าจะเป็น Game Center ที่มาพร้อมหน้าตา UI แบบใหม่ถอดด้ามและสวยงามน่าใช้งานกว่าเดิมแยะ ไปจนถึงฟังก์ชั่นใช้ประโยชน์ได้จริงที่อาจไม่ได้ดูแตกต่างจากเดิมไปสักเท่าไหร่นัก (เพราะของเดิมก็สวยอยู่แล้ว) อย่างสถาพอากาศ (Weather) และแอพพลิเคชั่นยิบย่อยจิปาถะอีกมาย เพราะหากให้เราสาธยายทั้งหมดออกมา มีหวังคงต้องเขียนกันแบบมารธอนเป็นแน่ เอาเป็นว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้างในแอพพลิเคชั่นพวกนั้น หรือมีความน่าสนใจอะไรใหม่ๆ รอคอยอยู่ในแอพจิปาถะเหล่านั้นอีก ผมขอให้เป็นหน้าที่ของเพื่อนๆ ที่จะไปร่วมพิสูจน์กันเองดีกว่าครับ
บทสรุปการใช้งาน iOS7 ตลอด 3 เดือนที่ผ่านมาตั้งแต่ “เบต้า” ยัน “เวอร์ชั่นเต็ม”
iOS7 ถือเป็นการอัพเดตที่ตั้งใจมากๆ ครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ Apple เลยทีเดียว มันให้หลายสิ่งหลายอย่างที่ผู้ใช้งานหลายๆ คนถวิลหาสุดชีวิต มันให้ความแปลกใหม่ที่ใครหลายๆ คนอาจไม่คิดไม่ฝันแล้วว่าจะได้พบเจอจากมือถือของ Apple มันให้ความตื่นเต้นจากการได้รองใช้ iOS ใหม่นี้แม้บนเครื่องมือถือและแท็บเล็ตเก่าของเรา แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่ลืมจุดเด่นด้านการใช้งานที่ง่ายและไม่ซับซ้อนของตัวเองไป เพราะเหตุนี้ในความรู้สึกแล้ว iOS7 จึงถือเป็นความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่และเป็นของขวัญอันมีค่าที่ Apple ตั้งใจทำขึ้นมาเพื่อนพวกเราชาว iOS อย่างแท้จริง
แต่ถึงอย่างนั้นอย่างหนึ่งที่ยังไม่เปลี่ยนแปลงไป และอาจทำให้ใครหลายๆ คนไม่ชอบใจก็คือเรื่องจริงที่ว่า Apple ยังไม่ยอมปลดปล่อยชาว iOS ให้เป็นอิสระจากการควบคุมของตัวเองเสียที เพราะแม้ใน iOS7 นี้ อะไรหลายๆ อย่างที่เคยขาดหายจะมีการใส่เพิ่มเข้ามา รวมไปจนถึง API ใหม่ๆ มากมายที่เอื้อให้นักพัฒนาสามารถหยิบยกไปเพื่อออกแบบแอพพลิเคชั่นได้หลากหลายเต็มไปหมด แต่ท้ายที่สุดแล้วการปิดกั้นก็คือการถูกปิดกั้นวันยันค่ำ Apple ยังคงไม่ยอมปล่อยให้ระบบปฏิบัติการของตัวเองกลายเป็นระบบเปิดเสียที ซึ่งแน่นอนว่าบางคนอาจเห็นว่าเป็นเรื่องดีเพราะมันมีประโยชน์มากมายทั้งการควบคุมการพัฒนาฮาร์ดแวร์เสริมและซอฟต์แวร์ภายในเครื่อง แต่อีกหลายๆ คนก็เห็นว่ามันคือความไม่อิสระ ที่ท้ายที่สุดแล้ว Cydia และการ Jailbreak ก็จะเป็นทางออกสำหรับใครหลายๆ คนที่รักใน iOS แต่ก็ไม่ชอบการถูกควบคุมกักกันแบบนี้
แต่ไม่ว่าจะอย่างไร APPDISQUS เองเชื่อแน่ว่าผู้ใช้งานทั้งหลายจะได้รับประโยชน์ที่มากับ iOS7 นี้มากกว่าโทษของมันอย่างไม่ต้องสงสัย ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ใช้งานในลักษณะใดก็ตาม เพราะฉะนั้นหากต้องให้สรุปในตอนนี้ ผมเองคงต้องบอกว่า iOS7 นี้ควรค่าแก่การดาวน์โหลดเพื่อมาติดตั้งในอุปกรณ์ iDevice ที่ยังคงรองรับทุกตัว เพราะว่า
“iOS7 นี้คือ iOS ที่ได้รับการพัฒนาปรับปรุงมาเพื่อเปลี่ยนยุคของระบบปฏิการ iOS อย่างแท้จริง!”
แล้วเพื่อนๆ ล่ะครับ หลังจากที่ได้ทดลองใช้งาน iOS7 แบบเต็มๆ กันไปแล้วมีอะไรอยากจะร่วมแชร์ประสบการณ์กันบ้าง ทิ้งทุกความคิดเห็น รวมไปจนถึงทิปและทริคดีๆ เกี่ยวกับ iOS7 ที่อยากบอกต่อเพื่อนๆ ทุกคนเอาไว้ในนี้ได้เลยนะครับ