มาตามกำหนดการกับ iPhone 13 โดยปีนี้มีทั้งหมด 4 โมเดล คือ iPhone 13 mini, iPhone 13, iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max โดย iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max ในปีนี้แทบไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมเท่าไหร่นัก จริง ๆ ตั้งชื่อว่า iPhone 12s ก็ยังได้
รายละเอียด iPhone 13 Pro
- หน้าตาโดยรวมเหมือน iPhone 12 Pro แต่รอยบากเล็กลงกว่าเดิม
- มีให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ blue, graphite, gold และ silver
- ตัวเครื่องวัสดุเดิม ด้านข้างเป็น stainless steel
- แรงด้วยชิปเซ็ต Apple A15 Bionic
- หน้าจอ ProMotion ที่สามารถปรับรีเฟรชเรตได้เองตั้งแต่ 10Hz – 120Hz ไม่มี Always on Display
- พอร์ต Lighting เหมือนเดิม
จุดเปลี่ยนแปลงสำคัญของ iPhone 13 Pro อยู่ที่กล้องเป็นหลัก ดังนี้
Advertisement
Advertisement
Advertisement
- อัปเกรดกล้องซูมเป็นระยะซูม 3x ที่ 77mm
- กล้อง Ultrawide รับแสงได้มากกว่าเดิมถึง 92%
- กล้องหลักตัวปกติมีประสิทธิภาพในการถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดีขึ้น 2.2 เท่า
- มีโหมดมาโครที่ใช้งานได้ทั้ง iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max
- Night mode ใช้งานได้ทุกเลนส์แล้ว
- เพิ่มฟิลเตอร์ Photographic Styles ทั้ง iPhone 13 และ iPhone 13 Pro ซีรีส์
- การถ่ายวิดีโอมีโหมด Cinematic Mode (หรือ Portrait mode ในวิดีโอ) ตัวอย่างคลิปด้านล่างนี้
https://www.youtube.com/watch?v=8Tl1RL8MRCA
ราคา
- iPhone 13 Pro
- รุ่นความจุ 128 GB ราคา 38,900 บาท
- รุ่นความจุ 256 GB ราคา 42,900 บาท
- รุ่นความจุ 512 GB ราคา 50,600 บาท
- รุ่นความจุ 1 TB (1,024 GB) ราคา 58,900 บาท
- iPhone 13 Pro Max
- รุ่นความจุ 128 GB ราคา 42,900 บาท
- รุ่นความจุ 256 GB ราคา 46,900 บาท
- รุ่นความจุ 512 GB ราคา 54,900 บาท
- รุ่นความจุ 1 TB (1,024 GB) ราคา 62,900 บาท