เมื่อคืน Apple ก็ได้เปิดตัวมือถือรุ่นใหม่ที่หลายคนรอคอย iPhone 6 และ iPhone 6 Plus ออกมาแล้วนะครับ กระแสก็ตีออกเป็น 2 ทางนั่นก็คือชอบมากและเฉยๆ ซึ่งนอกจาก iPhone 6 และ iPhone 6 Plus และยังได้เปิดตัว Smartwatch ของตัวเองออกมาด้วยในชื่อ Apple Watch ซึ่งบางคนก็ว่าสวย บางคนก็ว่าดูธรรมดาๆ
ส่วนตัวผมว่า iPhone 6 ดูไม่ค่อยสวยดูคล้าย HTC One Series แต่สวยน้อยกว่า และให้ความรู้สึกเดิมๆไม่ว้าวในเรื่องของ Design และสเปคก็ไม่ได้เหนือความคาดหมายทั้งชิป 64bit ก็ไม่ใช่ของที่น่าว้าวอะไร ความละเอียดจอก็ตามคาด (Android ไป 2K แล้วนะ อิอิ บางคนอาจจะเถียงว่า 2K ไปทำไม….ผมจำได้สมัย HD ไป Full HD ก็พูดกันแบบนี้แหละ เหอ เหอ) เรื่องกล้องมี OIS หรือเทคโนโลยี DSLR ผมไม่รู้สึกว้าวนะเพราะไม่ใช่ของใหม่แต่จริงๆ iPhone กล้องดีมาตลอดอยู่แล้วครับ ยังไงเจ้า iPhone 6 และ iPhone 6 Plus มันก็แจ่มพอที่จะทำให้แฟนๆปลื้มละครับ แต่คนที่เล่นทุก OS อย่างผมไม่ได้เป็นแฟนคลับ OS ไหนก็รู้สึกเฉยๆจังเลยอ่ะ
ส่วนเจ้า Apple Watch ก็ดูธรรมดามากๆไม่สวยหรูอย่างที่คาด และในส่วน UI ออกแบบได้ดูเด็กๆมากเลยอ่ะ และนวัตกรรมอย่างเม็ดมะยมอัจฉริยะ Digital Crown ก็ดูน่าสนใจแต่ไม่ค่อยน่าเชื่อว่าจะสะดวกกว่าการสัมผัสหน้าจอ ซึ่งก็ต้องขอลองดูก่อนนะครับว่าจะเจ๋งหรือเปล่า^^ที่น่าสนใจก็คือ Apple Pay ซึ่งสำหรับการทำธุรกรรม Online ผมว่ามันจะสมบูรณ์แบบมากขึ้นซึ่งสังเกตุว่า Blogger หลายๆท่านก็คิดตรงกันแทบทั้งนั้นเลย ซึ่งมันอาจจะดีแต่ผู้ใช้ก็ต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วนมากยิ่งขึ้นนะครับ เพราะมันจะทำให้เราสียเงินได้ง่ายกว่าเดิม^^
ถามว่าผมอยากได้ไหม…….ส่วนตัวจริงๆสนใจ Samsung Galaxy Note Edge หรือ Note 4 มากกว่านะแต่ก็อาจจะซื้อ iPhone 6 Plus มาใช้ซักพักครับ^__^(ผมมันพวกเปลี่ยนไปเรื่อยๆอ่ะ ใช้ได้เกิน 3 เดือนแปลว่ารุ่นนั้นผมต้องถูกใจมากๆ) แต่เจ้า Apple Watch คิดว่าคงไม่น่าจะซื้อนะเพราะผมยังสนใจไปที่ Samsung Gear S มากกว่าเยอะเลยครับ
แต่ผมเชื่อว่า iPhone 6 และ iPhone 6 Plus จะขายดีเหมือนเดิมแต่การที่ออกมา 2 รุ่นแบบนี้น่าจะซ้ำรอย iPhone 5s และ iPhone 5c ที่จะมีอีกรุ่นล้มเหลวแหงมๆ ซึ่งก็อาจจะเป็นแผนของ Apple นะ อิอิ และแน่นอนครับความจุ 64GB ขายดีแน่ๆเพราะเป็นความจุที่เหมาะสมในสภาวะที่ 32GB ไม่มีจำหน่ายแล้ว ราคาตอนนี้ก็มีข่าวว่าไม่ได้สูงมากอย่างที่คาดกันนอกจากอยากได้จนยอมให้พ่อค้าฟันหัวเบะ ซึ่งผมว่ามันออกจะ….แต่ของแบบนี้ว่ากันไม่ได้ครับความพอใจของแต่ละคนไม่เหมือนกัน^^
สำหรับราคาของ iPhone 6 จะเริ่มต้นที่ 199$ ส่วน iPhone 6 Plus จะเริ่มต้นที่ 299$ ราคานี้ติดสัญญา 2 ปีครับและจะมีความจุ 16GB, 64GB และ 128GB ให้เลือกจะไม่มีรุ่น 32GB แล้วนะครับ สำหรับข้อมูลต่างๆของ iPhone 6 และ iPhone 6 Plus สามารถไปอ่านได้ที่ลิงค์นี้ครับ
ข้อมูล Apple iPhone 6 และ iPhone 6 plus : ทุกสิ่งที่คุณควรรู้
และรายละเอียดจัดเต็มของ Apple Watch สามารถไปเสพกันได้ที่ลิงค์นี้ครับ
หน้าตานาฬิกา Apple Watch ครบทั้ง 33 โมเดล ครบทุกอีดิชั่น มีแบบไหนกันบ้างให้เลือกใช้
คลายข้อสงสัย รายละเอียด Apple Watch : มีกี่แบบ? กันน้ำมั้ย? ใช้งานมือซ้ายได้มั้ย? แล้วทำงานร่วมกับ iPhone อย่างไรได้บ้าง?
iPhone 6 (ซ้าย) มีหน้าจอ 4.7 นิ้ว iPhone 6 Plus (ขวา) มีหน้าจอ 5.5 นิ้ว
วัสดุเปลี่ยนมาใช้โลหะทั้งตัว บอกลากระจกด้านหลังได้เลย
ทั้ง iPhone 6 และ iPhone 6 Plus มีขนาดที่บางมากๆนั่นก็คือ iPhone 6 บาง 6.9 มม. และ iPhone 6 Plus บางเพียง 7.1 มม. เท่านั้นเอง
ยังคงมาพร้อม Fingerprint Sensor เหมือนเดิม
มีโหมดพิเศษที่จะนำไอค่อนทั้งหมดจากด้านบนลงมาด้านล่างเพียงแค่ แตะเบาๆที่ปุ่ม Home 2 ครั้งช่วยให้สามารถใช้งานมือเดียวได้สะดวกยื่งขึ้น
โหมดการใช้งานมือเดียว เมื่อใช้งานร่วมกับ Safari browser จะมีหน้าตาแบบนี้นะครับ
iPhone 6 Plus สามารถใช้งานในแนวนอนได้แล้วนะ
แอพพลิเคชั่นต่างๆก็ใช้งานในแนวนอนได้ครับ
หน้าตาการใช้งาน Mail ในแนวนอน
เราสามารถปรับขนาดไอค่อนให้เหมาะกับความใหญ่ของหน้าจอเราได้ด้วย
สามารถใช้ Zoom Mode เวลาอ่านจดหมายได้ด้วย เหมาะกับผู้สูงวัยนะเนี่ย5555
เรียงตามลำดับ iPhone 6 Plus, iPhone 6 และ iPhone 5
กล้องด้านหน้าได้รับการปรับปรุงให้ถ่าย Selfie ได้ดีขึ้น
เห็นหลายคนบ่นเวลามือถืออกแบบมาให้กล้องด้านหลังยื่นออกมา คราวนี้ iPhone 6 และ iPhone 6 Plus กล้องก็ยื่นออกมานะครับ ระวังเป็นรอยกันละ^^
iPhone 6 ที่มาพร้อมขนาดจอ 4.7 นิ้วอาจจะเหมาะสำหรับคนส่วนใหญ่ แต่ผมฟันธงเลยว่า iPhone 6 Plus ขายดีกว่าแน่นอน เหอ เหอ
มาพร้อมเคสครับ เรียบๆและสีสันหลากหลาย
iPhone 6 สีทอง อืม………….พอดูแบบนี้ยังกะมันติดสติ๊กเกอร์แนะครับ5555