Steve Bridgett สามีของ Lisa Bridgett หนึ่งในเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายจากเหตุการณ์ก่อการร้ายด้วยการวางระเบิดฆ่าตัวตายในแมนเชสเตอร์ ได้โพสอัพเดตล่าสุดผ่านทาง Facebook ส่วนตัวว่า ภรรยาของตนนั้นกำลังคุยโทรศัพท์อยู่ในจังหวะที่ Salman Abedi มือระเบิดฆ่าตัวตายกดปุ่มระเบิดที่เป็นผลให้มีเศษน็อตโลหะจำนวนมากมายพุ่งออกมาจากตัวระเบิดไปรอบๆ บริเวณ
น็อตโลหะเหล่านั้นจำนวนหนึ่งพุ่งเข้าตัดนิ้วมือของ Bridgett ก่อนจะทะลุไปโดนช่วงล่างของ iPhone 6s Plus ของเธอ ซึ่งทำให้ทิศทางการพุ่งของมันเกิดการชลอความรุนแรงจากการโดนหักเหให้ผิดทิศทางไป ท้ายที่สุดแล้วน็อตตัวหนึ่งได้พุ่งทะลุเข้าผ่านแก้มของ Bridgett ไปก่อนที่จะไปหยุดอยู่ที่โพรงจมูกของเธอ
จากรูปที่มีการเผยแพร่ผ่านทาง Facebook เผยให้เห็นว่าน็อตตัวดังกล่าวนั้นได้ทะลุผ่านและฉีกกรอบอะลูมิเนียมของ iPhone ของ Bridgett จนเปิดออก ก่อนที่จะทะลุพ้นชุดลำโพงของโลจิกบอร์ดและหน้าจอของ iPhone 6s Plus เข้าไปยังแก้มและจมูกของเธอ
ก่อนหน้านี้เคยมีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่แข็งแรงของตัวอะลูมิเนียมที่ Apple นำมาใช้ในการผลิต iPhone 6 และ iPhone 6 Plus จนเป็นผลให้ Apple มีการรื้อโครงสร้างด้านนอกของ iPhone 6s และ 6s Plus ขึ้นมาใหม่โดยเปลี่ยนเกรดของอะลูมิเนียมเป็น 7000 เพื่อความแข็งแรงคงทนที่มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ซึ่งเดิมทีถูกใช้เป็นวัสดุในการผลิตตัวเรือนของ Apple Watch รุ่น Sport ในเวอร์ชั่นแรก ก่อนที่ต่อมาในปัจจุบันนี้จะถูกใช้เป็นวัสดุในการผลิต iPhone 7 และ iPhone 7 Plus รวมไปจนถึง Apple Watch ในเจนเนอร์เรชั่นที่ 2 ด้วย
จากสถานะล่าสุดที่เผยแพร่ผ่านทาง Facebook ระบุว่า ในตอนนี้ Bridgett “อารมณ์ดีแล้วและรู้สึกโชคดีที่ตนยังมีชีวิตรอดอยู่” หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดย Steve Bridgett ผู้เป็นสามีได้กล่าวขยายถึงเหตุการณ์ที่ภรรยาของตนรอดตายอย่างปาฏิหาริย์ในครั้งนี้ไว้กับ The Guardian เพิ่มเติมว่า
“ความจริงที่ว่าเธอกำลังคุยโทรศัพท์อยู่ในขณะที่เกิดการระเบิดนี้อาจจะเป็นสิ่งที่ช่วยชีวิตเธอเอาไว้ก็ได้” Steve Bridgett กล่าว “น็อตได้ชนกระแทกเข้ากับโทรศัพท์ของเธอ ซึ่งทำให้น็อตดังกล่าวเปลี่ยนวิถีการพุ่งชนไปรวมไปจนถึงทำให้มันช้าลงอย่างชัดเจนด้วย”
งานนี้เรียกได้ว่า พก iPhone ไว้ อาจปลอดภัยไม่ต่างๆ จากเครื่องรางของขลังกันเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม APPDISQUS ต้องขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายที่จากรายงานล่าสุดระบุยอดผู้เสียชีวิตสูงถึง 19 คนและบาดเจ็บอีก 59 คน หนึ่งคืนดีๆ ของเหล่าวัยรุ่นและคนที่ต้องการจะเข้าไปร่วมคอนเสิร์ตของ Ariana Grande กลับต้องมีกลายเป็นโศกนาฏกรรมแสนเศร้าที่สะเทือนโลกไปเพียงเพราะความไม่ประสงค์ดีของคนบางกลุ่มเท่านั้นเอง