TENAA Certification หรือให้เปรียบเทียบแล้วก็ประมาณ FCC ในอเมริกา หรือคณะกรรมการกลางกำกับดูแลกิจการสื่อสารของบ้านเรา เผยรายละเอียด iPhone 8 Plus และ iPhone 8 และหนึ่งในนั้นคือรายละเอียดเกี่ยวกับแบตเตอร์รี่ที่หลายๆ คนสงสัยนั่นเอง
โดย TENAA เผยว่า iPhone 8 ซึ่งมาพร้อมรหัส A1863 นั้นมีหน้าจอขนาด 4.7 นิ้ว ความละเอียด 1334×750 พิกเซล ในตัวบรรจุ RAM 2GB และใช้ซีพียูออนบอร์ด Apple A11 Bionic ที่คล็อกไว้ที่ 2.4GHz ทั้งนี้ที่น่าแปลกคือในรายละเอียดระบุว่าตัวเครื่องจะมาพร้อมหน่วยความจำภายใน 64GB, 128GB และ 256GB ซึ่งต่างจากที่ Apple ประกาศและขายจริงแล้วอย่างน้อยๆ ในสิงคโปร์ที่ 64GB และ 256GB เท่านั้น
iPhone 8 มาพร้อมกล้องหลังความละเอียด 12 ล้านพิกเซล และกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ในส่วนของแบตเตอร์รี่ที่หลายๆ คนสงสัยนั้นมีความจุอยู่ที่ 1821mAh ซึ่งลดลงจาก iPhone 7 ที่อยู่ที่ 1960mAh พอประมาณเลย
สำหรับ iPhone 8 Plus นั้น ตามรายละเอียดจาก TENAA แล้วระบุเป็นรหัส A1864 มาพร้อมหน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด 1080×1920 พิกเซล ภายในบรรจุ RAM 3GB และมาพร้อมหน่วยประมวลผล A11 Bionic ที่คล็อกไว้ที่ 2.4GHz เช่นเดียวกับใน iPhone 8
ในส่วนของหน่วยความจำหลักนั้น TENAA ระบุไว้ตรงกับ Apple ที่ 64GB และ 256GB โดยมาพร้อมกล้องที่เหมือนกับใน iPhone 8 เด๊ะๆ แต่ที่เพิ่มเข้ามาคือกล้องรองในกล้องคู่หลังที่เป็นเลนส์เทเลโฟโต้ความละเอียด 12 ล้านพิกเซลนั่นเอง
แบตเตอร์รี่ของ iPhone 8 Plus นั้นอยู่ที่ 2,675mAh ซึ่งลดลงจาก iPhone 7 Plus ในปีก่อนที่มีความจุของแบตเตอร์รี่ที่ 2,900mAh เช่นเดียวกัน
ส่วนใครที่สงสัยเรื่องแบตเตอร์รี่ของ iPhone X ณ ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลปรากฏบนหน้าเว็บไซต์ TENAA หากแต่มีลีคเกอร์ชื่อดังอย่าง @OnLeaks ได้ปล่อยรายละเอียดที่ระบุแหล่งข่าวที่ยังไม่ยืนยันว่า iPhone X นั้นจะมาพร้อมแบตเตอร์รี่ความจุเท่ากันกับ iPhone 8 Plus ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 2,700mAh นั่นเอง
ณ ตอนนี้หากมองหาความชัดเจนคงยังไม่มีใครออกมายืนยันได้ (เว้นแต่ iPhoen 8 Plus และ iPhone 8 ที่ออกมาจากทาง TENAA เองซึ่งก็มีความน่าเชื่อถือไม่น้อยหากไม่มีอะไรผิดพลาด) อย่างไรก็ตามรอกันอีกไม่นานเราคงเห็น iFixIt หรือเว็บไซต์ประเภทเดียวกันนี้นำเจ้า iPhone ตัวใหม่ทั้ง 3 ตัวมาแงะเปิดเครื่องเพื่อดูเครื่องในของพวกมันและยืนยันกับเราอย่างเป็นทางการอีกครั้งเพื่อความแน่นอน แต่กว่าจะถึงตอนนั้น อย่างน้อยๆ ตอนนี้เราก็มีข้อมูลคร่าวๆ แล้วว่า 2 ชั่วโมงที่เพิ่มขึ้นจาก iPhone 7 ตามที่ Tim Cook กล่าวไว้ในงานคีย์โน็ตของ iPhone X นั้นไม่น่าจะมาจากแบตเตอร์รี่ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นแล้ว หากแต่น่าจะมาจากตัวระบบ iOS11 และชิปเซ็ตต่างๆ ที่ใส่เข้ามในตัวเครื่องเองที่น่าจะมีความสามารถด้านการประหยัดพลังงานสูงขึ้น
ซึ่งหากชั่วโมงแบตเตอร์รี่ใช้ได้นานขึ้นกว่า iPhone ตัวเก่าจริงก็ต้องยอมรับว่า Apple นั้นได้ประสบความสำเร็จอีกขั้นของการประหยัดพลังงานบนมือถือนั่นเอง แต่อย่างไรก็ตามเราคงต้องมาดูกันอีกครั้งในตอนใช้จริงซึ่งก็ยังไม่มีกำหนดเปิดตัวในไทยโน่นเลย