ในช่วงแรกของการขาย iPhone รุ่นใหม่ จะเห็นได้ว่าสาวกต่างเข้าคิวจะซื้อ iPhone 8 Plus มากกว่ารุ่นหน้าจอเล็กกว่าอย่าง iPhone 8 นั่นก็เพราะว่า แฟนๆชื่นชอบฟีเจอร์ที่เหนือชั้นมากกว่า ด้วยสุดยอดเทคโนโลยี กล้องคู่ (dual-camera) แต่ iPhone 8 ได้เพียงกล้องตัวเดียวเท่านั้น , แล้วก็อีกจุดที่เด็ดกว่าก็คือ แบตเตอรี่บิ๊กบึ้ม ที่ช่วยให้ใช้งานได้อึดกว่า iPhone 8 ถึง 25% (คหสต. : อาจจะเพราะว่าแฟนๆที่เคยซื้อรุ่นเก่าๆ คงเบื่อกับการวิ่งหาปลั๊กไฟ ตอนใช้งานนอกบ้านแล้วมั้ง?) ซึ่งส่งผลให้ 8 Plus เป็นไอโฟนที่แบตอึด ถึก ทน ที่สุดเท่าที่ทางเว็บ phonearena เคยทดสอบมา เอ้าาาา รออะไร ปรบมือสิ (แปะๆๆๆๆๆ)
ด้วยเหตุนี้จึงต้องยก ความดีความชอบ ให้กับชิปเซ็ตมหาเทพจิ๋วแต่แจ๋วอย่าง A11 Bionic ที่ขนาดเพียง 10 นาโนเมตร แต่พลังแรงเหลือเชื่อ แถมยังกินแบตน้อยลง ถ้าเพื่อนๆยังจำที่เราเคยเขียนข่าวไปแล้วว่า คะแนนเทสสูงเหนือกว่า Android ตัวท็อปเกิน 50% ได้นะ ซึ่งเพื่อนๆคอมเมนท์เข้ามาแสดงความเห็นแบบถล่มทลาย จนแฟนเพจ Appdisqus แทบล่ม เช่น “ซื้อมาทำไมแพงๆ สุดท้ายก็เล่นแต่ facebook” , “เราใช้มือถือไม่กี่พันก็ตอบโจทย์แล้ว” ประมาณนี้นะครับ ลองเลื่อนๆหาดูในแฟนเพจเราเอาเองนะ ^^
กลับมาเล่าข่าวกันต่อ … ซึ่งสาเหตุที่แท้จริงว่าทำไม Apple ต้องทำชิปแรงนรก นั่นก็เพราะ ต้องการจะตอบโจทย์ผู้ใช้ที่ “เล่นเกมหนักๆกราฟฟิกเทพๆ , ใช้งาน AR และ ตัดต่อคลิปความละเอียด 4K เป็นต้น” แต่ว่าสเปคในภาพรวมของ iPhone 8 Plus เช่น สัดส่วนหน้าจอ , จำนวน RAM และ Software ยังคงเหมือนกับ iPhone 7 Plus ส่วนแบตของ iPhone 8 Plus มีความจุ 2,691 mAh แต่กลับใช้งานแบตได้นานกว่าแบตของ iPhone 7 Plus ที่มีความจุมากกว่าที่ 2,900 mAh เราเลยต้องยกเครดิตให้ชิป A11 Bionic อีกครั้งครับ
ทดสอบการใช้งานแบต (ชั่วโมง) : ยิ่งมากยิ่งดี
ถ้าเพื่อนๆยังไม่เชื่อนะ เราก็มีผล test ให้ดูโดยการนำเอาสมาร์ทโฟนรุ่นระดับแนวหน้า มาเปรียบเทียบกัน ซึ่งในกลุ่มนี้ก็มีบางรุ่นที่ใช้หน้าจอละเอียดเช่น QuadHD ไม่ก็ QuadHD+ อยู่ด้วยซึ่งกินแบตมากกว่า หน้าจอ 1080p ของ iPhone 8 Plus และแน่นอนว่า ในกลุ่มมือถือนี้ก็ยังมีบางรุ่นที่ใช้หน้าจอ Full HD เช่น Xiaomi MI6 นอกจากชิปเซ็ตแล้ว iOS 11 ยังช่วยจัดการพลังงานได้ดี จนทำให้ iPhone 8 Plus สามารถ standby ได้นาน 1 วันครึ่ง ถึง 2 วัน ขึ้นอยู่กับการใช้งานของเราว่าใช้เยอะแค่ไหน
ทดสอบการชาร์จแบต (นาที) : ยิ่งน้อยยิ่งดี
ในขณะเดียวกันเมื่อเปรียบเทียบเวลาชาร์จแบต ซึ่งขณะนี้ iPhone 8 Plus รองรับทั้ง wireless charging และระบบ Fast charge แล้วนะ ซึ่งช่วยให้แบตของ iPhone 8 Plus ขึ้นมาเป็น 50% ในเวลาครึ่งชั่วโมง แต่สาวกอย่าเพิ่งดีใจไป เพราะสายชาร์จนี้ไม่ได้แถมมาในกล่องนะ! ถ้าเพื่อนๆอยากได้อภิสิทธิ์นี้ คุณต้องซื้อแยกจ้า!!! เสียตังเพิ่มอีกแล้วตู ไม่งั้นก็ต้องทนกับการชาร์จแบบเดิมๆต่อไปนะจ๊ะ