หลังจากที่ Apple ได้ออกมาประกาศผลประกอบการของบริษัทในไตรมาสล่าสุดออกมา ดูเหมือนว่าผลประกอบการของ iPhone นั้นจะทำให้ใครหลายๆคนผิดหวังไปครับ ถึงแม้ว่าการเติบโตของ iPhone จะยังคงมีอยู่ แต่ทว่ากลับไปไม่ถึงตัวเลขที่หลายๆฝ่ายเคยออกมาคาดการณ์กันไว้ก่อนหน้านี้ ซึ่ง 1 ในนั้นก็รวมถึงทาง Wall Street เองด้วย แต่อย่างไรก็ตามเราก็ไม่ควรจะมองเหรียญเพียงด้านเดียวแค่นั้นครับ
โดยยอดขายของ iPhone ในช่วงไตรมาสล่าสุดที่ออกมานั้น Apple สามารถขาย iPhone ไปได้ถึง 47.5 ล้านเครื่อง โดยเติบโตขึ้นจากปีที่แล้วถึง 35% หรือคิดเป็น 3 เท่าจากการเติบโตในตลาดสมาร์ทโฟนครับ ถึงแม้ว่าการเติบโตที่เกิดขึ้นอาจจะไม่ได้เป็นไปตามที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ก็ตาม แต่การเติบโตที่ทาง Apple แสดงออกมาให้เห็นนี้ก็ถือเป็นการเติบโตที่น่าหลือเชื่อเลยทีเดียว
แม้ว่าจะนำการเติบโตของยอดขาย iPhone ไปเทียบกับ Xiaomi ผู้ที่เป็นดาวรุ่งพุ่งแรงในตลาดสมาร์ทโฟนในขณะนี้ หรือ Android ที่เป็นคู่ปรับกันมาช้านานแล้วก็ตาม iPhone ก็ยังดูเป็นสมาร์ทโฟนที่ไม่มีใครสามารถหยุดยั้งได้อยู่ดีครับ
แต่อย่างไรก็ตามก็ยังมีนักวิเคราะห์จาก Macquarie และ Piper Jaffray ได้ตั้งข้อสงสัยว่า iPhone ตัวใหม่ที่จะออกมาอย่างที่คาดการณ์กันว่าจะเป็น iPhone 6s นั้นอาจจะทำให้การเติบโตของยอดขายไม่ได้เติบโตขึ้นเหมือนอย่างที่เคยเป็นมา ด้วยเหตุผลที่ว่า iPhone 6s ที่จะออกมาน่าจะมีขนาดหน้าจอเท่ากับ iPhone 6 รวมทั้งการออกแบบอาจเหมือนกับ iPhone ด้วย ซึ่งนั่นจะทำให้ผู้ใช้มองว่าไม่มีความจำเป็นที่จะต้องซื้อ iPhone 6s นั่นเองครับ
แต่ทว่าข้อสงสัยที่เหล่านักวิเคราะห์ูพูดถึงอาจจะไม่เกิดขึ้นก็เป็นได้ครับ เพราะจากหลักฐานที่เราหยิบยกกันมาในวันนี้น่าจะสามารถพิสูจน์ได้อย่างดีทีเดียว
โดยตั้งแต่มีการเปิดตัว iPhone 6 เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา Apple ได้ชี้ให้เห็นว่าผู้ใช้สมาร์ทโฟน Android เริ่มมีการเปลี่ยนมาใช้ iPhone มากขึ้นกว่าที่ผ่านมา นั่นหมายถึงว่ายังมีโอกาสที่ Apple จะทำให้ผู้ใช้ Android อีกมากมายหันมาใช้ iPhone ได้ เหมือนกับผู้ใช้ Android บางคนเลือกใช้ Android ก็เพียงเพราะมีหน้าจอที่ใหญ่กว่า จนกระทั่ง iPhone เริ่มมีขนาดหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นจึงทำให้พวกเขาเหล่านั้นหันมาใช้ iPhone แทน นอกจากนี้ Apple ยังบอกอีกว่าในช่วงไตรมาสล่าสุดนั้นเป็นช่วงที่ผู้ใช้ Android หันมาใช้ iPhone สูงที่สุดเท่าที่เคยมีมาอีกด้วย
แต่อย่างไรก็ตามทาง Apple ก็ไม่ได้บอกตัวเลขออกมาชัดๆว่า มีผู้ใช้มากแค่ไหนที่เปลี่ยนจาก Android มาใช้ iPhone ครับ แต่แน่นอนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี้มันมีข้อพิสูจน์แน่นอน
ประเทศจีนถือเป็นตัวอย่างที่ดีที่เราจะหยิบยกมาพูดถึงกัน โดยก่อนหน้านี้แทบจะพูดได้เลยว่าเกือบทั้งประเทศจีนนั้นใช้สมาร์ทโฟน Android อยู่ แต่หลังจากที่ทาง Apple เริ่มเข้าไปทำตลาดในจีน จนกระทั่ง ณ ขณะนี้ Apple ได้ขึ้นมาเป็นแบรนด์ที่ขายดีที่สุดในจีนเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ โดยเฉพาะ iPhone 6 ที่ทำรายได้เติบโตจากในจีนอยู่ที่ 87% ในไตรมาสล่าสุดครับ
และแน่นอนว่ามันเป็นข่าวร้ายสำหรับ Samsung ครับ ด้วยสาเหตุที่ว่าตอนนี้อุปกรณ์จากทั้ง Apple และ Samsung ไม่มีความต่างในส่วนของขนาดหน้าจออีกต่อไปแล้ว ผู้ใช้คนไหนที่ต้องการใช้สมาร์ทโฟนที่เป็นแบบ High-End และดูมีระดับจึงต่างก็หันมาเลือกใช้ iPhone 6 แทนนั่นเองครับ และหากผู้ใช้ในจีนต้องการที่จะใช้ Android กลับไปเลือกใช้สมาร์ทโฟนจาก Xiaomi แทนที่จะเป็นสมาร์ทโฟนจาก Samsung ด้วยเหตุผลที่ว่า สมาร์ทโฟนจากทาง Samsung และ Xiaomi มีสเปคพอๆกันแต่ราคาของ Xiaomi กลับถูกกว่าครึ่งหนึ่งครับ จะเห็นได้ว่าตอนนี้ Xiaomi เป็นอันดับ 2 รองจาก Apple ในส่วนของยอดขายที่เกิดขึ้นในจีน
นอกจากนี้ทาง Apple ยังบอกไว้อีกว่า จริงๆแล้วมีผู้ใช้ iPhone เพียง 20% เท่านั้นที่ทำการอัพเกรดไปใช้เป็น iPhone 6 แล้ว ดังนั้นจึงยังมีผู้ใช้อีกหลายคนเลยครับที่อาจจะรอให้ iPhone 6s มาถึงจึงทำการอัพเกรดไปใช้เป็น iPhone 6s เลยทีเดียว หรือถ้าจะมองให้ไกลกว่านั้น ในอนาคตตลาดสมาร์ทโฟนจะโตขึ้นไปถึง 2 พันล้านเครื่องในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า นั่นก็หมายความว่า Apple ยังมีโอกาสในการเป็นสมาร์ทโฟนเครื่องแรกที่ใครอีกหลายๆคนจะเลือกใช้
สรุปก็คือ ผู้ใช้ Android ที่อยากใช้สมาร์ทโฟนแบบ High-End อาจหันมาใช้ iPhone ส่วนผู้ใช้คนไหนที่ยังใช้ iPhone รุ่นเก่าอยู่ก็อาจเปลี่ยนมาเป็นเครื่องรุ่นใหม่ในไม่ช้า และผู้ใช้หน้าใหม่ๆที่กำลังจะเริ่มใช้สมาร์ทโฟนก็อาจจะเลือก iPhone เป็นเครื่องแรกของพวกเขาเหล่านั้นนั่นเองครับ ด้วยข้อเท็จจริงเหล่านี้จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไม iPhone จะยังมีมียอดขายเติบโตขึ้นต่อไปในอนาคตครับ
ที่มา : businessinsider