เมื่อคืนนี้ Apple เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ได้รับความสนใจออกมาสองตัว นั่นก็คือ iPhone SE และ iPad Pro หน้าจอ 9.7 นิ้ว ทั้งนี้ได้อนุญาตให้กลุ่มสื่อยักษ์ใหญ่บางสื่อได้มีโอกาสสัมผัสเจ้าสองผลิตภัณฑ์นี้ก่อนใครเพื่อนเพื่อการเขียนถึงความรู้สึกแรกจับประทับใจของตนต่อโปรดักส์ทั้งสองชิ้นนี้ในเว็บไซต์ต่อไป โดยงทั้งหมดด้านล่างนี้คือความรู้สึกแรกจับและได้ลองเล่นช่วงระยะเวลาสั้นๆ ของสื่อใหญ่ๆ จากทั่วโลกที่เรารวบรวมมาให้เพื่อนๆ ได้อ่านกัน
[section label=”iPhone SE” anchor=”iphone-se”]iPhone SE (ราคาเริ่มต้น $399)
The Verge บอกว่า iPhone SE นั้น ‘สามารถทำให้มือถือหน้าจอเล็กมีประสิทธิภาพสูงได้จริงๆ เสียที’ แน่นอนว่าไม่น่าแปลกใจอะไรเลยเพราะเจ้า iPhone SE นั้นก็เปรียบเสมือนกับเอา iPhone 6s มาย่อส่วนลงให้อยู่ในขนาด iPhone 5s นั่นเอง โดยเจ้ามือถือใหม่หน้าจอ 4 นิ้วจาก Apple ตัวนี้มาพร้อมชิปเซ็ต A9-64bit และชิปเซ็ตร่วมประสานงาน M9 ซึ่งถือว่าเร็วกว่าที่ iPhone 5s เคยเป็นถึงสองเท่าด้วยกัน
‘โดยปกติแล้ว เวลาที่เราเลือกใช้โทรศัพท์ที่มีขนาดเล็กก็หมายถึงเราต้องใช้โทรศัพท์ที่โดยลดประสิทธิภาพหรือลดความเจ๋งของกล้องไปด้วย (หรือบ่อยครั้งก็โดนลดทั้งคู่) แน่นอนว่านี่ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นกับ iPhone SE เลยสักนิด เพราะความรู้สึกที่ได้สัมผัสนั้นมันรวดเร็วและทันสมัยเหมือนดั่ง iPhone 6s เลย มันสามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนหน้าจอหรือการแสดงผลหน้าเว็บไซต์ แน่นอนว่าเราไม่ได้มีโอกาสทดสอบการใช้งานกล้องอย่างถึงพริกถึงขิง แต่เราก็พอจะบอกได้เลยว่ากล้องสามารถเปิดตัวเองขึ้นมาได้อย่างรวดเร็วและลั่นชัตเตอร์ถ่ายได้อย่างฉับไวอย่างแน่นอน’
TechnoBuffalo ได้ให้นิยาม 5 ฟีเจอร์เด่นของเจ้า iPhone SE ไว้ว่า “มันมาพร้อมขนาดหน้าจอ 4 นิ้ว ราคาเริ่มต้นเพียง $399 เหรียญ สามารถถ่ายวิดีโอ 4K ได้ สามารถใช้งาน Live Photo ได้ และสามารถใช้งาน Apple Pay ได้โดยไม่จำเป็นต้องทำงานร่วมกับ Apple Watch แต่อย่างใด”
นี่จะเป็นการก้าวกระโดดที่งดงามให้กับชาว iPhone 5S ที่ก่อนหน้านี้ไม่สามารถใช้งาน Apple Pay ได้เพราะไม่มีชิปเซ็ต NFC ในตัวเครื่อง และ Touch ID เองก็น่าจะไวกว่ากับเซ็นเซอร์ตัวเก่าที่ใช้อยู่ใน iPhone 5s แบบมาก มาก มาก มาก เลยทีเดียว
Business Insider นั้นพุ่งความสนใจไปที่การที่ Apple เลือกใช้วัสดุที่มนต่อการขีดข่วนได้ดีขึ้นใน iPhone SE ซึ่งนั่นหมายความว่าผู้ใช้ไม่ต้องมาคอยกลัวเครื่องถลอกเหมือนที่เป็นอยู่ใน iPhone 5s แต่อย่างใด นี่ยังรวมไปถึงขอบเครื่องที่มีการตัดใหม่จาก iPhone 5s ที่เป็นสี่เหลี่ยมให้มาเป็นโค้งเล็กน้อย และฝาครอบอลุมิเนี่ยมด้านหลังที่มีการเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อยเพื่อให้สีที่ได้นั้นเข้ากับโลโก้ของ Apple มากยิ่งขึ้น
ข่าวดี: iPhone SE ส่งมอบความดีงามทั้งหมดของ iPhone 6s มาให้กับคุยในราคาที่ถูกลง $250 เหรียญ
ข่าวร้าย: แม้จะเต็มไปด้วยข้อดีทั้งหมดที่กล่าวมา ความรู้สึกมันก็ยังคงเหมือนกับ iPhone ที่ Apple เปิดตัวมาเมื่อ 2.5 ปีที่แล้วอยู่ดี
[section label=”iPad Pro 9.7 นิ้ว” anchor=”new-ipad-pro-97″]iPad Pro 9.7 นิ้ว (ราคาเริ่มต้น $599)
AnandTech ได้ลองเล่น iPad Pro ตัวใหม่ที่มีขนาดหน้าจอ 9.7 นิ้วพร้อมหน้าจอแบบ True Tone ที่ Apple บอกว่ามันสามารถปรับเปลี่ยนค่าอุณหภูมิสีได้เองโดยการเทียบความเข้มข้นของแสงในสภาพแวดล้อมที่ผู้ใช้งานกำลังใช้อยู่ โดยในเมนูการตั้งค่าของ iPad นั้นสามารถเลือกเปิดหรือปิดเจ้าฟังก์ชั่น True Tone นี้ได้ ตามที่เห็นในวิดีโอเดโม่ด้านล่างนี้
กลายเป็นว่าฟังก์ชั่นนี้คุณสามารถเลือกเปิดหรือปิดได้ในระหว่างการใช้งานเลย และผลลัพธ์ที่ได้นั้นก็ดูเหมือนจะออกแบบมาเพื่อให้หน้าจอเลือกแสดงผลได้ตามสมควรที่สุดตามสภาพแสงรอบข้างซึ่งต่างจากผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของ Apple ที่ทำเพียงแค่การปรับสมดุลหน้าจอให้มีความขาวเย็นขึ้นไม่ว่าจะอยู่ในสภาวะแสงแบบใดก็ตาม ทั้งนี้ผมไม่เห็นท็อกเกิลสำหรับการตั้งค่าช่วงสีแต่อย่างใด ดังนั้นอาจเป็นไปได้ว่า iPad Pro 9.7 นิ้วนั้นในระบบการจัดการสีเพื่อเข้ามาเปิดความกว้างของช่วงสีโดยอัตโนมัติในระหว่างการใช้งาน หรือไม่ก็ถูกตั้งค่ามาให้แสดงผลช่วงสีที่กว้างกว่าปกติไว้ตลอดเวลานั่นเอง”
CNET ได้ทดสอบ iPad Pro ขนาด 9.7 นิ้วในวิดีโอแฮนด์ออนสั้นๆ ที่ทำการสรุปเอาฟีเจอร์และข้อมูลสเป็กต่างๆ ของเจ้าแท็บเล็ตตัวใหม่นี้เอาไว้ทั้งหมด และยังให้เห็น Apple Pencil แบบคร่าวๆ และเจ้า Smart Keyboard ที่ถูกปรับขนาดลงให้เหมาะสมกับขนาด iPad Pro ตัวใหม่นี้อีกด้วย เจ้า iPad Pro ตัวใหม่นี้มาพร้อมกับพอร์ต Smart Connector ที่จะช่วยให้เจ้า iPad Pro สามารถเชื่อมต่อกับคีย์บอร์ดและอุปกรณ์เสริมอื่นๆ ได้อย่างกว้างขวางและง่ายดายต่อไป
TechnoBuffalo ได้มีโอกาสทดสอบ iPad Pro เช่นกันพร้อมกับวิดีโอที่พาไปสัมผัสกับลำโพง 4 ตัว กล้องหลัง การใช้งาน Apple Pencil ตลอดจนการพาไปรู้จักกับฟีเจอร์ทั้งหมดที่มีอยู่ใน iPad Pro ตัวใหม่นี้โดยคร่าวๆ
SlashGear เองก็มีโอกาสได้ทดสอบเจ้า iPad Pro ตัวเล็กนี้เช่นกัน โดยได้ให้ความเห็นไว้ว่า “มันเพียงพอที่จะทำให้คุณโยน iPad Air 2 ลงถึงขยะได้เลยทีเดียว” นอกจากนี้บทความแรกจับประทับใจของ Slash Gear เองยังพูดถึง Apple Pencil ไว้เป็นพิเศษอีกด้วย
จากใจเลยนะ iPad Pro 9.7 นิ้วนั้นก็เหมือนกับการเอารูปลักษณ์ของ iPad Air 2 มาอัพเกรดติดความสามารถขึ้นอีกกระจุยด้วยหวังว่าจะสามารถเรียกเงินจากกระเป๋าตังค์เราได้หนาขึ้น และเพราะแบบนั้นมันเลยเป็น iPad ที่ดีที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัยที่คุณควรจะหาซื้อเอาไว้ แต่มันจะเป็นแท็บเล็ตที่ทำยอดขายให้กับ Apple ได้หรือไม่นั้นเห็นทีจะมีแต่เวลาเท่านั้นที่เป็นเครื่องพิสูจน์
แล้วเพื่อนๆ ล่ะครับ มีความคิดเห็นอย่างไรกับเจ้า iPhone SE และ iPad Pro 9.7 นิ้วตัวใหม่ ซื้อหรือไม่ มาร่วมกันแสดงความคิดเห็นที่กล่องความคิดเห็นด้านล่างนี้กันดีกว่าครับ =)