ผลสำรวจล่าสุดจาก ChangeWave เผยให้เห็นว่าความต้องการของผู้บริโภคต่อผลิตภัณฑ์ iWatch จาก Apple ที่กำลังเป็นข่าวลืออยู่ในขณะนี้นั้นสูงระดับเดียวกับความต้องการของผู้บริโภคที่มีต่อ iPad จากผลสำรวจก่อนที่ iPad จะเปิดวางจำหน่ายเลยทีเดียว นั่นหมายความว่า iWatch กำลังเป็นกระแสความต้องการพอๆ กับตอนที่ Apple ประกาศว่าตัวเองกำลังจะเปิดตัวแท็บเล็ตตัวใหม่ของค่ายแน่ะ!
19% ของผมตอบแบบสำรวจลงความเห็นว่า “มีโอกาสสูงมากที่ตนน่าจะ” หรือ “พร้อมที่จะ” ซื้อ iWatch ในทันทีที่ออกจำหน่าย โดยใน 19% นี้ส่วนใหญ่เป็นผู้ใช้งานรายเดิมที่เคยใช้ผลิตภัณฑ์จาก Apple อยู่แล้ว
ผลสำรวจชี้ให้เห็นความสนใจอย่างจริงจังของผู้บริโภค โดย 5% ตอบว่าพวกเขา “น่าจะมีโอกาสเป็นไปได้สูงมา” ที่จะซื้อ iWatch และอีก 14% ฟันธงลงไปเลยว่าซื้อเจ้า iWatch นี่แน่นอนเพื่อเป็นของขวัญให้ตนเองหรือผู้อื่น
และเมื่อเปรียบเทียบความต้องการของผู้บริโภคที่มีต่อ iWatch กับผลสำรวจผลิตภัณฑ์ก่อนหน้านี้จาก Apple ชี้ให้เห็นปัจจัยความน่าสนใจมากมาย โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับสองแบบสำรวจที่ประสบความสำเร็จมากๆ ของ ChangeWave อย่างแบบสำรวจในปี 2010 เรื่องแท็บเล็ตจาก Apple และในปี 2005 เรื่อง Intel Mac ของ Apple ซึ่งก็ถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ประสบความสำเร็จสูงเป็นอย่างยิ่งจาก Apple แล้ว ผลที่ได้ตามตารางด้านล่างนี้เลยครับ
จากรูปจะเห็นว่า Apple iWatch ได้รับความสนใจจากคนที่ร่วมตอบคำถามสูงกว่าข่าว Apple แท็บเล็ตในปี 2010 และ Apple Intel Mac ในปร 2005 เสียอีก โดยอัตราคนที่ตอบว่าจะซื้อย่างแน่นอนนั้นยังคงเท่ากับในทั้งสามผลิตภัณฑ์ที่ 14% แต่อัตราคนที่ตอบว่ามีโอกาสที่จะซื้อสูงมากนั้นสูงขึ้นจากผลิตภัณฑ์อื่นที่เคยอยู่ที่ 4% มาเป็น 5% นี่อาจเป็นเครื่องชี้วัดความสำเร็จคร่าวๆ ของ iWatch จาก Apple ได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว
ข่าวก่อนหน้านี้ลือกันว่อนว่า iWatch จะมาพร้อมระบบปฏิบัติการ iOS แบบเต็มสูบ ไม่เหมือนกับระบบปฏิบัติการกึ่งๆ บน iPod Nano หรือนาฬิกาสมาร์ทวอทช์ตัวอื่นๆ ที่ออกขายกันอยู่ในปัจจุบันแต่อย่างใด นอกจากนี้ The New York Times ยังเคยรายงานไว้อีกด้วยว่าตัวเรือนกระจกนั้นจะมาพร้อมกระจกพิเศษที่สามารถปรับรัดข้อมือของผู้สวมใส่ได้เองโดยอัตโนมัติ ข้อมูลเพิ่มเติมอื่นๆ เกี่ยวกับ iWatch และ Smart Watch นั้นเพื่อนๆ สามารถติดตามอ่านได้จาก Time Line Story ช่องดำๆ ด้านล่างนี้เลยครับ
ใครกำลังสนใจ iWatch ตัวนี้อยู่เหมือนอย่าง APPDISQUS บ้าง อย่าลืมร่วมแสดงความคิดเห็นกันเอาไว้ได้ท้ายบทความเลยนะครับ
ที่มา – 451research