Jabra หูฟังแบรนด์คุ้นหูชาวไทย ได้มีการเปิดจำหน่ายหูฟังแบบคล้องคอรุ่นใหม่ออกมาแล้วครับ นั้นคือ Jabra Elite 25e ซึ่งเป็นหูฟังในรูปแบบคล้องคอที่กำลังได้รับความนิยมครับ เนื่องจากเป็นรูปทรงที่ใส่สบาย น้ำหนักเบาแถมยังทิ้งน้ำหนักลงบนบ่าและคอของเรา ทำให้เวลาใช้งานหูฟังประเภทนี้จะแทบไม่รู้สึกว่าสวมใส่อะไรเลยครับ
ซึ่งผมเองชอบหูฟังแนวนี้มากๆ มันมั่นใจได้ว่าหลุดยากมากและพกพาง่ายไม่ต้องกลัวหายเพราะอยู่กับคอเราได้ตลอด พักไว้ได้ แต่ไม่มีสายเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนให้เกะกะ
และสิ่งที่สำคัญของหูฟังประเภทนี้ ก็คือตัวมันเองพอจะมีพื้นที่ให้ติดตั้งแบตเตอรี่ขนาดใหญ่กว่าหูฟังทั่วไปในตัวมันได้ครับ หูฟังคล้องคอจึงมักมึคุณสมบัติในเรื่องของแบตเตอรี่ที่อึดมากมาด้วย โดยเฉพาะเจ้า Jabra Elite 25e ที่จุดขายหลักของรุ่นอยู่ที่อายุการใช้แบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานต่อเนื่องได้มากถึง 18 ชั่วโมงต่อการชาร์จพลังงานหนึ่งครั้งครับ
Jabra Elite 25e เป็นหูฟัง in-Ear แบบคล้องคอ เชื่อมต่อสัญญาณกับอุปกรณ์ต่างๆ ผ่านสัญญาณบลูทูธ น้้ำหนักโดยรวมอยู่ที่ 48 กรัมเท่านั้นครับ
ตัวหูฟังสามารถเชื่อมต่อกับหลายอุปกรณ์ได้พร้อมกัน ตามความสามารถของ Bluetooth 4.1 ก็จะรองรับได้สูงสุด 8 อุปกรณ์ แต่ผมเองได้ลองแค่สองอุปกรณ์พร้อมกันเท่านั้นครับ
มันสามารถสั่งงานและควบคุมได้ผ่านแอพพลิเคชั่นซึ่งมีทั้งในระบบ Android และ iOS สำหรับการดูสถานะแบตเตอรี่ การเปิดปิดการแจ้งเตือน ซึ่ง Jabra Elite 25e จะมีระบบการแจ้งเตือนด้วยเสียงและการสั่นเมื่อมีการติดต่อเข้ามาหรือมีสายเข้าครับ ซึ่งการสั่นอยู่ในระดับปานกลาง ไม่แรงมากแต่พอรู้สึกได้ครับ เหมาะในเวลาที่เราไม่ต้องการเปิดเสียงเรียกเข้าให้รบกวนใครในที่สาธารณะ
และโหมดการติดตามตำแหน่ง ซึ่งจะมีการระบุพิกัดล่าสุดที่เรามีการเชื่อมต่อกับหูฟังเอาไว้ และการนำทางกลับไปสู่จุดหมายที่เราอาจจะลืมเอาไว้ได้ครับ
ตัวอุปกรณ์จะมีปุ่มควบคุมการทำงานอยู่เพียงสี่ปุ่มครั้บ นั้นคือปุ่มเปิดปิดเครื่องซึ่งใช้เป็นปุ่มเล่นเพลงและปุ่มรับสายไปด้วยในตัว พร้อมทั้งเป็นปุ่มเปิดโหมดจับคู่ในการที่จะนำไปใช้กับอุปกรณ์ใหม่ๆ มีปุ่มเพิ่มเสียงลดเสียงที่สามารถใช้กดข้ามเพลงหรือย้อนกลับได้เมื่อกดค้างเอาไว้
และปุ่มสุดท้ายคือปุ่มคำสั่งเสียง ซึ่งรองรับการเรียกใช้งานกับ Google Now และ SIRI ได้ครับ รวมถึงใช้กดเพื่อปิดไมค์เวลามีการสนทนาเสียงกันกับฝั่งตรงข้าม
แต่ความพิเศษในการสั่งงานของหูฟัง Jabra Elite 25e คือตัวหูฟังทั้งสองข้างจะมีเซนเซอร์แม่เหล็กอยู่ภายใน เพื่อใช้ในการวางสายหรือหยุดเล่นเพลงโดยอัตโนมัติทันที เมื่อเราถอดหูฟังทั้งสองข้างมาประกบกันที่หน้าอก ก็เป็นการเก็บการใช้งานที่ไม่เกะกะ และเป็นการหยุดการทำงานให้เราได้แบบอัตโนมัติในตัวเลยครับ
และแน่นอน เมื่อมีการติดต่อเข้ามา เราก็เพียงเอาหูฟังแยกออกจากกันใส่หูเรา ก็จะเป็นการรับสายให้เราได้ทันทีเช่นกันครับ ไม่ต้องกดปุ่มใดๆ เลย แถมไมค์ของมันก็ถือว่ากรองเสียงรบกวนให้เราได้ค่อนข้างดี ปลายสายรับเสียงได้ชัดเจนกว่าการคุยผ่านสมาร์ทโฟนปกติครับ
ตัวหูฟังของ Jabra Elite 25e มีความเบาและสบายในระหว่างใส่มาก มันมีึความหยืดหยุ่นสูง โดยเฉพาะส่วนขาทั้งสองข้าง บิดงอได้ในระดับที่ไม่ต้องกลัวหักเวลานอนฟังเพลงเลยครับ และใช้วัสดุกึ่งยางที่ไม่ระคายคอ แต่ด้านหลังที่เป็นส่วนของแบตเตอรี่ก็ต้องแข็งหน่อยครับ ไม่สามารถบิดงอได้ แต่อยู่ด้านหลังคอที่ไม่ได้มีผลในการใช้งานระหว่างการเคลื่อนไหวสักเท่าไหร่
ตัว EarGels ที่ให้มาเป็นรูปทรงใหม่ครับ มีความแบนเรียวเพื่อให้สบายรูหูได้มากขึ้น แต่ใช้งานครั้งแรกๆ อาจจะต้องจูนปรับองศาให้เข้ากับรูหูเราสักหน่อยนะครับ ถ้าองศาลงล็อคแล้ว จะรู้สึกได้เองครับ ว่ามันใส่ง่ายและคับหูน้อยลง
หูฟัง Jabra Elite 25e สามารถสวมใส่ในขณะออกกำลังกายได้อย่างดีครับ เพราะนอกจากตัวมันเบามากแล้ว การออกแบบของหูฟังลักษณะนี้จะมีความกระชับและความมั่นใจในการใส่มากกว่าหูฟังทรงอื่นๆ รวมถึงตัว Jabra Elite 25e เป็นหนึ่งในหูฟังที่มีคุณสมบัติกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP54
ตัวแบตเตอรี่ของ Jabra Elite 25e อึดจริงครับ ตั้งแต่ลองใช้งานมา ยังไม่มีวันไหนที่แบตเตอรี่หมดก่อนกลับถึงบ้านเลย การใช้งานระหว่างวันที่ 8-10 ชั่วโมงแบบนี้สบายๆ เลย (ภายในแอพพลิเคชั่น จะมีการแจ้งแบตคงเหลือและวิเคราะห์ชั่วโมงการใช้งานให้เราได้ทราบ ซึ่งความแม่นค่อนข้างเชื่อถือได้ครับ)
พอร์ตชาร์จใช้แบบ Micro USB แกะค่อนข้างครับฝาปิด แต่เพื่อคุณสมบัติการกันน้ำ ควรปิดฝาให้แน่นทุกครั้งหลังชาร์จพลังงานเรียบร้อยแล้ว ใช้เวลาชาร์จไม่นานครับ ประมาณ 1 ชั่วโมงแบตก็พร้อมใช้งานได้ไปทั้งวันแล้ว
ในด้านของเสียง Jabra Elite 25e จะให้โทนเสียงที่เบสลึก ซาวด์ลึกไม่กว้าง และค่อนข้างจัดจ้าน ไม่ใช่แนวนุ่มนวลละมุน ซึ่งเหมาะสำหรับนำไปฟังเพลงร็อคโปร่งๆ หรือเพลง R&B ทั้งแบบใสๆ และแบบมีมิติของดนตรี ก็จะให้เสียงที่พอดีน่าฟังครับ
ก็ถือว่าเป็นหูฟังที่ราคาไม่แพง แต่คุณสมบัติโดยรวมน่าใช้ครับ ใส่ง่าย เบาสบาย แบตอึด มีระบบการสั่นเตือน แถมแบรนด์ดีหาซื้อง่าย และมีการดูแลหลังการขายจาก RTB ที่มั่นใจได้เลย ในราคาสองพันปลายๆ คุ้มครับ