มาฟังความคิดและสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้ไปของ JAS ผู้ให้บริการเครือข่ายเจ้าใหม่ในเมืองไทย ทำไมเขาคิดว่าเขาพร้อมกว่าที่เราคิด
JAS หรือบริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล ผู้เป็นเจ้าของคลื่นความถี่ 900 MHz จำนวน 10MHz จากการชนะการประมูลครั้งล่าสุด ในมูลค่า 75,654 ล้านบาท ได้เข้ามาเป็นผู้ให้บริการเครือข่ายรายใหม่อย่างเป็นทางการในประเทศไทย แต่หลายๆ ท่านก็อาจจะมีคำถามในใจ ว่า JAS เป็นใคร พร้อมแค่ไหน ต่อไปจะเป็นอย่างไร และจะทำอะไรในอนาคต
ซึ่งวันนี้ ทาง Appdisqus ได้เข้ารับฟังและสอบถามถึงแผนการและแนวทางดำเนินงาน ที่ JAS ตั้งใจจะทำต่อไปในอนาคต รวมถึงแผนการตลาดที่เขาได้เตรียมพร้อมไว้แล้วตั้งแต่ก่อนการประมูลจะเกิดขึ้น
ให้รู้ไว้ก่อนเลยว่าเขาไม่ได้มือใหม่เลยนะครับ มีความพร้อมมาก และมีการวางแผนมานานแล้วในการเข้ามาทำธุรกิจด้านเครือข่ายโมบายด์ในตอนนี้
เหตุผลของการตัดสินใจ
เพราะทุนเดิมของ JAS ก็คือผู้ให้บริการ 3BB นั้นเองครับ ไม่ใช่ผู้เล่นหน้าใหม่แต่อย่างใด เป็นผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตแบบฟิกบอร์ดแบรนด์อันอับสองของประเทศไทย มีจำนวนผู้ใช้อยู่ร่วมสองล้านราย ครอบคลุมพื้นที่ให้บริการ 75%ของประเทศ สิ่งที่ทำให้ JAS กล้าตัดสินใจควักเงินก้อนใหญ่ขนาดนั้นเพราะเขาคิดว่าในส่วนการลงทุนด้านอื่นๆ นั้น เช่นบุคลากรหรือหน้าช็อป ก็สามารถอาศัยของเดิมที่เป็นของ 3BB ซึ่งมีมากเพียงพออยู่แล้ว แทบไม่ต้องลงทุนเพิ่มใดๆ ในส่วนนี้
พนักงานกว่า 6000 คน และหน้าช็อป 3BB สามร้อยกว่าสาขา พร้อมทีมเทคนิคและช่างที่เขาเทรนด์เรื่อง 4G เอาไว้พร้อมแล้ว มีความสามารถในการดำเนินการได้ทันทีเมื่อได้รับใบอนุญาตครับ อาจจะมีการจ้างบุคลากรเพิ่มเติมเข้ามาก็เพียงหลักร้อยคนเท่านั้นเพื่อมาเสริมส่วนที่ยังขาด ดังนั้นแม้จะใช้เงินจ่ายค่าสัมปทานแพงแต่ต้นทุนในด้านอื่นๆ ต่ำมาก จึงคิดว่าคุ้มแน่นอน
แต่ไม่ใช่จะไม่มีการลงทุนใดๆ นะครับ ทาง JAS ก็ได้ตั้งเป้าที่จะลงทุนในเรื่องของโครงข่ายเพิ่มเติมเอาไว้เช่นกัน ประมาณ 20,000 ล้านบาทภายในสามปีต่อจากนี้ โดยจะเน้นไปที่บริการ 4G เป็นหลัก มีการเจรจาจะเช่าเสาสัญญาณจากรัฐวิสาหกิจของเมืองไทย (เจรจาอยู่ทั้ง CAT และ TOT อาจจะรวมถึง TRUEGIF ด้วยตามข่าวก่อนหน้านี้) และจะมีการวางเสาเพิ่มด้วยตัวเองในบางส่วน ซึ่งเขาได้สำรวจแนวการวางเสาที่เข้ากับรูปแบบเมืองใหม่ในปัจจุปันไว้แล้วด้วย
จุดขาย
จุดขายของทาง JAS ที่ตั้งใจจะนำมาใช้เพื่อดึงดูดลูกค้า ก็จะเป็นเรื่องของโปรโมชั่น เน้นการทำตลาดช่วงต้นเหมือน 3BB คือเรื่องของความคุ้มค่า ให้ลูกค้าได้มากกว่าและเน้นการมีประสิทธิภาพด้วย นั้นหมายถึงจะให้จำนวนดาต้ามากกว่าเจ้าอื่นๆ จนคุณต้องหันมาสนใจนั้นเอง (ซึ่งความพอใจและแผนโปรโมชั่นได้มาจากตัวเลขการสำรวจผ่านกลุ่มผู้ใช้ 3BB ไปก่อนหน้านี้)
“โดยแรกเริ่มจะเจาะกลุ่มลูกค้าเดิมของ 3BB นำร่อง ซึ่งตอนนี้มีอยู่ประมาณ 2ล้านครัวเรือน แต่ละบ้านยังมีสมาชิกครอบครัวเพิ่มเติมให้ทำตลาดได้อีก และตั้งเป้าไว้ที่ 5ล้านรายภายในสามปีแรก ซึ่งตัวเลขนี้แหละที่ JAS คิดว่าทำได้ไม่ยากเกินไป”
และแน่นอนเมื่อทาง JAS ตั้งเป้าไว้ที่กลุ่มผู้ใช้ 3BB นั้นหมายถึงการขายในแบบแพ็คเกจจะมีมาแน่นอน ผู้ใช้ซิม JAS กับ 3BB ร่วมกันก็จะได้โปรโมชั่นพิเศษที่ถูกกว่าปกติ และอย่าลืมว่า 3BB ก็มี Wi-Fi hotspot ตามจุดสำคัญต่างๆ ให้ใช้ เรียกว่าการเพิ่มเข้ามาของคลื่น 900 MHz ทำให้ JAS มีครบหมดทั้งคลื่นโมบาย, บอร์ดแบรนด์ และ Wi-Fi hotspot ครับ อนาคตเทรนด์การใช้งานจะเปลี่ยนไปในทิศทางใด JAS ก็จะคงอยู่ในตลาดได้ไม่ต่างจากผู้ให้บริการรายใหญ่เจ้าอื่นๆ แต่ตอนนี้ JAS มีสิ่งที่เหนือกว่าใครคือความสดใหม่ และเขาเชื่อว่ากลุ่มลูกค้าต้องการอะไรใหม่ๆ ซึ่งทุกคนจะจับตามอง JAS ว่าจะทำอะไรต่อไปในอนาคต
ทำไมเลือกคลื่น 900 MHz
เราจะเห็นแล้วว่า เขามีการเตรียมพร้อมและวางแผนในเรื่องนี้เอาไว้หมดแล้วครับ รวมถึงเรื่องการประมูลคลื่น 900MHz ที่เขาทุ่มเพื่อให้ได้มา ทาง JAS ก็บอกว่าอยู่ในแผนของเขาแล้วเช่นกัน คลื่น 900MHz เป็นคลื่นที่พวกเขาตั้งใจอยากได้มากกว่าคลื่น 1800MHz ที่พวกเขาปล่อยหลุดมือไปก่อนหน้านี้ นั้นเพราะคลื่นความถี่ 900 ง่ายต่อการลงทุน ถูกกว่า คลื่นความถี่ย่านต่ำกระจายสัญญาณได้กว้าง วางเสาน้อย ทะลุทะลวงมากกว่า และที่สำคัญ ทาง กสทช. ได้วางรูปแบบการชำระเงินได้ถูกใจผู้ประมูลมากครับ โดยในคลื่น 900 จะมีการชำระค่าสัมปทานต่างกับคลื่น 1800 ที่ประมูลไปก่อนหน้านี้ โดยในคลื่น 1800 นั้น ผู้ชนะการประมูลจะต้องจ่ายเงิน 50% ของเงินประมูลทั้งหมด และในปีที่ 2-3 ต้องจ่ายเพิ่มอีก 25 % แต่คลื่น 900 เริ่มจ่ายปีแรกที่ 8000 ล้านบาทเท่านั้น ส่วนปีที่ 2 และ 3 จ่ายเพิ่ม 4 พันล้านบาท ส่วนเกินที่เหลือทั้งหมดไปจ่ายในปีสุดท้ายหรือปีที่ 4 หลังการดำเนินงาน การจ่ายเงินแบบนี้เอื้อต่อผู้เล่นรายใหม่อย่าง JAS มากครับ
เงินทุนมาจากไหน
ส่วนในเรื่องของเงินทุนนั้น ทาง JAS ก็ได้เตรียมความพร้อมไว้แล้วเช่นกัน ด้วยต้นทุนจากกองทุน Jasif ซึ่งหลังจากที่บริษัทจ่ายปันผลไปแล้วรอบนึง ก็ยังมีเงินสดเหลืออยู่ราวๆ 10, 000 ล้านบาท บวกกับธุรกิจของ 3bb สามารถสร้างรายได้ 5พันกว่าล้านต่อปี และยังโตขึ้นเรื่อย ๆ นอกเหนือจากนั้นทาง Jas ได้มีการออก warrant ไปแล้ว warrant มีอายุ 5 ปี ก็จะมีเงินมาอีก 15,000 ล้าน สำหรับในส่วนที่เหลือ JAS ยังมีเตรียมทำเรื่อง Project Financing ซึ่งได้มีการคุยกับแบงค์ใหญ่ๆ เอาไว้ก่อนหน้านี้แล้ว วงเงินทั้งหมดตรงนี้ก็หลายหมื่นล้าน ซึ่ง JAS เตรียมเอาไว้ทุ่มแบบหมดหน้าตักเลยก็ว่าได้ครับ
แต่ JAS ยังมีไอเท็มลับที่ยังไม่เปิดเผย เป็นพาร์ทเนอร์ยักษ์ใหญ่จากต่างชาติที่จะเข้ามาลงทุนร่วมซึ่งกำลังอยู่ในช่วงพิจารณา ข่าวก่อนหน้านี้มีหลุดกันออกมาว่าหนึ่งในนั้นน่าจะเป็น SK telecom ผู้ให้บริการจากประเทศเกาหลีครับ
อย่างที่เห็นครับ ว่า พี่เขาไม่ได้มาเล่นๆ คิดมาเยอะวางแผนไว้หมดแล้วและมีแนวทางการตลาดชัดเจน สิ่งที่ดูจะเป็นเรื่องที่ทุกคนลุ้นก็คงเป็นการลงทุนค่าสัมปทานที่สูงจนหุ้นตกกันถ้วนหน้า (คนประมูลได้ก็ตก คนประมูลไม่ได้ก็ตก) แต่แน่นอนแล้วว่า JAS ลั่นวาจาว่าจะไปไหว และจะเข้าสร้างบทบาทให้กับผู้ใช้อุปกรณ์ Mobile ต่างๆ กันในปีหน้าแน่นอนครับ ซึ่งจะเน้นในเรื่องของโปรโมชั่นและราคาที่คุ้มค่า มันทำให้ค่ายนี้ยิ่งน่าสนใจ ส่วนในด้านคอนเทนต์อนาคต อาจจะมีการเอา MONO29 ผู้ให้บริการดิจิตอลทีวีที่เป็นบริษัทพี่บริษัทน้อง มาหยิบทำคอนเทนต์พิเศษๆ ร่วมกันกับ 3BB และ Jas Mobile ก็ได้ครับ
การเริ่มต้นให้บริการของ JAS นั้นยังไม่มีวันเวลาแน่ชัดสรุปออกมา แต่ให้คำตอบสั้นๆ แค่ว่า “เร็วที่สุด” เมื่อถึงเวลานั้น Appdisqus ก็ต้องเป็นคนหนึ่งในการร่วมพิสูจน์ประสิทธิภาพของเครือข่ายหน้าใหม่ของเมืองไทยด้วยเช่นกันครับ