กลายเป็นปัญหาใหญ่ในหลายประเทศ เรื่องของเด็กในวัยเรียนที่ติดสมาร์ทโฟนอย่างหนัก ใช้เวลากับมือถือมากกว่าเปิดตำราเรียนซะอีก สิ่งนี้ทำให้นายอิชิโระ มัตซุย นายกเทศมนตรีของโอซาก้า วัย 55 ปี จัดงานแถลงข่าวที่ศาลากลาง ได้บอกให้ผู้คนลองมองออกไปที่เด็กๆ ในเมืองโอซาก้า ที่มีผู้คนอาศัยราว 2.5 ล้านคน กำลังใช้เวลาอยู่กับโทรศัพท์มือถือมากเกินความจำเป็น จนทำให้เสียการเรียน
โดยนายมัตซุยเป็นห่วงเด็กที่ไม่ได้เข้าเรียนเนื่องจากใช้เวลากับโทรศัพท์มือถือมากเกินไป และละทิ้งหน้าที่ความรับผิดชอบตัวเองควรทำ เป็นต้นเหตุของความเกรียจคร้าน รวมถึงครูที่ไม่ใส่ใจในการสอนไม่สามารถดึงดูดเด็กๆ ให้อยากไปโรงเรียนได้ รวมถึงการรังแกกันในสถานศึกษา สิ่งเหล่านี้ทำให้เด็กไม่อยากไปโรงเรียน นายมัตซุยพูดในงานแถลงข่าวว่า ” จำนวนเด็กนักเรียนในโรงเรียนจะเพิ่มมากขึ้น ถ้าเค้าออกกฏหมายให้ปิดมือถือของเด็กๆ ห้ามไม่ให้ใช้สมาร์ทโฟนในเวลากลางคืน รวมถึงใช้งานในที่อื่นๆ ด้วย ” มัตซุยกล่าวอีกว่า ได้สั่งคณะกรรมการการศึกษาสำรวจความเป็นไปได้ ในการแบนสมาร์ทโฟนตามเวลาและห้ามใช้งานทั้งในสถานศึกษา รวมถึงที่บ้านด้วย
การประกาศแบนสมาร์ทโฟนของมัตซุย เกิดขึ้นหลังจากผู้บัญญัติกฎหมายในสภาจังหวัดของ Kagawa ได้เปิดเผยร่างกฎหมายใหม่ที่ห้ามมิให้นักเรียนชั้นประถมมัธยมต้นและมัธยมปลาย เล่นวิดีโอเกมนานกว่าหนึ่งชั่วโมงในวันธรรมดาและเล่นได้ 90 นาที ในวันเสาร์วันอาทิตย์และวันหยุด ความแตกต่างที่สำคัญก็คือ เด็กเล็กมักจะเล่นวิดีโอเกมผ่านสมาร์ทโฟนเป็นอันดับแรก ในขณะที่เด็กวัยรุ่นใช้เวลาในโลกโซเชี่ยล และการแชท มากกว่าเลือกเสพสิ่งบันเทิงอื่นๆ อย่างการหาความรู้ผ่านทางอินเตอร์เน็ต หรือการดูวีดีโอที่มีสาระและเป็นประโยชน์
นอกจากเด็กเล็กแล้ว ยังได้ทำการห้ามไม่ให้เด็กวัยรุ่นใช้สมาร์ทโฟนพูดคุยหรือฟังเพลงบนรถไฟอีกด้วย นอกจากฟังจากมือถือฝาพับหรือเครื่องเล่น MP3 เท่านั้น นายกเทศมนตรีได้พูดถึงความรู้สึกเมื่อเห็นเด็กๆ และวัยรุ่นให้ความสำคัญกับการเล่นสมาร์ทโฟนมากกว่าการทำกิจกรรมอย่างอื่น ทำให้เกิดการละทิ้งหน้าที่ รวมถึงการใช้สมาร์ทโฟนในเวลากลางคืน ซึ่งเด็กควรนอนหลับไปพร้อมพ่อแม่และตื่นไปโรงเรียนในตอนเช้า การบังคับใช้คำสั่งห้ามรวมถึงการลงโทษผู้กระทำผิด (ไม่ว่าจะเป็นตัวเด็กเองหรือพ่อแม่) อาจเป็นเรื่องยาก “ น่าจะเป็นกฎหมายที่เกี่ยวกับลัทธิอุดมการณ์ แต่อาจเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเราที่จะร่างกฎหมายเช่นนี้” เขายืนยัน