พรีวิว LG Optimus G Pro เวอร์ชั่นเน้นความรู้สึกล้วนๆ : รุ่นนี้ถือว่าเป็นรุ่นเรือธงที่สุดของ LG แล้วจัดเต็มทุกอย่าง มีอะไรดีก็ขนออกมาจับยัดใส่เครื่องนี้ทั้งหมดเลย ทั้งด้านฮาร์ดแวร์ และซอฟแวร์ การใช้งานโดยรวมถือว่าลื่นมาก แตะนิดเดียวพุ่งเลยอย่างกับใครทาน้ำมันไว้ที่หน้าจอ 555+ แค่เปรียบเทียบเฉยๆ วันนี้ขอเน้นพรีวิวด้านกล้องกับภายในเล็กน้อยแล้วกันมันน่าใช้มั้ย มันกินแบตมั้ย อะไรประมาณนี้ คนขายเค้าบอกมาอีกว่านี่แหล่ะคือรุ่นที่ท็อปที่สุดในงานเลยก็ว่าได้ เหมือน Samsung Galaxy S4 นั่นแหล่ะแต่ว่าราคาถูกกว่าเพราะ LG เน้นอัดเงินทุนที่เครื่องมากกว่าการตลาด (ไม่มาม่ากันน้าาาาา เค้าพูดให้ผมฟังเฉยๆ) ราคาอยู่ที่ 19,900บาทครับ
พรีวิวก่อนหน้านี้ >>> LG Optimus G Pro Media Day 2013
UI ที่ใช้ก็เหมือนๆกับ LG Optimus G เลยเท่าที่ลองดูยังไม่มีอะไรใหม่มากนัก
นี่เป็น UI กล้องที่เพิ่งกดเข้ามาครับ ดูโล่งๆดีแต่จริงๆซ่อนอะไรไว้เยอะแยะ
มี4โหมดตามนี้เลยครับ
อันนี้เป็นพวก scene ต่างๆไว้ปรับได้ครับ ตามความชอบเลย
ผมชอบด้านหลังมันมากๆเลยล่ะ มาแนวเดียวกับ Nexus 4 เลยเป็นลายๆสะท้อนแสงได้ แต่จากที่ลองทำดูมันก็ไม่ได้ดูวิ๊บวั๊บมากเท่าไรนัก
ลองเล่นเกมกันนิดหน่อย ลื่นมากๆเลยไม่มีกระตุกให้เห็นสักนิด จอใหญ่เห็นทุกการเคลื่อนไหวศัตรูมาทางไหนไล่ฆ่าตายให้หมด
หมวดแบตเตอรี่ครับ สามารถปรับได้มากมาย เท่าที่ดูน่าจะอยู่ๆได้ครบ1วันครับ
นี่เป็นพื้นที่่หน่วยความจำภายในตัวเครื่องนะครับ ไม่ต้องตกใจว่าทำไมเหลือแค่นี้ สำหรับใครที่ไม่รู้ขอบอกไว้ก่อนเลยว่าส่วนนึงมาจากการลง App กับ เกมภายในตัวเครื่องอยู่แล้วก็เลยมีบางส่วนถูกใช้ไป แล้วส่วนที่สองสำหรับคนที่ซื้อเครื่องไปใหม่ๆ แล้วเค้าบอกว่า Romภายในคือ 16GB แต่เปิดมาจริงเหลือไม่ถึง 16GB สาเหตุหลักๆคือ ท่างบริษัทได้ใช้ROM บางส่วนในการติดตั้ง OS กับ App เสริมภายในเครื่อง รวมทั้งฟีเจอร์ใหม่ๆด้วย หวังว่าจะให้ความกระจ่างได้นะครับ ^^
นี่คือสเปคของเครื่อง รวมทั้งราคาอยู่ที่ 19,900 บาทครับ แต่ซื้อในงานมือถือจะได้ของแถมมาด้วย แนะนำว่าให้ไปลองสอบถามที่หน้างานด้วยตัวเองครับ
สเปค LG Optimus G Pro
ตัวเครื่องมีขนาด 150.2 x 76.1 x 9.4 มม. น้ำหนัก 172 กรัม
หน้าจอ True Full HD IPS Plus LCD ขนาด 5.5 นิ้วความละเอียด Full HD 1080P (400ppi)
CPU Qualcomm APQ8064T Snapdragon 600 Quad-core 1.7 GHz Krait 300, GPU Adreno 320
RAM 2GB หน่วยความจำภายใน 16 GB สามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกได้สูงสุด 64GB
Android 4.1 Jelly Bean (ทีมงานของ LG ไทยกล่าวว่าจะได้รับการอัพเดตเป็น 4.2 อย่างรวดเร็วครับ)
Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, Wi-Fi Direct, DLNA, Wi-Fi hotspot, Bluetooth 4.0, NFC, Infrared Port, microUSB v2.0 (MHL 2), USB Host, GPS+A-GPS รองรับ GLONASS
กล้องความละเอียด 13MP บันทึกวีดีโอ Full HD 1080P กล้องหน้า 2.1MP บันทึกวีดีโอ Full HD 1080P
แบตเตอรี่ความจุ 3140 mAh
สรุป : เป็นมือถืออีก1รุ่นที่ผลตอบรับค่อนข้างดีโดยเฉพาะในต่างประเทศเพราะว่าขายดีมากๆ เป็นรุ่นนึงที่จัดเต็มทุกอย่างแล้ว ใส่ทุกอย่างที่มีอยู่จริงๆส่วนเรื่อง4G ไม่ได้คงอยากให้มองข้ามไปเพราะในตอนนี้ 4G ยังไม่รองรับทั่วประเทศคงไม่มีความจำเป็นที่เราต้องซื้อเผื่อไว้ก่อนมันมา นี่ก็เลยอาจเป็นเหตุผลนึงที่ค่ายมือถือมักตัด4Gทิ้งไป สรุปเรื่องกล้องหน่อยละกัน รุ่นนี้ถ่ายได้ไวมากๆเลยเหมือนเป็น zero shutter lag คือกดปุ๊ปติดปั๊ป ไม่ต้องรอโฟกัสทีละภาพ แต่ถ้าถ่ายรัวๆแบบกดชัตเตอร์ยิกๆถี่ๆ คงไม่ได้เพราะมันจะมีเสี้ยววินึงก่อนถ่ายรูปต่อไปได้ คุณภาพกล้องถือว่าดีเลยเพราะลองถ่ายรูปสิ่งของที่มีตัวหนังสือไกลๆ แล้วซูมเข้ามาดูระดับ Crop 100% ยังอ่านตัวหนังสือจากของที่ถ่ายออกด้วย ถือว่าไม่ธรรมดา ส่วนเรื่องแบตก็สบายหายห่วงถ้าใช้ไม่เยอะ น่าจะอยู่2วันแบบไม่ชาร์จได้เลย แต่ถ้าใช้งานปกติคงชาร์จวันละครั้งก็เกินพอ
สิ่งสุดท้ายที่ต้องคำนึงถึง : ถ้าซื้อมาแล้วก็ให้รักเครื่องนี้ให้มากๆ เพราะว่ารุ่นเรือธงตัวใหม่กำลังจะเปิดตัวอีกไม่กี่เดือนคือ LG Optimus G2 เป็นไปได้ว่าถ้ามันเข้าไทยปุ๊ปราคาอาจจะตกไปอีกนิด ก็อย่าไปใส่ใจครับใช้งานให้คุ้มค่าที่สุดเชื่อผม อย่าให้เทคโนโลยีควบคุมคุณ แต่คุณต้องควบคุมเทคโนโลยี
ถ้ามีอะไรเพิ่มเติมก็แสดงความเห็นข้างล่างได้ครับ ขอบคุณที่ติดตามครับ