ถึงแม้ว่าเมื่อวานจะเป็นวันสุดท้ายของการดำรงตำแหน่งของนาย Dick Costolo CEO ของ Twitter ก็ตาม แต่เหมือนว่าเขาจะมี CEO จาก Facebook ที่เข้าข้างเขาอยู่ครับ เพราะว่าหลังจากที่ข่าวการอำลาตำแหน่งของนาย Costolo ได้แพร่ออกไป นาย Om Malik หนึ่งในผู้ที่คร่ำหวอดและมีชื่อเสียงในวงการเทคโนโลยีได้ออกมาตั้งคำถามกับนาย Mark Zuckerberg ผ่าน Facebook ว่า Mark นั้นคิดอย่างไรบ้างระหว่าง CEO ที่เป็นผู้ก่อตั้งบริษัท กับ CEO ที่ไม่ได้เป็นผู้ก่อตั้งบริษัท โดยเฉพาะในประเด็นที่เกิดขึ้นกับ CEO ที่ไม่ได้เป็นผู้ก่อตั้งบริษัทของ Twitter ที่เพิ่งก้าวลงจากแหน่งหลังจากที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์และแรงกดดันอย่างหนักจากเหล่าบรรดาผู้ถือหุ้นของบริษัทมาหลายเดือน
หลังจากที่นาย Malik ได้โพสต์คำถามดังกล่าวถึงนาย Mark แล้ว ไม่นานนักทางนาย Mark ก็ได้ออกมาให้ความเห็นตามคำขอของนาย Malik โดยขึ้นต้นความเห็นของเขาว่า “ผมตอบคำถามคุณได้นะ” พร้อมทั้งใส่ Emoticon หน้ายิ้มมาให้ด้วยครับ
โดยความเห็นของนาย Mark ได้กล่าวไว้แบบนี้ครับว่า “หากคุณเป็นคนที่ควบคุมดูแลบริษัทที่เป็นผู้ก่อตั้งขึ้นมาเองเหมือนที่ผมทำกับ Facebook และเหมือนผู้ก่อตั้งบริษัทอื่นๆ คุณจะพบว่ามันเป็นไปได้ยากมากๆที่เหล่านักลงทุนจะไล่คุณออกจากตำแหน่งได้ นั่นหมายถึงว่าคุณไม่ต้องกังวลเรื่องที่จะต้องออกจากงานเลยถึงแม้ว่าบริษัทของคุณจะมีผลประกอบการที่ย่ำแย่ติดต่อกันหลายๆไตรมาสก็ตาม และนอกจากนี้มันยังทำให้คุณสามารถตัดสินใจอะไรๆได้ง่ายกว่าอีกด้วย”
ซึ่งนั่นก็อาจจะเป็นกาลดีของ Twitter ก็ได้ครับ ที่ตอนนี้ทางนาย Jack Dorsey นักประดิษฐ์และผู้ร่วมก่อตั้งได้เข้ามาดำรงตำแหน่ง CEO แทนก่อนที่ทางบริษัทจะสามารถหาใครเข้ามาแทนที่ตำแหน่งนี้อย่างเป็นทางการได้ ซึ่งบางคนก็คิดว่าการบริหารของ Jack Dorsey นั้นทำได้ดี แต่แน่นอนว่าก็ต้องมีคนที่คิดว่ายังมีคนอื่นๆที่อาจเหมาะกับการเป็น CEO ของ Twitter มากกว่า Jack Dorsey ครับ
จริงๆแล้วก่อนหน้านี้นาย Mark เคยพยายามที่จะเข้าซื้อ Twitter มาก่อนตั้งแต่ช่วงแรกๆที่ Twitter ถูกก่อตั้งขึ้นมาครับ ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับบริษัทในครั้งนี้ก็เหมือนจะทำให้นาย Mark ต้องกลับมาคิดอีกครั้งครับว่าจะเข้าซื้อ Twitter อีกครั้งหรือไม่ (ข้อมูลจากแหล่งข่าว)
อย่างไรก็ตามในความเห็นของนาย Mark ไม่ได้มีการกล่าวไว้ว่าใครที่ควรจะเข้ามาเเป็น CEO คนใหม่ของ Twitter แต่เขาก็ได้ชี้แจงไว้แบบนี้ครับว่า การที่มี CEO ที่เป็นผู้ก่อตั้งนั้นเป็นสิ่งที่ดีกว่าแน่นอนเพราะจะทำให้ CEO คนนั้นมีเวลาในการคิดและวางแผนระยะยาวได้ดีกว่า นอกจากนี้นาย Mark ยังได้กล่าวเพิ่มเติมอีกด้วยว่า
“ต้นทุนทางสังคมและอำนาจทางศีลธรรมที่ได้มาจากการเป็นผู้ก่อตั้งบริษัท รวมทั้งการสร้างผลิตภัณฑ์สำคัญๆของบริษัทมากมายจะทำให้ผู้คนเชื่อในตัวคุณมากขึ้น นอกจากนี้หากว่าบริษัทกำลังอยู่ในช่วงที่เลวร้ายผู้คนเหล่านั้นก็เชื่อในตัวคุณมากกว่า ดังนั้นหากมีคนวิจารณ์คุณน้อยลงแน่นอนว่าคุณจะมีเวลาในการบริหารงานมากขึ้น นอกจากนี้คนที่จะออกจากการถือหุ้นบริษัทจะน้อยลงซึ่งไม่ทำให้งานของคุณต้องล่าช้าลง และแน่นอนว่ามันจะง่ายกว่าหากคุณมีต้นทุนทางสังคม”
แม้ว่าในการออกมาแสดงความคิดเห็นความยาว 9 ย่อหน้าของนาย Mark จะเป็นความคิดเห็นที่มีต่อบริษัท Twitter โดยตรง แต่ก็ไม่ได้มีการกล่าวถึงชื่อของใครแต่อย่างใด จะมีเพียงแต่การกล่าวถึงความสำคัญของการสร้างทีมผู้บริหารของ Twitter ให้แข็งแกร่งเท่านั้น ซึ่งหากหลายๆคนจำได้ก่อนหน้านี้นาย Mark เองเคยเปรียบเทียบฝ่ายบริหารของ Twitter ไว้ว่าเป็นเหมือนคนที่ขับรถตัวตลกเข้าไปในเหมืองทองแล้วก็ตกลงไปในนั้น ซึ่งเป็นความเห็นที่โด่งดังมากในช่วงนั้นครับ
ทั้งนี้นาย Mark ได้กล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า “คนส่วนมากชอบโฟกัสที่ตัว CEO คนเดียว ซึ่งจริงๆแล้วไม่มีใครสามารถทำอะไรได้ด้วยตัวคนเดียวหรอก เหมือนกับที่ผมไม่สามารถสร้าง Facebook ได้หากไม่มีทีมหลักที่ทำงานมาด้วยกัน เรื่องนี้ไม่ใช่เฉพาะ CEO หรือผู้ก่อตั้งบริษัท แต่มันเกี่ยวกับความแข็งแรงของทีมงานทั้งหมดมากกว่า”
โดยสรุุปที่นาย Mark อยากจะบอกก็คือวิธีที่คุณจะไม่โดนไล่ออกจากการเป็น CEO ของบริษัทคือคุณจะต้องเป็นผู้ก่อตั้งด้วยนั่นเองครับ นอกจากนี้เราไม่ควรที่จะโฟกัสที่คนที่เป็น CEO เพียงคนเดียว เพราะไม่มีใครทำอะไรคนเดียวได้ เราควรจะพัฒนาให้ทุกๆคนในองค์กรมีความแข็งแรงมากกว่าโดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของทีมผู้บริหารระดับสูง
ที่มา : recode