ถ้าให้พูดถึงแบรนด์ Marshall (มาแชล) แบรนด์ดังจากอังกฤษที่หลายคนอาจจะนึกถึงแอมป์กีตาร์ ลำโพง มากกว่าจะนึกถึงตัวหูฟัง วันนี้ AppDisqus ขอนำเจ้าตัวหูฟัง In ear มาทดสอบกันว่าของดีจริงอย่างที่หลายๆ คนพูดถึงจริงหรือไม่ ต้องบอกว่ารุ่นนี้ออกมาได้สักพักหญ่ายยยยย..แล้ว แต่สำหรับคนที่กำลังมองหาหูฟังที่ใช้กับสมาร์ทโฟนเสียงเทพ สายเฮฟวี่เมททัล Slipknot ต้องมี Metallica ต้องมา ขอบอกว่าต้องมาโดน แกะกล่องกันดีกว่า..ฮูเล่!!
เห็นตัวกล่องก็บ่งบอกความเป็นร็อคเกอร์พอสมควร วัสดุเป็นพลาสติกสกรีนโลโก้ตัว M สีทองหลังตัวหูฟัง ดีไซด์ให้ตัวท่อนำเสียงตะแคงเข้ารับช่องหู ลดเสียงรบกวนภายนอกได้ดี ใส่นานๆ ได้สบายไม่เจ็บหู
ความยาวสาย 1.20 เมตร Controltalk มีคลิปเกี่ยว ตัวไมค์วัสดุก็เป็นยางหุ้มเสียงสนทนาชัดเจน หัวแจ็คสีทอง 3.5 mm รูปตัว L มีสปริงสีทองทำให้ทนทานกันกระชากขึ้น อุปกรณ์ภายในกล่อง หัวยางสลีฟมีมาให้ 3 ไซด์ XL , L , S (ไซด์ M มากับตัวหูฟัง) กระดาษแผ่นพับคู่มือการใช้งาน และ…ไม่มีถุงหรือกล่องใส่หูฟัง… แง.. เสียใจ!!
ตัว Controltalk หรือปุ่มรีโมทควบคุมจะมีหลักๆ สีทองแค่ปุ่มเดียวแต่ไม่ได้มีแค่ไว้สำหรับวางสายรับสายเท่านั้น สามารถกดย้อนหรือเลื่อนเพลงได้ด้วย ถ้าจะเลื่อนเพลงให้กดปุ่ม 2 ครั้ง หรือ แบ็กกลับมาก็กด 3 ครั้ง
ส่วนปุ่มด้านข้างจะเป็นปุ่ม EQ ความพิเศษของเจ้า Mode EQ คือสามารถปรับแต่ง EQ ได้ ทั้งแบบมาตราฐานที่ทาง Marshall ตั้งค่ามาให้ และสามารถปรับให้เสียงแน่นขึ้นได้อีกระดับหนึ่งด้วยการกดปุ่มด้านข้าง ก็จะเปลี่ยน EQ ในช่วงย่านความถี่ต่ำปรับให้ขึ้นมาอีกระดับหนึ่งทำให้เสียงต่ำเสียงกลางเด่นขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง เสียงก็จะแน่นขึ้น เหมาะกับการฟังเพลงที่มีซาวด์หนักๆ หน่อย ซึ่งพอทดสอบฟังแล้วก็แตกต่างชัดเจนโดยเฉพาะกับเพลงร็อคที่มีซาวด์ดนตรีที่หนักหน่วง
ทดสอบฟังเสียงโดยการเสียบจึกเข้ามือถือแบบไม่คิดมาก เพราะเน้นใช้งานบนมือถืออยู่แล้วไม่ต้องมาเบริ์นให้เสียเวลา ตัวหูฟังใช้ได้ทั้ง Android และ ios การทดสอบก็ทดสอบฟังผ่านแอพสตรีมมิ่งทั่วไป คุณภาพเสียงแรกฟังต้องบอกว่าสมราคาคุย ในราคา 3,490 บาท มิติเสียงค่อนข้างกว้างพอสมควรเสียงแหลมก็ไม่แหลมจนแสบหูถือว่าระดับกำลังดี ฟังวนไปหลายๆ แนว ป๊อปใสๆ มุ้งมิ้ง BNK48 คุ้กกี้เสี่ยงทายยัน EDM ของ Skillet ฟังสนุกเท้าแอบดีดตามจังหวะกันเลยทีเดียว หยิบเอา Soft Rock เบาๆ ของ Phil Collins อ๋อย..ไม่อยากไปไหนเลยบอกตรง อยากนอนฟังเพลงอยู่กับบ้านมาก ไม่ต้องกดปุ่ม EQ ก็ให้เสียงที่ดีเหมาะกับแนวเพลงมาก
โดดไป Metal ที่เค้าว่าใครชอบเบสหนักๆ น่าจะชอบ จัดไปรัวๆ ราวกับยก Metal Zone มาไว้ในบ้าน พอฟังเข้าจริงเบสก็ไม่ได้หนักอะไรมากมาย ปรับปุ่ม EQ ด้านข้างเพื่อเสียงที่แน่นขึ้น เสียงเบส เสียงกลอง กีตาร์ มากันครบแต่ก็ไม่ถึงขนาดขึ้นเป็นลูกๆ อาจเป็นเพราะการใช้งานแรกๆ ต้องให้เวลามันจดจำซาวด์ซะก่อนเหมือนเป็นการเบริ์นไปในตัว เข้าไปปรับอีควอไลเซอร์ในแอพฯ สตรีมมิ่ง (เริ่มทดสอบฟังตั้งค่าพื้นฐาน) โอ้โหเหะ..เสียงดีขึ้นเป็นกอง
สรุปหล่ะนะ ควรค่าแก่การเสียเงินสู้หูฟังราคาสูงกว่านี้ได้สบายๆ เลย ในราคา 3,490 ถือว่าคุ้มราคาค่ะ ใส่สบายเข้าร่องหูพอดีใส่นานๆ ไม่เจ็บด้วย มีขายตามร้านหูฟังใหญ่ๆ ทั่วไป หรือลองไปดูในนี้ได้ >>https://www.ashop.asia/