อปกรณ์ Headset นั้นกำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นในปัจจุบัน มีบริษัทต่างๆ เช่น HTC, Meta, VITURE, XREAL และอื่นๆ ที่ผลิตอุปกรณ์ประเภทนี้ เป็นทั้งของเล่น หรือ ตัวช่วยในการทำงาน แต่ก็มีเทคโนโลยีรูปแบบนี้อยู่เยอะมาก เช่น VR, AR, XR และ MR ถ้าคุณสงสัยว่าคำศัพท์เหล่านี้หมายถึงอะไร? และ ใช้ยังไง เรารวมมาให้แล้ว!
ในบทความนี้
VR คืออะไร?
มาเริ่มกันที่อันที่ได้รับความนิยมมากที่สุดก่อนเลย VR โดย VR ย่อมาจาก Virtual Reality (ความเป็นจริงเสมือน) เทคโนโลยีความเป็นจริงเสมือนจะทำให้คุณอยู่ในความเป็นจริงที่แตกต่างไปโดยสิ้นเชิง เมื่อใช้มันแล้ว คุณจะไม่รู้สึกสถานที่จริงที่คุณอยู่
ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณกำลังเล่นเกม VR ที่พาคุณไปยังดาวเคราะห์ดวงอื่น พอคุณสวม Headset VR แล้วคุณก็จะไม่ได้มองเห็น หรือรู้สึกได้ว่าผู้ใช้จะยังคงอยู่ที่เดิม
ในช่วงแรกๆ Headset VR จากช่วงต้นปี 2010 ยังจำเป็นต้องเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ โดยพื้นฐานแล้ว Headset จะส่งภาพจากคอมพิวเตอร์ของคุณผ่านเลนส์ คุณจะเห็นวิดีโอเกมในมุมมอง 360 องศา และใช้คอนโทรลเลอร์เพื่อควบคุมตัวละคร
AR คืออะไร?
AR ย่อมาจาก Augmented Reality (ความเป็นจริงเสริม) เทคโนโลยีนี้ไม่จำเป็นต้องใช้ Headset เนื่องจากมีแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือที่สามารถให้ประสบการณ์ AR ได้ อย่างไรก็ตาม การใช้แว่นตาหรืออุปกรณ์สวมหัวจะทำให้ประสบการณ์นั้นดีขึ้นอย่างมาก
Virtual Reality (VR) มีจุดประสงค์เพื่อทำให้คุณรู้สึกเหมือนอยู่ในความเป็นจริงที่แตกต่างไปโดยสิ้นเชิง ในทางตรงกันข้าม Augmented Reality (AR) ยังคงให้คุณเห็นโลกจริงอยู่ แต่แทนที่จะพาคุณออกจากโลกจริง มันจะนำวัตถุต่างๆ มาใส่ไว้ในโลกจริงแทน ตัวอย่างเช่น เกม Pokemon Go คุณใช้โทรศัพท์มือถือจ่อไปที่โลกจริง คุณก็จะเห็นโปเกมอนน สิ่งสำคัญเกี่ยวกับเทคโนโลยี AR คือคุณสามารถโต้ตอบกับวัตถุดิจิทัลได้ แต่วัตถุเหล่านั้นไม่สามารถโต้ตอบกับสภาพแวดล้อมจริงของคุณได้ ลองนึกภาพ วิดีโอ ข้อความ หรือวัตถุอื่นๆ วางซ้อนทับบนโลกจริง แต่พวกมันแค่ลอยอยู่เฉยๆ โดยไม่มีการตอบสนองกับสิ่งรอบตัว
MR คืออะไร?
ตอนนี้ เรามาพูดถึงเทคโนโลยีที่ผสมผสานโลกทั้งสองเข้าด้วยกัน Headset หลายๆ รุ่นที่เราเห็นในปัจจุบันจัดอยู่ในหมวดหมู่นี้ MR ย่อมาจาก Mixed Reality (ความเป็นจริงผสม) และมีลักษณะคล้ายคลึงกับ AR ในบางด้าน เช่นเดียวกับ Augmented Reality, Mixed Reality เกี่ยวข้องกับการแสดงวัตถุต่างๆ ซ้อนทับบนโลกจริง คุณยังคงรู้สึกถึงตำแหน่งและสภาพแวดล้อมที่คุณอยู่
อย่างไรก็ตาม Mixed Reality จะทำให้วัตถุดิจิทัลจะสามารถโต้ตอบกับสภาพแวดล้อมจริงของคุณได้ ตัวอย่างเช่นหน้าต่างวิดีโอที่ลอยอยู่ ในกรณีของ AR หน้าต่างวิดีโอจะลอยอยู่ตรงหน้าคุณเฉยๆ และหากคุณขยับหัว หน้าต่างก็จะขยับตามไปด้วย
แต่สำหรับ MR หน้าต่างวิดีโอจะดูเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของสภาพแวดล้อมจริง Headset จะสแกนสภาพแวดล้อมรอบตัวคุณและทำให้วิดีโอลอยอยู่ในพื้นที่ 3 มิติได้ ตัวอย่างเช่น คุณสามารถวางหน้าต่างวิดีโอไว้บนโต๊ะของคุณ และมันจะอยู่ตรงนั้นไม่ว่าคุณจะขยับหัวไปทางไหนก็ตาม หรือถ้าคุณเดินออกห่างจากหน้าต่างวิดีโอ มันก็ยังคงอยู่บนโต๊ะเหมือนเดิม
อีกตัวอย่างหนึ่งคือเกมที่มีสิ่งมีชีวิตเล็กๆ ที่โต้ตอบกับวัตถุในห้องของคุณ Headset จะสแกนห้องของคุณเพื่อสร้างแผนที่ 3 มิติของตำแหน่งสิ่งต่างๆ ทำให้สิ่งมีชีวิตนั้นสามารถกระโดดขึ้นไปบนเตียง ตู้เสื้อผ้า หรือโต๊ะข้างเตียงของคุณได้ สิ่งมีชีวิตเหล่านี้จะยังคงอยู่ในตำแหน่งเดิมเมื่อเทียบกับสภาพแวดล้อมของคุณ ดังนั้นคุณจึงสามารถเดินรอบๆ พวกมันได้ราวกับว่าพวกมันอยู่ที่นั่นจริงๆ
อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญเกี่ยวกับ MR คือการใช้ haptics (เทคโนโลยีการตอบสนองด้วยการสัมผัส) อุปกรณ์ MR ส่วนใหญ่มักมาพร้อมกับคอนโทรลเลอร์ที่สามารถสั่นสะเทือนเมื่อมีบางอย่างเกิดขึ้น ซึ่งช่วยเพิ่มประสบการณ์ให้สมจริงยิ่งขึ้น
XR คืออะไร?
XR เป็นคำที่อธิบายได้ง่ายที่สุด XR ย่อมาจาก Extended Reality (ความเป็นจริงขยาย) ซึ่งเป็นคำรวมที่หมายถึงเทคโนโลยีอื่นๆ ทั้งหมด ดังนั้น XR จึงครอบคลุม VR, AR และ MR ไว้ด้วยกัน มีแว่นตาและ Headset ที่ออกแบบมาสำหรับเทคโนโลยีเฉพาะทาง ตัวอย่างเช่น Valve Index เป็นอุปกรณ์ที่ออกแบบมาสำหรับ VR โดยเฉพาะ ในขณะที่เราก็เห็นแว่นตา AR ที่เพียงแค่แสดงวัตถุซ้อนทับบนภาพจริง ส่วนอุปกรณ์ที่ครอบคลุมเทคโนโลยีทั้งหมดนี้จะถูกเรียกว่า XR devices
ตัวอย่างที่ดีคือ Apple Vision Pro อุปกรณ์นี้สามารถเปลี่ยนระหว่างโลกเสมือนและโลกจริงได้อย่างลื่นไหล และยังให้คุณใช้แอปพลิเคชัน VR, AR และ MR ได้ด้วย ในปัจจุบัน มีอุปกรณ์ XR หลายรุ่นวางจำหน่ายในตลาดจากบริษัทต่างๆ เช่น Meta และ HTC และในขณะนี้ Samsung กำลังเตรียมตัวที่จะเปิดตัว Headset XR ของตัวเองเช่นกัน เมื่อบริษัทเหล่านี้พัฒนาอุปกรณ์มากขึ้น เราก็จะเห็น Headset XR จากบริษัทอื่นๆ ออกมาเพิ่มเติมในตลาดแน่นอน
แหล่งที่มา : Android Headlines