แคมเปญ ‘Mercy is Power – พลังที่แท้จริงเกิดจากความเมตตาชีวิตช้างและเสือ’ ชวนคนไทยให้คำมั่น ไม่ซื้อไม่ครอบครองเครื่องรางจากงาช้างและเสือ รับยันต์อิเล็กทรอนิกส์ไปเลย แคมเปญนี้ยังได้นำเสนอคลิปวิดีโอสั้น 3 ชุด ที่เผยแพร่ผ่านทางสื่อโซเชียลมีเดียทั้ง Facebook และ YouTube โดยคลิปสั้นนั้นมีสาระเตือนใจจากพระมหานภันต์ สนฺติภทฺโท ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศ เพื่อรณรงค์ให้คนไทยร่วมให้คำมั่นว่า จะไม่ซื้อและไม่ครอบครองเครื่องรางจากงาช้างและเสือ โดยสามารถดาวน์โหลดยันต์อิเล็กทรอนิกส์ได้จาก www.mercyispower.com และใช้แฮชแท็ก #MercyisPower #ยัน(ต์)ว่าดียัน(ต์)ว่าได้บุญ #ละเว้นชีวิตช้างเสือคือพลัง
การรณรงค์นี้ต้องการที่จะท้าทายความเชื่อของคนไทยว่า การซื้อและครอบครองเครื่องรางจากงาช้างและเสือมีผลทำให้ชีวิตดีขึ้นจริงหรือ เพราะตามหลักคำสอนของพุทธศาสนาความสำเร็จ และความเจริญก้าวหน้า ล้วนเกิดขึ้นจากความพยายาม และความมุ่งมั่นของตน หาใช่มาจากการครอบครองเครื่องรางที่ทำขึ้นจากการฆ่า แต่การละเว้นและเมตตาชีวิตสัตว์ป่าคือพลังที่แท้จริง
ความต้องการผลิตภัณฑ์จากงาช้างและเสือที่เพื่อทำเครื่องรางนับได้ว่าเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่การค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมาย เพื่อร่วมแก้ไขปัญหานี้ แคมเปญ ‘Mercy is Power – พลังที่แท้จริงเกิดจากความเมตตาชีวิตช้างและเสือ’ รณรงค์ให้คนไทยทุกคนร่วมให้คำมั่นสัญญาพร้อมกับดาราและผู้มีชื่อเสียงในโลกโซเชียล เช่น เชอรรี่-เขมอัปสร และวรรณสิงห์ ประเสริฐกุล ว่าจะไม่ซื้อ ไม่ครอบครองเครื่องรางจากงาช้างและเสือ เพื่อปกป้องและอนุรักษ์ช้างและเสือ
แคมเปญ ‘Mercy is Power เกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่างเครือข่ายเฝ้าระวังการค้าสัตว์ป่าและพืชป่า หรือ TRAFFIC ร่วมกับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช และโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) ด้วยการสนับสนุนจากกองทุนสิ่งแวดล้อมโลก โดยผู้ที่สนใจสามารถร่วมให้คำมั่นสัญญาว่าจะไม่ซื้อ ไม่ครอบครองเครื่องรางจากงาช้างและเสือได้ที่ www.mercyispower.com และรับยันต์อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของคำมั่นดังกล่าว
ในปัจจุบันการครอบครองผลิตภัณฑ์จากงาช้างนั้นถือได้ว่าเป็นสิ่งผิดกฏหมาย เว้นแต่ผู้ครอบครองจะขึ้นทะเบียนภายในปี พ.ศ. 2558 หรือก่อนหน้านั้น ทั้งนี้เป็นเพราะรัฐบาลไทยได้ยกระดับพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 ซึ่งการยกระดับนี้รวมไปถึงการเพิ่มบทลงโทษทั้งจำและปรับ
TRAFFIC รายงานว่า เฉพาะในประเทศไทย จากปี พ.ศ. 2543 ถึงปี พ.ศ. 2561 มีคดีเกี่ยวกับเสือที่จับได้จำนวน 49 คดี และยึดเสือของกลางได้มากถึง 369 ตัว และจนถึงปี พ.ศ. 2563 ได้มีการบุกจับเพิ่มขึ้นอีก 6 ครั้งและสามารถยึดเสือของกลางได้เพิ่มอีก 24 ตัว นอกจากนี้ TRAFFIC ยังได้มีการติดตามการค้างาช้างออนไลน์และพบว่า ในการสำรวจเพียงแค่ 5 วันในปี พ.ศ. 2562 ประเทศไทยมีการขายผลิตภัณฑ์จากงาช้างจำนวนกว่า 1,000 รายการ
“บรรทัดฐานทางสังคมที่มีต่อเครื่องรางจากงาช้างและเสือนั้นเปลี่ยนแปลงไป คนจำนวนมากเริ่มเข้าใจว่า การซื้อหรือการครอบครองเครื่องรางจากงาช้างและเสือส่งผลลบต่อการอนุรักษ์สัตว์ป่าและเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ การลดความต้องการครอบครองผลิตภัณฑ์สัตว์ป่าสามารถยุติการค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมายและช่วยอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ได้ การเปิดตัวแคมเปญ ‘Mercy is Power’ โดยความร่วมมือกับ TRAFFIC และกรมอุทยานฯ สามารถตอกย้ำแนวคิดเชิงบวกนี้ และหวังว่าจะสามารถยุติการค้าสัตว์ป่าอย่างผิดกฎหมายได้ตลอดไป” ม.ร.เรอโนด์ เมเยอร์ ผู้แทน UNDP ประจำประเทศไทยกล่าว
เหล่าผู้มีชื่อเสียงและรักษ์สิ่งแวดล้อมมากมายกว่า 20 คน เช่น คุณเชอรี่-เข็มอัปสร, คุณแพทริเซีย กู๊ด, คุณนุ่น-ศิรพันธ์, คุณท็อป-พิพัฒน์, คุณวรรณสิงห์ ประเสริฐกุลและคุณมารีญา พูลเลิศลาภ ได้เข้าร่วมและสนับสนุนแคมเปญนี้ผ่านทางสื่อออนไลน์ของแต่ละท่าน ซึ่งจะเริ่มขึ้นก่อนวันเสือโลกในวันที่ 29 กรกฏาคม 2564 ที่จะถึงนี้