ก่อนหน้านี้ Meta หรือบริษัทแม่ของ Facebook ได้ขู่ปิดให้ทำการในสหภาพยุโรปหากมีการบังคับใช้กฏหมายให้เก็บข้อมูลผู้ใช้งานในยุโรปเท่านั้น ซึ่งทางหน่วยงานที่กำกับดูแลในสหภาพยุโรปได้กล่าวโต้ตอบ Meta ว่า “ชีวิตจะดีมากถ้าไม่มี Facebook และเราจะอยู่ได้อย่างแน่นอน”
เดิมมีข้อตกลงกันระหว่างสหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริกาโดยจะมีการโอนข้อมูลของผู้ใช้งานจากยุโรปกลับไปสหรัฐอเมริกา อย่างไรก็ตาม ข้อตกลงนี้ถูกล้มโดยศาลยุติธรรมของสหภาพยุโรปเมื่อปี 2020 เพราะหน่วยงานเกรงว่าข้อมูลของผู้ใช้งานจะไม่ปลอดภัยหากมีการส่งกลับไปสหรัฐอเมริกา
ด้วยเหตุนี้เองข้อตกลงระหว่างยุโรปและสหรัฐอเมริกาจึงต้องเริ่มใหม่ ซึ่งจะส่งผลต่อบริษัทใหญ่อย่าง Meta ที่ไม่สามารถเก็บข้อมูลผู้ใช้งานจากฝั่งยุโรปได้ นั่นทำให้ Meta ต้องขู่ว่าจะปิดให้บริการ Facebook และ Instagram ในสหภาพยุโรปนั่นเองครับ
แถลงการณ์ของ Meta “จริง ๆ แล้วเราไม่ได้มีความต้องการหรือไม่ได้มีแผนที่จะถอนตัวออกจากยุโรป แต่ความจริงง่าย ๆ ก็คือ Meta และธุรกิจ องค์กร และบริการอื่นๆ จำนวนมาก พึ่งพาการถ่ายโอนข้อมูลระหว่างสหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริกาเพื่อดำเนินการบริการต่าง ๆ ไปทั่วโลก”
Robert Habeck รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจของเยอรมนีกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ตนไม่ได้ใช้งาน Facebook และ Twitter มาเป็นเวลากว่า 4 ปีแล้ว เนื่องจากบัญชีของ Habeck ถูกแฮก ซึ่งเขาก็พบว่ามันช่างวิเศษที่ไม่มีโซเชียลมีเดียเหล่านี้ นอกจากนี้ Bruno Le Maire รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของฝรั่งเศสกล่าวเสริมว่า “เราจะอยู่ได้เป็นอย่างดีโดยที่ไม่มี Facebook”