ไมครอน ส่งมอบแรมที่มีเทคโนโลยีชั้
“ความเป็นผู้นำของไมครอนในการผลิตและส่งมอบ LPDDR5 DRAM เทคโนโลยีชั้นนำในระดับอุตสาหกรรมนี้จะมีส่วนเป็นแรงผลักดันในการใช้งาน 5G และ AI” ดร. ราจ ทัลลูรี รองประธานอาวุโสและผู้จัดการทั่วไปของธุรกิจมือถือของไมครอนกล่าว “ลูกค้าและคู่ค้าของเราต้องการโซลูชั่นหน่วยความจำรุ่นใหม่ๆ ที่ถูกผลิตโดยการใช้เทคโนโลยีล่าสุด ซึ่งขับเคลื่อนพลังงานและประสิทธิภาพที่ไม่มีใครเทียบ เพื่อรองรับระบบ 5G และ AI LPDDR5 DRAM ของไมครอนสามารถตอบสนองความต้องการเหล่านั้น ด้วยความเร็วในการเข้าถึงข้อมูลที่เพิ่มขึ้นถึง 50% และมีขุมพลังที่มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นมากกว่า 20% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า”
“เราให้ความสำคัญต่อการเป็นผู้นำในด้านการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องและยาวนาน ในเรื่องหน่วยความจำของไมครอน” นายฉาง เฉิง รองประธาน เสียวหมี่ กรุ๊ป กล่าวว่า “คุณสมบัติที่โดดเด่นนำตลาดของ LPDDR5 DRAM ของไมครอน ทำให้มั่นใจได้ว่าสมาร์ทโฟน Xiaomi Mi 10 ของเรา จะยังคงสมรรถภาพด้านพลังงาน ขณะเดียวกันยังคงประสิทธิภาพด้านการทำงานที่โดดเด่น และเสถียรมากขึ้น เราเชื่อว่า LPDDR5 จะเป็นองค์ประกอบมาตรฐานสำหรับสมาร์ทโฟนรุ่นที่ดีที่สุด (แฟล็กชิพ) ทั้งหมดในปี 2563”ไมครอนออกแบบ LPDDR5 DRAM เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มมากขึ้น ในด้านประสิทธิภาพของหน่วยความจำที่สูงขึ้นขณะเดียวกันก็ต้องมีอัตราการใช้พลังงานที่ลดลง ซึ่งหมายรวมถึงในอุตสาหกรรมอื่นๆ อาทิ รถยนต์ ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อรองรับระบบ 5G และการทำงานร่วมกับ AI ซึ่ง LPDDR5 สามารถลดการใช้พลังงานได้มากถึง 20% เมื่อเทียบกับหน่วยความจำ LPDDR4x
การพัฒนานำ AI ใส่ในแอพพลิเคชั่นต่างๆ ในปัจจุบันเป็นตัวกระตุ้นความต้องการหน่วยความจำประสิทธิภาพสูง ที่สามารถทำให้เข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น LPDDR5 ของไมครอน มอบความเร็วและความจุที่เพียงพอกับการใช้งาน AI Engines ในโปรเซสเซอร์สมาร์ทโฟนได้โดยตรง โดยโปรเซสเซอร์เหล่านี้จะใช้ข้อมูลขั้นสูงจากหน่วยความจำภายในของ LPDDR5 เพื่อเพิ่มความสามารถในการเรียนรู้ของเครื่อง
หน่วยความจำ LPDDR5 ของไมครอนถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของเครือข่าย 5G ซึ่งจะเริ่มใช้งานทั่วโลกในปี 2563 LPDDR5 ของไมครอน ช่วยให้สมาร์ทโฟน 5G สามารถประมวลผลด้วยขีดความเร็วสูงสุดที่ 6.4Gbps เพื่อป้องกันปัญหาข้อมูลคอขวด ที่จะเกิดจากการประมวลผลของ 5G ( 5G data bottlenecks) ความสามารถนี้ตอบสนองความต้องการด้านเทคโนโลยีอื่นๆ อาทิเช่น ยานพาหนะที่ขับเคลื่อนอัตโนมัติ ที่ต้องการระบบหน่วยความจำย่อยที่มีแบนด์วิดท์ขนาดใหญ่เพื่อรองรับการคำนวนแบบเรียลไทม์และการประมวลผลข้อมูล
ไมครอนกำลังดำเนินการจัดส่ง LPDDR5 ความจุ 6GB, 8GB และ 12GB ที่ความเร็วในการส่งข้อมูล 5.5Gbps และ 6.4Gbps ไปยังลูกค้าในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2563 LPDDR5 ของไมครอนอยู่ในรูปแบบ UFS มัลติชิพแพคเกจ (uMCP5) สำหรับใช้ในสมาร์ทโฟนระดับกลางและระดับสูง โดย LPDDR5 ในมัลติชิพแพคเกจดังกล่าว จะทำให้แบตเตอรี่มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้นและแบนด์วิดท์ที่สูงขึ้นจะทำให้การประมวลผลภาพมีประสิทธิภาพสูงขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้ถูกสงวนไว้สำหรับสมาร์ทโฟนรุ่นที่ดีที่สุด (แฟล็กชิพ)