สำหรับ Microsoft Translator นั้นแน่นอนว่ามันไม่ใช่บริการแปลบริการแรกของโลกหรือในสมาร์ทโฟนครับ แต่ต้องบอกว่า Microsoft Translator ถือเป็นบริการแรกที่หากนำมาวัดกับ Google Translate แล้วมีความสูสีกันค่อนข้างมากทีเดียวครับ ซึ่งคงไม่แปลกอะไรที่จะต้องมีคนถามแน่ๆว่าบริการอันไหนดีกว่ากัน วันนี้เราจึงถือโอกาสมาพูดถึงระหว่าง Microsoft Translator กับ Google Translate ให้ชัดๆครับ ไปดูกันว่าทั้งคู่นั้นมีความแตกต่างหรือความคล้ายคลึงกันในส่วนไหนบ้าง
วิธีการที่แตกต่าง
อย่างที่เราเคยเห็นว่าหลายแอพของ Microsoft นั้นมักจะใส่ใจในเรื่องของการออกแบบ Interface ซึ่งสำหรับ Translator ของ Microsoft ก็เป็นอีกหนึ่งแอพครับที่ทาง Microsoft สามารถทำออกมาได้อย่างดีทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของหน้าจอเริ่มต้นของแอพหรือไอคอนนั้นถูกออกแบบมาได้อย่างทันสมัยและสวยงาม ถึงแม้ว่าในส่วน “Recent” และ “Pinned” อาจจะดูเรียบง่ายไปหน่อยหากเทียบกับส่วนอื่นๆของการใช้งานก็ตาม นอกจากนี้ในส่วนอื่นๆของแอพก็ทำออกมาได้น่าใช้งานดีทีเดียวครับ
แน่นอนว่าแอพ Translator แบบนี้สิ่งที่ทาง Microsoft จะโฟกัสและมุ่งเน้นมากที่สุดก็คือเรื่องของความเรียบง่ายและสามารถเข้าถึงได้ง่ายในส่วนของฟีเจอร์สำคัญๆต่างๆ แตกต่างจากทาง Google Translate ครับ
หากว่าเราไม่พูดถึงหน้าจอ UI ของ Google Translate หรือหน้าจอเริ่มแรกของแอพนั้น แอพ Google Translate ก็ถือเป็นแอพที่ทำได้ถูกต้องแล้วล่ะครับ เพราะแน่นอนว่าผู้ใช้จะเปิดแอพนี้ขึ้นมาในเวลาที่ต้องการแปลเท่านั้น ซึ่ง Google ก็ทราบถึงจุดนี้ดี จึงเห็นได้ว่าแอพ Google Translate ไม่มีความสวยงามเทียบเท่ากับ Microsoft Translate
ในส่วนออพชั่นการทำงานต่างๆของแอพจะเป็นแบบที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายและยังมาพร้อมกับความรวดเร็วและประสิทธิภาพในการทำงานที่สูงครับ
ความคล้ายคลึงที่มากกว่าที่คุณคิด
ความคล้ายคลึงกันของทั้ง Microsoft และ Googel ก็คือความเข้าใจในส่วนของแอพที่จะนำมาใช้ในการแปลนั่นเองครับว่าแอพที่ใช้สำหรับการแปลมีอะไรที่จำเป็นจะต้องมีบ้าง ไม่ว่จะเป็นส่วนของการแปลจากข้อความหรือการแปลจากเสียงพูดก็ถือเป็นฟีเจอร์สำคัญสำหรับแอพแปล และเมื่อมีผู้ใช้ได้ทำการแปลไม่ว่าจะแปลเสียงพูดหรือแปลจากตัวหนังสือก็ตาม ทั้งสองแอพจะสามารถรับฟังคำแปลออกมาเป็นเสียงได้เช่นเดียวกันครับ นอกจากนี้ยังสามารถใช้ในแบบ Fullscreen ได้ด้วย เผื่อว่าเราต้องคุยกับคนแปลกหน้า จะทำให้เราโชว์คำแปลดังกล่าวโดยไม่มีสิ่งรบกวนได้ชัดเจนขึ้นครับ นอกจากนี้ทั้งคู่ยังสามารถย้อนกลับไปดูสิ่งที่แปลล่าสุดได้ใน “Recent” และยังสามารถตั้ง Favorite ให้คำต่างๆเหล่านั้นได้ด้วยครับ หากเราเห็นว่ามันเป็นคำที่ใช้บ่อย
การสนทนาสด
นอกจากที่เราจะสามารถแปลคำศัพท์ต่างๆจากภาษาหนึ่งไปอีกภาษาหนึ่งได้แล้ว สำหรับ Google Translate ยังมีฟีเจอร์ที่จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้แอพเพื่อแปลบทสนทนาที่มีผู้พูด 2 คน พูดคนละภาษาได้โดยอัตโนมัติด้วย เรียกว่าเป็นแอพที่มีประโยชน์มากๆครับ เพราะในบางครั้งที่เราจำเป็นต้องสื่อสารกับใครสักคนที่พูดกันคนละภาษา แอพนี้จะช่วยเราได้อย่างมากครับเหมือนกับเรามีล่ามส่วนตัวพกติดตัวไปด้วยตลอดเวลาทีเดียว
และแน่นอนว่าบริการในส่วนของการแปลนี้เป็นอะไรที่สะดวกและง่ายสำหรับทุกคนครับ เพราะหากว่าเราไม่ได้มีเงินมากมายขนาดที่จะไปจ้างล่ามหรือไกด์มาเดินตามติดตัวเราตลอดเวลาแล้วล่ะก็ บริการฟรีๆแบบนี้ก็ถือว่าใช้ได้ทีเดียวครับ ถึงแม้ว่าบางครั้งอาจจะมีการแปลหรือการจัดเรียงประโยคที่ผิดพลาดไปบ้างก็ตาม ก็ยังดีกว่าที่เราจะไม่มีเครื่องมืออะไรไว้ช่วยเราจริงไหมครับ
ทั้งนี้สิ่งที่ Google Translate สามารถทำได้ดีกว่าทาง Microsoft Translate ก็คือแอพแปลของทาง Microsoft ไม่สามารถที่จะสลับภาษาในการแปลได้ในทันทีครับ เช่นหากเราเลือกที่จะแปลไทยเป็นอังกฤษ เราจะไม่สามารถกลับมาเลือกแปลอังกฤษเป็นไทยได้ในทันทีครับ ซึ่งแตกต่างจากของ Google อย่างชัดเจน
ภาพและการเขียนด้วยลายมือ
นอกจากโหมดของการแปลจากคำพูดและการแปลคำศัพท์ต่างๆที่ถูกพัฒนาให้ดีขึ้นแล้ว Google Translate ยังสามารถที่จะแปลคำศัพท์ต่างๆจากรูปภาพและการเขียนด้วยลายมือได้อีกด้วย โดยเฉพาะในส่วนของการแปลจากลายมือนั้นจะเป็นประโยชน์มากครับหากเรานำมาใช้กับภาษาที่มีตัวอีกษรที่ค่อนข้างอลังการอย่างภาษาจีน นอกจากนี้ในโหมดของการแปลจากรูปภาพนั้นเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา Google ได้ซื้อ Word Lens เข้ามาช่วยเสริม จึงทำให้การแปลจากรูปภาพเป็นอะไรที่เหมาะมากๆครับสำหรับนักท่องเที่ยวหรือผู้ที่ต้องเดินทางไปต่างแดนบ่อยๆ เพราะเพียงแค่เราทำการใช้กล้องหันไปทางป้ายหรือข้อความที่เราต้องการอยากจะรู้ความหมาย มันก็จะทำการแปลให้เราโดยอัตโนมัติเลยครับ ไม่จำเป็นต้องถ่ายหรือพิมพ์คำต่างๆลงไปในแอพแปลด้วยซ้ำ
การใช้งานในโหมด Offline
อีกสิ่งหนึ่งที่เป็นประโยชน์มากๆสำหรับการใช้งาน Google Translate คือโหมดออฟไลน์ครับ เพราะเราจะสามารถดาวน์โหลดภาษาต่างๆที่เราต้องการใช้มาเก็บไว้ในเครื่องได้เลย (ไม่ทั้งหมดจากทั่วโลก แต่ส่วนใหญ่มีครับ) ซึ่งทำให้เราสามารถใช้งานการแปลโดยไม่จำเป็นต้องมีการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตได้นั่นเอง และนอกจากนี้มันยังสามารถทำงานร่วมกับฟีเจอร์ Live Camera หรือการแปลจากรูปภาพได้อีกด้วย ทั้งนี้จะเป็นอะไรที่ช่วยเราได้เยอะจริงๆครับในการไปท่องเที่ยวประเทศที่เรารู้อยู่แล้วว่าจำเป็นต้องใช้ภาษาอะไร
และมากไปกว่านั้น
ยังมีอีกหลายๆสิ่งที่มีใน Google Translate แต่ไม่มีใน Microsoft Translate ครับ
- เวลาที่พิมพ์คำศัพท์ต่างๆ Google Translate จะสามารถอ่านออกเสียงคำที่เราพิมพ์ออกมาได้ หากว่าเราไม่แน่ใจว่าคำศัพท์ที่เราพิมพ์นั้นออกเสียงอย่างไรครับ
- Google Translate สามารถแชร์คำที่เราแปลไปแอพอื่นๆได้
- สามารถซิงค์ข้อมูลที่เราตั้งค่าไว้เป็น Favorite ในแอพแปลไปยังอุปกรณ์อื่นๆของเราได้ ดังนั้นเราจะสามารถเข้าถึงได้อย่างง่ายดาย
- หากว่าเราเลือกภาษาผิด Google Translate จะสามารถเดาได้ว่าจริงๆแล้วเราต้องการแปลเป็นภาษาอะไร จากนั้นมันก็จะถามเราว่าต้องการเปลี่ยนไปเป็นภาษาที่เราต้องการแปลไหมครับ
- Google Translate มีฟีเจอร์ที่ทำให้เราสามารถสลับภาษาไปมาได้ อย่างเราเลือกแปลจากภาษา A ไปเป็นภาษา B แล้วจะสามารถสลับจากภาษา B มาภาษา A ได้เช่นกัน
- Google Translate สามารถแปล SMS ที่ได้รับได้ในทันทีแทนที่เราจะต้อง Copy ข้อความเหล่านั้นไปในแอพแปลครับ
- Google Translate จะมาพร้อมกับดิคชันนารี่ในตัวครับ ซึ่งทำให้เราเห็นการแปลในหลายๆความหมาย อย่างที่เรารู้กันว่าคำหนึ่งคำสามารถทำหน้าที่ได้หลายอย่างรวมทั้งแปลได้หลายความหมายนั่นเองครับ
ภาษาที่รองรับ
หากมองในแง่ความหลากหลายของภาษาแล้ว Google จะเหนือกว่าครับเพราะมันรองรับการแปลจากการพิพม์คำศัพท์ทั้งหมด 90 ภาษา และรองรับการแปลจากเสียงพูดอีก 40 ภาษา และในโหมดของการแปลรูปภาพอีก 26 ภาษาครับ นอกจากนี้ยังรองรับการแปลภาษาท้องถิ่นในบางภาษาอีกด้วยครับ (อราบิค,จีน,อังกฤษ,โปรตุเกส,สเปน)
เปรียบเทียบกับ Microsoft Translator ที่รองรับการแปลจากการพิมพ์คำศัพท์ทั้งหมด 50 ภาษา แน่นอนว่าจะต้องแปลผ่านเสียงพูดได้น้อยกว่านั่นเองครับ
ความแม่นยำของการแปล
ในส่วนของความถูกต้องของการแปลนั้น หากทำการทดสอบโดยพิมพ์คำศัพท์ลงไปเพียงคำเดียว สำหรับ Google ผลลัพธ์ที่ได้มาเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมเสมอครับ อย่างที่เราบอกไว้ก่อนหน้านี้คือ Google Translate มันมาพร้อมกับดิคชั่นนารีนั่นเอง
ส่วนของการแปลประโยคสั้นๆตรงนี้ทาง Microsoft สามารถทำได้ดีกว่าครับ อย่างที่จะเห็นจากในรูปด้านล่างว่าทาง Google แปลเป็น ne est แทนที่จะเป็น n’est เพราะปกติแล้วจะต้องใช้คำว่า n’est ครับถึงจะถูกต้อง
แต่บางครั้ง Microsoft กลับสับสนในเรื่องของ Tense โดยไม่มีเหตุผล และบางครั้ง Google ก็แปลศัพท์เอกพจน์และพหูพจน์แบบมั่วๆเช่นกัน
นอกจากนี้ Microsoft ยังสามารถเข้าใจในส่วนของการแปลชื่อหรือคำนามเฉพาะเจาะจงที่ขึ้นต้นด้วยตัวใหญ่ได้ถูกต้องกว่า แต่ Google กลับพยายามจะแปลคำศัพท์เหล่านั้นซะอย่างนั้นครับ
อย่างคำว่า Android Police ที่จริงๆแล้วไม่ต้องการให้แปล แต่ Google กลับแปลครับ แถมยังไปเปลี่ยนตัวพิมพ์ใหญ่ที่อยู่หน้าคำเสียอีก
นอกจากนี้หากลองทดสอบกับประโยคที่มีความยาวมากขึ้นทั้ง Microsoft และ Google กลับทำได้ไม่ดีทั้งคู่ครับ เริ่มจะแปลผิดออกมาให้เห็นกันบ่อยขึ้น พูดง่ายๆว่าทั้งทางฝั่งของ Google และ Microsoft ทำได้ไม่ดีนักในส่วนของการแปลประโยคยาวๆ
แต่ทั้งนี้ต้องบอกไว้ด้วยว่าเป็นเพียงการทดสอบเท่านั้นนะครับ สำหรับการแปลของ 3 ภาษาที่นำมาทดสอบ ไม่แน่ในภาษาอื่นๆอาจทำได้ดีกว่านี้ แต่อย่างไรก็ตาม Google ดูจะได้เปรียบในส่วนของการแปลคำศัพท์คำเดียวครับ
การแปลผ่านนาฬิกา
สำหรับแอพ Microsoft Translator นั้นจะเป็นแอพที่รองรับการทำงานร่วมกับ Android Wear ได้ด้วยครับ ซึ่งแน่นอนว่ามันจะสามารถใช้ฟีเจอร์ได้เหมือนกับการใช้งานผ่านสมาร์ทโฟนเลย แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เหมือนกันคือมันจะไม่สามารถอ่านออกเสียงผ่านทางอุปกรณ์ Wearable ได้ครับ คือเสียงจะไปออกทางสมาร์ทโฟนแทน อาจจะทำให้เราสับสนนิดหน่อยครับ
แน่นอนว่าสำหรับฟีเจอร์นี้มันช่วยได้เยอะเลยครับ โดยเฉพาะใครที่พูดได้หลายภาษา(ตั้งแต่ 2 ภาษาขึ้นไป) การได้ใช้ฟีเจอร์การแปลผ่านทางนาฬิกาที่อยู่ตรงข้อมือ ถือเป็นอะไรที่สะดวกมากๆ เพราะไม่จำเป็นต้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาก็สามารถแปลผ่านทางนาฬิกาอย่างรวดเร็วได้เลยครับ
แต่สำหรับการใช้งานในส่วนของการแปลในระหว่างสนทนานั้นอาจจะไม่ได้ตอบโจทย์ผู้ใช้งานเท่าไรนักในตอนนี้ เพราะเรายังต้องทำการสลับภาษาไปมาด้วยตัวเอง คือมันจะไม่เปลี่ยนภาษาให้เ่ราโดยอัตโนมัติครับ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาใช้น่าจะสะดวกกว่า
อีกสิ่งหนึ่งคือตอนนี้ทาง Google Translate ยังไม่มีแอพสำหรับอุปกรณ์ Wearable ครับ แต่มันก็สามารถแปลได้หากเราพูดว่า “OK Google”ก่อนจากนั้นก็บอกไปว่า translate ยกตัวอย่างเช่น Translate I am having such a great day to French,” หรือ “how do you say You’re so nice in Spanish” มันก็จะทำการแปลให้เราและแสดงผลลัพธ์เป็นการ์ดข้อความให้เราครับ ทั้งนี้มันจะไม่เข้าใจภาษาอื่นที่เราไม่ได้ใช้ในการออกคำสั่ง OK Google นะครับ
สรุป
หากมองกันตอนนี้ก็คงต้องบอกว่าทาง Google Translate ยังเหนือกว่า Microsoft Translator ในหลายๆฟีเจอร์ แต่ก็ต้องไม่ลืมว่ามันยังเป็นแค่การเริ่มต้นของ Microsoft เท่านั้นครับ ในอนาคตอาจมีการใส่ฟีเจอร์อื่นๆเข้ามาอีกมากมาย รวมทั้งน่าจะมีอีกหลายๆภาษาที่จะต้องเพิ่มเข้ามา ในบทความนี้เราไม่ได้จะบอกว่า Microsoft Translator ไม่ดี เพียงแต่ ณ ตอนนี้ Google Translate ถูกพัฒนาไปมากกว่าครับ
นอกจากนี้ในส่วนของความถูกต้องในการแปล จริงๆแล้วต้องเป็นตัวคุณเองครับที่จะต้องทำการทดสอบมัน เพราะสำเนียงหรือภาษาของแต่ละคนไม่เหมือนกัน โดยเฉพาะของเราจริงๆแล้วเป็นภาษาไทย ฉะนั้นการทดลองเองน่าจะดีกว่าครับ ทั้ง 2 แอพปล่อยให้เราดาวน์โหลดมาใช้กันฟรีๆอยู่แล้ว ดังนั้นเราก็ไม่ได้เสียอะไรเลย อาจจะต้องเสียเวลาที่ต้องมาทดสอบนิดหน่อยเท่านั้นครับ ซึ่งเรามองว่ามันคุ้มค่ามากที่จะทำการทสอบ แต่หากใครที่้ต้องการจะติดตั้งไว้ทั้ง 2 แอพก็ไม่ได้ผิดอะไรครับ เพราะบางครั้งการแปลจากแต่ละแหล่งที่มาอาจจะได้มาซึ่งความหมายของคำศัพท์ที่แตกต่างกันครับ
ดาวน์โหลด Microsoft Translator
ที่มา : Androidpolice