ผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 5 ราย ภายใต้สมาคมโทรคมนาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ประกอบไปด้วย บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน), บริษัท ดีแทคไตรเน็ต จำกัด, บริษัท ทีโอที จำกัด(มหาชน), บริษัท ทรู มูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด, และ บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด
ได้ทำพิธีลงนามในบันทึกความร่วมมือการศึกษาและพัฒนาระบบพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัลโดยใช้ฐานข้อมูลจากเลขหมายโทรศัพท์เคลื่อนที่ และแนวทางการจัดตั้งบริษัท Mobile National ID (MNID) ซึ่งทุกฝ่ายมีความเห็นร่วมกันว่า ความร่วมมือในครั้งนี้ จะเป็นนวัตกรรมใหม่ของอุตสาหกรรมโทรคมนาคมในการเพิ่มช่องทางในการใช้บริการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ของประชาชนหรือหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ให้มีความสะดวก ปลอดภัย อีกทั้งยังเป็นการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และเป็นการส่งเสริมนโยบายรัฐบาลในเรื่องการใช้ดิจิทัลไอดีได้อีกด้วย
ดร.มนต์ชัย หนูสง นายกสมาคมโทรคมนาคมฯ กล่าวว่า ความร่วมมือดังกล่าว ถือว่าสอดคล้อง ตามนโยบายของภาครัฐในการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล และยังสอดคล้องกับนโยบายของสำนักงานคณะกรรมการกิจการ กระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) ที่สนับสนุนและส่งเสริมผู้ประกอบกิจการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ในการให้บริการการพิสูจน์และยืนยันตัวบุคคลด้วยระบบดิจิทัล โดยใช้ประโยชน์จากฐานข้อมูลการลงทะเบียนผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ด้วยระบบอัตลักษณ์ของอุตสาหกรรมโทรคมนาคม เพื่อเป็นการเพิ่มช่องทางส่งเสริมนวัตกรรมใหม่ในการใช้บริการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ทำให้ประชาชนหรือหน่วยงานต่าง ๆ สามารถใช้บริการธุรกรรมทางอิเลคทรอนิกส์ ผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
นายสืบศักดิ์ สืบภักดี กรรมการสมาคมโทรคมนาคมฯ กล่าวว่า ผู้ประกอบการทั้ง 5 รายจะร่วมกันแลกเปลี่ยนเทคโนโลยี ความรู้ และประสบการณ์ โดยอาจมีการทดลองรูปแบบการให้บริการในระบบ Sandbox เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดตั้ง บริษัท Mobile National ID (MNID) โดยจะมีการศึกษาและกำหนดรูปแบบธุรกิจที่เหมาะสม ตลอดจนมีการร่างแผนธุรกิจร่วมกัน มีเป้าหมายเพื่อนำไปสู่การจัดตั้ง บริษัท MNID ไห้ได้โดยเร็ว ทุกฝ่ายให้ความสำคัญและจะใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล โดยทุกฝ่ายจะปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล กฎหมายเกี่ยวกับการให้บริการธุรกรรมทางอิเลคทรอนิกส์ รวมถึงกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ ผู้ประกอบการทั้ง 5 รายจะพัฒนาระบบดังกล่าวในเบื้องต้น โดยที่ “แทนบัตร” หรือการพัฒนาระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนด้วยรูปแบบบัตรประจำตัวอิเล็กทรอนิกส์บนโทรศัพท์เคลื่อนที่แทนที่บัตรประจำตัวในรูปแบบปกติ ซึ่งเป็นโครงการที่สำนักงาน กสทช. ได้ริเริ่มขึ้น ก็จะเป็นหนึ่งในทางเลือกที่ผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้ง 5 รายจะนำไปพิจารณาในการพัฒนาระบบ
ตัวแทนผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้ง 5 ราย เปิดเผยว่า ปัจจุบัน การสมัคร หรือการเข้าใช้บริการธุรกรรมต่าง ๆ จากหน่วยงานทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน ผู้ขอใช้บริการมักจะต้องเดินทางไปที่สาขาของหน่วยงานนั้นๆ ต้องกรอกข้อมูล และเซ็นรับรองเอกสารต่าง ๆ เพื่อพิสูจน์และยืนยันตัวตน ทำให้เกิดความไม่สะดวก เสียเวลา และมีความเสี่ยงที่มิจฉาชีพจะใช้เอกสารปลอม ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหาย การให้บริการพิสูจน์และยืนยันตัวตนโดย บริษัท Mobile National ID (MNID) จะเป็นนวัตกรรมทางเลือก ที่สามารถช่วยลดเวลา ขั้นตอน ค่าใช้จ่าย และช่วยลดความผิดพลาดต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากกระบวนการพิสูจน์และยืนยันตัวตน อีกทั้งยังช่วยอำนวยความสะดวกให้ประชาชน สามารถสมัคร และใช้บริการธุรกรรมทางอิเลคทรอนิกส์ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สะดวก รวดเร็ว และง่ายดาย ผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้ทุกที่ ทุกเวลา โดยสามารถใช้เลขหมายโทรศัพท์เคลื่อนที่และอัตลักษณ์ เช่นลายนิ้วมือ และใบหน้า ช่วยในการพิสูจน์และยืนยันตัวตน ทำให้ลดความเสี่ยงจากความผิดพลาดต่าง ๆ โดยเห็นว่าในปัจจุบัน ระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่สามารถเป็นเครื่องมือพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัลที่แพร่หลายและเข้าถึงประชาชนได้ดีที่สุด เนื่องจาก ผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ผ่านโครงข่ายของผู้ประกอบการทั้ง 5 ราย มีจำนวนมากถึง 130 ล้านเลขหมาย ซึ่งจะทำให้เลขหมายโทรศัพท์เคลื่อนที่สามารถใช้รองรับ Digital ID ได้อย่างกว้างขวาง