Netflix จ่าย $55 ล้านให้ผู้กำกับ แต่ซีรีส์ไม่เคยเกิดขึ้น!
Netflix เจอเรื่องฉาวอีกครั้ง เมื่อมีรายงานว่าทางบริษัทจ่ายเงินกว่า $55 ล้าน ให้กับ Carl Erik Rinsch ผู้กำกับชื่อดัง (ผลงานกำกับ 47 Ronin) เพื่อนำเงินไปสร้างซีรีส์ White Horse หรือ Conquest แต่โปรเจกต์นี้ไม่เคยเกิดขึ้นจริง และเงินส่วนใหญ่นั้นถูกใช้ไปกับของฟุ่มเฟือยแทน
จากงบสร้างซีรีส์สู่ Rolls Royce และที่นอนหรู
ข่าวเรื่องการใช้เงินของ Netflix นี้เกิดขึ้นขณะที่อัยการรัฐบาลกลางกำลังดำเนินคดีกับผู้กำกับ Carl Erik Rinsch ซึ่งถูกจับกุมเมื่อวันอังคาร หลังเขาถูกตั้งข้อหา ฉ้อโกงทางสายโทรศัพท์ (wire fraud), ฟอกเงิน และข้อหาอื่นๆ หลังจากที่เขานำเงินทุนจาก Netflix ไปใช้กับสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้องกับโปรเจกต์ซีรีส์เลยแม้แต่น้อย
รายการใช้จ่ายสุดหรูของ Rinsch มีดังนี้
- $2.4 ล้าน สำหรับ 5 คัน Rolls Royce และ Ferrari
- $1.8 ล้าน ใช้จ่ายหนี้บัตรเครดิต
- $638,000 ซื้อที่นอนสุดหรู 2 หลัง
- $395,000 พักที่โรงแรม Four Seasons
- $652,000 สำหรับนาฬิกาและเสื้อผ้า
นอกจากนี้ Rinsch ยังใช้เงินอีก $1 ล้าน ในการจ้างทนายเพื่อฟ้องร้อง Netflix เพื่อหวังให้ได้เงินมากขึ้น รวมถึงจ่ายค่าสินสมรสในการหย่าของตัวเอง
จาก Keanu Reeves สู่ความพังของโปรเจกต์
ย้อนกลับไปปี 2017 Rinsch ได้เสนอซีรีส์ไซไฟของเขากับ Amazon แต่ Netflix กลับคว้าดีลนี้ไป โดยให้เงินล่วงหน้า $44 ล้าน สำหรับการสร้างซีรีส์ อย่างไรก็ตาม อีก 18 เดือนต่อมา Rinsch อยู่ๆ ได้ออกมาอ้างว่าตัวเองสามารถค้นพบ “กลไกการแพร่เชื้อของ COVID-19” และสามารถ “ทำนายการเกิดฟ้าผ่าได้ ” และเขายังได้ขอเงินเพิ่มจาก Netflix อีก $11 ล้าน ซึ่ง Netflix ก็ยอมโอนเงินไปยังบัญชีบริษัทของเขา และจากนั้นตัวเงินก็ถูกโอนเข้าบัญชีส่วนตัวของเขาแทน
แม้ว่าเขาจะใช้เงินไปมากมาย แต่ Rinsch ก็ได้นำเงินบางส่วนไปลงทุนใน คริปโตเคอร์เรนซี และมีรายงานว่าเขาสามารถทำกำไรได้จากการลงทุนนี้ด้วยเช่นกัน
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงที่ Netflix ปรับราคาค่าบริการแพ็กเกจพรีเมียมในบางประเทศขึ้นเป็น $24.99 ต่อเดือน ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 66% ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา แต่ดูแล้วเหมือนเงินบางส่วนกำลังหายไปกับเรื่องอื้อฉาวในลักษณะเช่นนี้ ที่ไม่ได้สะท้อนกลับออกมาเป็นคอนเทนต์ใหม่ให้กับสมาชิกได้รับชม
และแม้จะมีการสอบสวนและการตั้งข้อกล่าวหากันไปเรียบร้อยแล้ว แต่ทาง Netflix ก็ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกรณีนี้ และทนายของ Rinsch ก็ไม่ได้ตอบกลับสื่อถึงคำถามใดๆ
แต่เรื่องนี้แสดงให้เห็นว่าแม้แต่บริษัทสตรีมมิงยักษ์ใหญ่อย่าง Netflix ก็อาจตกเป็นเหยื่อของการฉ้อโกงได้เช่นกัน
ที่มา: The Verge