ปัจจุบัน Netflix มีฟีเจอร์ใหม่ที่เกี่ยวกับคุณภาพของเสียงคือ High-quality audio ที่ให้คุณภาพเสียงที่ดีขึ้นในอีกระดับแก่ผู้ชม โดยตั้งชื่อให้ฟีเจอร์นี้อย่างตรงตัวเลยว่า ฟีเจอร์ High-quality audio ให้คุณภาพเสียงที่ใกล้เคียงกับเสียงที่ผู้สร้างภาพยนตร์ได้ยินในสตูดิโอ รายละเอียดทุกอย่างถูกบันทึกไว้เพื่อให้ความเข้มข้นและประสบการณ์การฟังที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นครบทุกอรรถรส
ฉากที่สร้างความประทับใจให้ผู้ชมบนจอโทรทัศน์และจอภาพยนตร์ส่วนหนึ่งมักจะมาจากดนตรีและเสียงประกอบ ซึ่งถ้าปราศจากเพลงประกอบที่ไพเราะ ซีรีส์เรื่อง The Crown อาจจะไม่ให้ความรู้สึกยิ่งใหญ่เช่นที่เป็นอยู่ และ Stranger Things อาจจะไม่ให้ความรู้สึกชวนขนลุกเท่าที่ควร และบ่อยครั้งที่ดนตรีประกอบและเสียงแนบเนียนจนผู้ชมไม่ทันรู้ตัว แต่เสียงเหล่านั้นส่งผลอย่างมากต่ออารมณ์ความรู้สึกที่ผู้ชมมีต่อฉากแต่ละฉาก การผสมผสานอย่างน่าอัศจรรย์ของภาพและเสียงทำให้ผู้ชมรู้สึกคล้อยตามเรื่องราวมากยิ่งขึ้น และนี่คือเหตุผลที่เราสนับสนุนเทคโนโลยีที่เกี่ยวกับความคิดสร้างสรรค์และฟีเจอร์อย่าง 4K HDR Dolby Atmos® และ Netflix Calibrated Mode
ยิ่งกว่านั้น หากมีข้อจำกัดด้านแบนด์วิธหรือด้านอุปกรณ์สื่อสาร ทาง Netflix ก็ได้พัฒนาฟีเจอร์ให้สามารถปรับคุณภาพเสียงเองได้เพื่อให้สมาชิกได้รับฟังเสียงในคุณภาพที่ดีที่สุดเท่าที่แบนด์วิธและอุปกรณ์สื่อสารของสมาชิกจะให้ได้ ซึ่งก็เป็นวิธีเดียวกับที่ทาง Netflix ใช้ในการส่งข้อมูลภาพ Netflix ให้ความสำคัญอย่างมากกับการถ่ายทอดจินตนาการของฝ่ายสร้างสรรค์ และเสียงที่มีคุณภาพเป็นอีกสิ่งที่พวกเราให้ความสำคัญเช่นกัน
ความเป็นมา
ในช่วงปลายปี 2560 ขณะที่ทีมงาน Netflix ตรวจเช็คซีรีส์ Stanger Things 2 กับพี่น้องตระกูลดัฟเฟอร์ (แมทท์ และ รอส ดัฟเฟอร์ ซึ่งเป็นทั้งนักเขียนบท ผู้กำกับและผู้อำนวยการสร้างภาพยนต์และซีรีส์แนววิทยาศาสตร์สยองขวัญเช่น Stranger Things) ในบรรยากาศห้องนั่งเล่นเพื่อให้ทุกคนเข้าใจว่าผู้ชมจะได้รับฟังคุณภาพเสียงในระดับใด มีฉากหนึ่งเป็นฉากขับรถไล่ล่ากัน เสียงที่ได้ยินไม่ให้คุณภาพที่ดีเหมือนกับตอนที่อัดเสียง ทีมงานจึงเรียกผู้เชี่ยวชาญด้านเสียงเข้ามาทันทีพร้อมรวบรวมทีมวิศวกรเพื่อให้มาช่วยกันฟังและแก้ไขให้ได้ ไม่ว่าจะต้องใช้ความพยายามสักเท่าไร เราโชคดีมากที่สามารถระบุปัญหาที่เกิดขึ้นกับ Stanger Things 2 ได้โดยการส่งเสียงผ่านบิตเรตที่สูงขึ้น และจากนั้นเราก็มุ่งมั่นปรับปรุงระบบเสียงให้ดียิ่งๆ ขึ้น
สำหรับทีมงาน Netflix ถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุดที่จะถ่ายทอดผลงานและความมุ่งมั่นของทีมสร้างสรรค์ที่ทำงานอย่างหนักเพื่อผลิตซีรีส์อย่าง Stanger Things เรารู้ว่าสิ่งนี้ช่วยเพิ่มประสบการณ์การดูและการฟังของสมาชิกให้เพลิดเพลินกับหลายต่อหลายฉาก และไม่ว่าคุณจะหลุดเข้าไปใน Upside Down หรือถูกไล่ล่าโดย Demogorgon จงเตรียมตัวสัมผัสประสบการณ์เสียงที่แตกต่างจากเดิมได้แล้ว
นี่เป็นตัวอย่างที่แสดงถึงวัฒนธรรมการทำงานของ Netflix ได้อย่างชัดเจน Netflix สนับสนุนพาร์ทเนอร์ด้านครีเอทีฟ จะช่วยให้เข้าใจเรื่องราวนี้จากมุมมองของทีมงานของเรา ที่ Netflix เราได้นำแนวคิดเทคโนโลยีเชิงสร้างสรรค์ มาผสมผสานกับการทำงานของทีมวิศกร ซึ่งนอกจากจะมุ่งแก้ไขปัญหาจนสำเร็จแล้ว ทีมของ Netflix ยังนำหนทางแก้ไขปัญหามาพัฒนาคุณภาพเสียงเพื่อสมาชิกของ Netflix หลายล้านคนทั่วโลก
ประสบการณ์ของสมาชิก
โทรทัศน์ส่วนใหญ่ที่รองรับไม่ว่าจะระบบดอลบี้ 5.1 หรือ Dolby Atmos® จะสามารถรองรับคุณภาพเสียงที่ดีขึ้น แต่บิตเรตที่คุณได้รับอาจเปลี่ยนแปลงตามความสามารถของเครื่องรับและแบนด์วิธของคุณ
สำหรับ 5.1 อัตราบิตเรตจะเพิ่มขึ้นจาก 192 kbps (คุณภาพดี) เป็น 640 kbps (คุณภาพดีมาก/ การรับรู้ชัดเจน)
สำหรับ Dolby Atmos® อัตราบิตเรตจะเพิ่มขึ้นจาก 448 kbps เป็น 768 kbps (ระบบ Dolby Atmos® เฉพาะสมาชิก Premium plan เท่านั้น)
ผู้สนใจสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก Help Center สำหรับข้อมูลด้านเทคนิคอื่นๆ เกี่ยวกับ High-quality audio และวิธีที่เสียงถูกส่งไปยังสมาชิก Netflix ทั่วโลก สามารถหาได้จาก Tech blog ของ Netflix