แหล่งที่มาเผยว่า Apple ได้ขอให้ซัพพลายเออร์ผลิต iPhone ที่รองรับ 5G (คาดว่าเป็น iPhone 12) อย่างน้อย 75 ล้านเครื่อง โดยบริษัทตั้งเป้าส่งมอบ iPhone ให้ได้สูงถึง 80 ล้านเครื่อง
Bloomberg รายงานว่า Apple จะแบ่งการเปิดตัว iPhone ทั้งหมดเป็นสองชุด ได้แก่ iPhone 12 ซึ่งประกอบไปด้วย iPhone 12 และ iPhone 12 Plus ขนาดหน้าจอ 5.4 และ 6.1 นิ้ว ชุดที่สองคือ iPhone 12 Pro ซึ่งประกอบไปด้วย iPhone 12 Pro และ iPhone 12 Pro Max ขนาดหน้าจอ 6.1 และ 6.4 นิ้ว โดยทุกรุ่นจะรองรับการเชื่อม 5G ด้วย เบื้องต้นมีรายงานว่าความแตกต่างภายนอกของทั้งสองชุดคือ iPhone 12 รุ่นปกติจะมีขอบที่เป็นอลูมิเนียม ในขณะที่รุ่น Pro จะใช้ขอบสแตนเลสซึ่งมีความพรีเมียมมากกว่า แต่หน้าจอจะเป็น OLED ทั้งสองรุ่น
นอกจากเรื่องวัสดุแล้ว iPhone 12 Pro จะมาพร้อมกับสีใหม่ Dark Blue สำหรับรุ่น Pro แทนที่สี Midnight Green ใน iPhone 11 Pro แต่น่าเสียดายที่เฉพาะ iPhone 12 Pro Max เท่านั้นที่จะมีเซนเซอร์ LiDAR เหมือนที่ใช้ใน iPad Pro 2020
ไม่เพียงเท่านั้น Bloomberg ยังรายงานว่า Apple จะเปิดตัว iPad Air รุ่นใหม่ที่เปลี่ยนดีไซน์ไปใช้แบบเดียวกันกับ iPad Pro คือหน้าจอไร้ขอบ ถอดปุ่มโฮมออก แต่ยังไม่มี Face ID โดยจะย้าย Touch ID ไปไว้ที่ปุ่มเปิดปิดเครื่องแทน รวมถึงมี Apple Watch รุ่นใหม่รุ่นที่ 6 เปิดตัวพร้อมกับ iPad Air ด้วย
สำหรับกำหนดการเปิดตัวนั้นแหล่งที่มาระบุว่าจะมาในเดือนนี้หรือไม่ก็ไม่เกินเดือนตุลาคม ซึ่งหากเป็นเดือนตุลาคมก็จะเปิดตัวพร้อมกับ iPhone 12 และอุปกรณ์เสริมชิ้นใหม่อย่าง AirTags ด้วย