ข่าวต่อเนื่องจากกรณีอดีต CEO ของ Nokia Asia Pacific อย่างคุณ Thomas Zillacus ที่ได้ออกมาให้สัมภาษณ์เรื่องการก่อตั้งบริษัท Newkia เพื่อใช้ความเชี่ยวชาญ (know-how) ในการทำฮาร์ดแวร์ของ Nokia มาทำมือถือระบบ Android ที่ดีที่สุด (ตามข่าวนี้ครับ)
วันนี้ทางเว็บ CNET ได้มีโอกาสสัมภาษณ์คุณ Zillacus เพิ่มเติมซึ่งก็มีรายละเอียดที่น่าสนใจดังนี้
- สุดท้ายแล้วชื่อบริษัทที่จะไปติดอยู่ที่ตัวมือถือจะไม่ใช่ชื่อ Newkia โดยชื่อ Newkia นี้เป็นชื่อชั่วคราว (และเหมือนเป็นชื่อเรียกกระแสต่างๆได้อย่างดีครับ) โดยคุณ Zillacus นั้นก็มีชื่อบริษัทจริงๆที่คิดเอาไว้แล้ว แต่ยังไม่อยากเปิดเผยในตอนนี้
- ในส่วนของ CEO ของบริษัท คุณ Zillacus บอกว่าตัวเองจะไม่นั่งในตำแหน่งนี้ แต่จะเป็นคนอื่นซึ่งคุณ Zillacus ได้คิดเอาไว้แล้วว่าเป็นใคร และแย้มๆว่าเป็นคนที่เราเคยได้ยินชื่อเค้ามาก่อน (name you have all heard of before)** จะหมายความว่าดังได้มั้ย? หรือแค่ได้ยินชื่อผ่านๆ? ^^
- ในส่วนของทีมงานตอนนี้มีผู้สนใจสมัครเข้าร่วมงานกับ Newkia มากมาย และรวมถึงทีมงานของ Nokia เดิมที่ไม่อยากจะไปอยู่กับ Microsoft
- คุณ Zillacus เผยว่ารัฐบาลฟินแลนด์ได้เสนอให้ทาง Newkia ไปตั้งออฟฟิศที่ฟินแลนด์ โดยยื่นข้อเสนอเป็นสำนักงานฟรีให้ แต่คุณ Zillacus อยากตั้งสำนักงานใหญ่ที่สิงคโปร์มากกว่าเพราะตัวเองอยู่ที่นั่นมากว่า 27 ปีแล้ว
- ทีมงาน CNET ถามว่าคิดจะร่วมมือกับทีม Jolla (ทีมทำระบบ MeeGo เดิม) หรือไม่? คุณ Zillacus ตอบว่าอยากทำระบบที่เป็นผู้นำในตลาดตอนนี้อย่าง Android มากกว่า และไม่สนใจระบบที่มี ecosystem ไม่เพียบพร้อมอย่าง Windows phone 8*** ผู้แปล: ………
- คุณ Zilllacus ยอมรับว่าไม่เคยลองใช้ระบบ Windows phone 8 เลย ถึงแม้ว่าจะได้ยินเสียงชมมากมายถึงมือถือตระกูล Lumia ก็ตาม
และสุดท้าย คุณ Zillacus ได้โชว์เครื่องมือถือต้นแบบ smart phone ที่ไม่มีโอกาสได้วางตลาดให้เราได้ดูกันด้วยครับ ชื่อมือถือตัวนี้คือ MyOrigo ซึ่งยังเป็นเพียงตัวต้นแบบที่สร้างขึ้นเมื่อ 10 ปีที่แล้ว
ถ้ามองว่ามันคือมือถือเมื่อ 10 ปีที่แล้วและยังเป็นแค่ตัวต้นแบบ ซึ่งมีหน้าจอ Touch screen และมี UI ที่ได้รับอิทธิพลจาก Symbian มาพอสมควร ที่ล้ำคือมันสามารถหมุนหน้าจอได้ด้วยครับ ผมว่ามันล้ำมากทีเดียว
เหตุผลที่ทำให้เจ้า MyOrigo ไม่ได้แจ้งเกิดคือ…ทางผู้บริหาร Nokia ในขณะนั้นกลัวว่า หน้าจอจะเปื้อนไปด้วยรอยนิ้วมือถ้าทำมือถือเป็นทัชสกรีนและจะทำให้ผู้ใช้งานพลอยไม่ชอบเอาครับ….เอวัง
ที่มา: CNET