สวัสดียามเช้าครับ กลับมาพบกับผมแอดมินต้นเช่นเคยในเช้าวันศุกร์แบบนี้
อย่างที่เกริ่นไปคราวที่แล้วครับว่า ตัวผมเองนอกจากไอทีแล้ว ก็มีเรื่องหนังกับเกมส์นี่แหละครับที่ชอบเป็นพิเศษ คราวที่แล้ว คุยเรื่องหนังไป คราวนี้มาคุยเรื่องเกมส์กันบ้างนะครับ
หลายๆคนน่าจะรู้จักหรือคุ้นเคย (หรืออาจจะไม่คุ้นเลย) กับเกมส์แนวที่บ้านเราเรียกว่าเกมส์ภาษาหรือภาษาอย่างเป็นทางการที่เรียกว่า Role Playing Game (RPG) ที่ผมเชื่อว่าเกมส์เมอร์วัยราวๆ 20 ปลายๆถึง 30 น่าจะรู้จักันดี กับเกมส์ระดับตำนานเกมส์หนึ่งอย่าง Final Fantasy นั่นเอง
ตัวเกมส์นี้ ในภาคหลัก (ที่นับเฉพาะภาคที่มีตัวเลขต่อท้ายชื่ออย่างเป็นทางการ ไม่นับภาคย่อยๆ ภาคพิเศษ ภาคต่อ) นั้นก็ปาเข้าไป 14 ภาคแล้ว (2 ภาคในนี้เป็นเกมส์ออนไลน์ ที่คนไทยเราอาจจะได้เล่นไม่เยอะเท่าไหร่) และเร็วๆนี้ (หรือไม่?) เราก็จะได้พบกับภาคหลักที่สร้างได้ยาวนานที่สุดแล้วในประวัติศาสตร์ของเกมส์ตระกูลนี้ นั่นก็คือเกมส์ Final Fantasy XV (ขอย่อเป็น FF XV นะครับ)
ทำไมถึงนาน?
เพราะตัวเกมส์นี้ถูกประกาศสร้างอย่างเป็นทางการในปี 2006 ตั้งแต่ยุคเครื่อง PlayStation 3 วางตลาดได้ไม่นาน และตอนนี้ก็เกือบครบรอบ 10 ปีหลังการประกาศสร้างครั้งแรก ตั้งแต่ในชื่อเดิมอย่าง Final Fantasy XIII Versus….จนล่วงมาถึงยุคเครื่องเล่นเกมส์รุ่นใหม่อย่าง PlayStation 4 แล้ว เปลี่ยนชื่อภาคมาเป็น Final Fantasy XV ก็แล้ว….เราก็ยังไม่ได้เล่นกัน
เหตุผลเบื้องหลังความยืดเยื้อของงานสร้างมีมากมาย ทั้งเรื่องทีมงานไม่ว่าง ระบบการเล่นไม่ลงตัว ดราม่าภายในองค์กร การเปลี่ยนผ่านมือผู้กำกับ บลาๆๆ แต่ตอนนี้ทิศทางของเกมส์ดูจะเข้าที่แล้วหลังการเข้ามากุมบังเหียนของผู้กำกับคนใหม่อย่างคุณ Hajime Tabata เจ้าของผลงานเกมส์ในเครื่องพกพาอย่าง Crisis Core: Final Fantasy VII, Parasite Eve และ Final Fantasy Type 0 ที่มาชิมลางกำกับเกมส์บนเครื่องคอนโซลหรือเครื่องเล่นเกมส์ที่ต่อกับจอทีวีเป็นครั้งแรก
Final Fantasy ภายใต้ยุคผู้กำกับหัวใหม่ เอาใจผู้เล่นมากขึ้น
หลังการเข้ามารับหน้าที่ต่อจากผู้กำกับคนเดิมใน 2-3 ปีหลังนี้ คุณ Tabata ได้พัฒนาเกมส์ Final Fantasy XV ไปอย่างมาก ชนิดที่เรียกว่าเรียกศรัทธาจากแฟนๆที่รอคอยเกมส์นี้มาหลายปีแบบไม่มีความคืบหน้า จนบางคนถึงขั้นเคยประกาศว่าจะไม่เล่นแน่ๆแล้วสำหรับเกมส์นี้ ให้กลับมาสนใจมันได้อีกครั้ง
รวมถึงเมื่อเดือนที่ผ่านมา ทาง Square-Enix ได้ปล่อยเดโม่เกมส์ FF XV ที่แถมมากับเกมส์สร้างชื่อให้คุณ Tabata อย่าง Final Fantasy Type 0 ที่เป็นการนำเอาเกมส์จากเครื่อง PSP (PlayStation Portable) กลับมาทำใหม่แบบ HD รวมถึงแปลเนื้อหาเป็นภาษาอังกฤษและวางจำหน่ายในเครื่องเล่นเกมส์ยุคปัจจุบันอย่าง PS4
และความตั้งใจของคุณ Tabata ที่จะรับฟังเสียงแฟนๆมากขึ้นว่า ผู้เล่นต้องการเกมส์ Final Fantasy แบบใด ด้วยการจัดงานรายงานความคืบหน้าการพัฒนาตัวเกมส์ให้แฟนๆได้ฟังกันเป็นระยะ รวมถึงเปิดช่องทางให้แฟนๆได้ส่งเสียงตอบรับไปถึงทีมงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาเกมส์แบบเพื่อแฟนๆโดยเฉพาะจริงๆ (แต่ก็ยังไม่ทิ้งแนวทางที่ทีมงานวางแผนเอาไว้มากนัก เรียกว่าพบกันเกือบๆครึ่งทางละกัน)
Final Fantasy Type 0 ความสำเร็จที่กรุยทางให้ Tabata
เนื่องจากคุณ Tabata เองเป็นคนหัวก้าวหน้าและค่อนข้างคิดนอกกรอบ การสร้างเกมส์ Final Fantasy Type 0 ที่เป็นเหมือนกับการทดลองหาแนวทางใหม่ของเกมส์นี้จึงเหมาะกับคุณ Tabata อย่างมาก ด้วยการเปลี่ยนแนวเกมส์จากเกมส์ภาษาสไตล์ญี่ปุ่น ใส่คำสั่งระหว่างต่อสู้แบบเดิมๆ มาเป็นเกมส์ที่เรียกว่า Action ที่มีความเป็น RPG ผสานได้อย่างลงตัว โดยไม่ทิ้งเสน่ห์ความเป็นเกมส์ RPG แบบที่แฟนๆติดใจของเกมส์ในตระกูล FF ไป
จากความสำเร็จในตลาดเครื่องเกมส์พกพานั้น ทำให้คุณ Tabata ได้ไฟเขียวให้รับไม้ต่อจากผู้กำกับคนเดิม มารับงานใหญ่ที่แบกความคาดหวังของแฟนๆ อย่าง FF XV และคุณ Tabata ก็ไม่ทำให้แฟนๆผิดหวัง
ศรัทธาของแฟนๆคืนกลับ เดโม่สั้นๆ แต่กระแสตอบรับล้นหลาม
จากเดโม่เกมส์ FF XV: Episode Duscae ที่ปล่อยออกมาพร้อมกับเกมส์ Final Fantasy Type 0 – HD นั้น แฟนๆต่างลงความเห็นไปในทางเดียวกันว่า Square-Enix มาถูกทางแล้ว
ด้วยเสน่ห์เดิมๆของเกมส์ อย่างกราฟิกที่ขึ้นชื่ออยู่แล้วว่าสวยในช่วงเวลาที่ตัวเกมส์แต่ละภาควางจำหน่าย มูวี่ในเกมส์ที่สวยงามตามแบบฉบับของเกมส์จาก Square-Enix รวมถึงความเป็นเกมส์ RPG ที่มีความเป็นแฟนตาซีผสมอยู่
บวกกับสิ่งที่ผู้กำกับคนเก่งอย่างคุณ Tabata เพิ่มเติมต่อยอดเข้าไป ตั้งแต่ระบบการต่อสู้ที่เปลี่ยนจากการใส่คำสั่ง มาเป็นกึ่งแอคชั่นที่ยังคงความเป็นเกมส์ภาษาอยู่อย่างลงตัว ความอิสระในเกมส์บนโลกที่เปิดกว้าง และตัวละครที่มีสเนห์ เหล่านี่ล้วนทำให้เกมส์ที่กระแสตอบรับค่อนไปทางลบในช่วงหลัง กลับมาอยู่ในความสนใจของแฟนๆได้อย่างง่ายดาย
นี่นับเป็นการแก้ตัวให้กับ Square-Enix ที่ล้มเหลวพอสมควรในการสร้างเกมส์ Final Fantasy ภาคหลักที่แฟนๆยี้มากกว่าชอบอย่าง Final Fantasy XIII (ที่มีองค์ประกอบมากมายที่จะทำให้ภาคนี้ดังได้….ติดที่ผู้กำกับภาคนั้นมือไม่ถึงเท่านั้นเอง)
ตัวอย่างเกมส์เพลย์ที่ใครได้ลองก็ชอบ ระบบการต่อสู้สนุกขึ้นมาก
(เครดิต: DerfsonicGaming)
และที่น่าประทับใจที่สุดในตัวเดโม่คือ การกลับมาของมนต์เรียกอสูรที่เป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของเกมส์ในตระกูลนี้ ที่เรียกว่าภาคนี้ มนต์อสูรทำออกมาได้อลังการ สมศักดิ์ศรีเอามากๆ
แน่นอนว่า ตัวเกมส์ที่เป็นเวอร์ชั่นเดโม่สั้นๆ อาจจะบอกอะไรตัวเกมส์ทั้งหมดไม่ได้ แต่ว่าตัวเกมส์สั้นๆนี้แหละครับ ที่ผมเชื่อเหลือเกินว่าแฟนเดนตาย รวมถึงแฟนหน้าใหม่ น่าจะสนใจเจ้าเกมส์นี้ และทำให้มันอาจจะกลายเป็นหนึ่งในภาคที่อยู่ในใจคนหลายๆคนแบบเดียวกับที่ Final Fantasy VII เคยทำไว้ตอนยุค PlayStation 1 เลยก็เป็นได้
ถ้ามีเวลา คราวหน้าผมจะรีวิวเกมส์นี้แบบสั้นๆเป็นของแถมครับ
[divider]
Final Fantasy ยุคใหม่บนสมาร์ทโฟน
ก่อนหน้านี้ เราก็น่าจะเคยเล่นเกมส์Final Fantasy หลายๆภาคบนโทรศัพท์สมาร์ทโฟนกันมาแล้ว แต่ว่าเกมส์เหล่านั้นส่วนมากจะเป็นเกมส์ที่พอร์ตจากเครื่องเล่นเกมส์เก่า หรือว่าเกมส์ภาคเสริมเล็กๆน้อยๆ
แต่ตอนนี้ทาง Square-Enix ประกาศเกมส์ Final Fantasy ภาคใหม่สำหรับสมาร์ทโฟนโดยเฉพาะอย่างเกมส์ Mobius Final Fantasy ออกมาแล้ว (ก่อนหน้านี้เราจะรู้จักกันในชื่อ Mevius Final Fantasy)
ตัวเกมส์นี้ทาง Square-Enix อ้างว่า จะเป็นเกมส์ที่บรรจงสร้างออกมา และจะตั้งใจทำให้ยิ่งใหญ่ไม่แพ้ภาคหลักบนเครื่องเล่นเกมส์อื่นๆ โดย Mobius Final Fantasy นั้น จะมีเนื้อเรื่องเป็นของตัวเอง รวมถึงยังนำเอาระบบที่เป็นเอกลักษณ์อย่างระบบอาชีพ ตัวละครที่หลายๆคนชื่นชอบอย่าง Mog และระบบต่อสู้แบบ Turn-based ที่น่าจะเหมาะกับการเล่นบนสมาร์ทโฟนมากกว่าการใช้ระบบกึ่งแอ๊คชั่นแบบ FF XV
ธีมของเกมส์ทีจัดเต็มด้านการออกแบบ ไม่ใช่แค่เกมส์เล็กๆสำหรับสมาร์ทโฟนแบบเดิมๆ
ถึงแม้เกมส์นี้จะเป็นเกมส์สำหรับสมาร์ทโฟนโดยเฉพาะ แต่ทีมงานที่ดูแลการสร้างเกมส์นี้ก็เป็นทีมงานที่มีประสบการณ์ในการสร้างเกมส์ในภาคหลักๆ ไม่ว่าจะเป็นโปรดิวเซอร์อย่างคุณ Yoshinori Kitase ผู้กำกับเกมส์ภาค VII และเป็นโปรดิวเซอร์ให้เกมส์ของ Square-Enix ในยุคหลังๆมากมาย
และนี่เป็นตัวอย่างเกมส์ล่าสุดที่ปล่อยออกมาอย่างเป็นทางการครับ
จากตัวอย่างเกมส์แบบเต็มๆที่เพิ่งปล่อยออกมา ทำให้เราคาดหวังได้ในระดับหนึ่งว่า เจ้า Mobius Final Fantasy นี้ น่าจะทำออกมาได้ดีในระดับหนึ่ง และน่าจะเป็นการกรุยทางให้ Square-Enix เดินหน้าในตลาดสมาร์ทโฟนด้วยเกมส์แนวจริงจังแบบที่ตัวเองถนัด มากกว่าการหยั่งเชิงด้วยเกมส์เล็กๆ แบบที่เคยทำมา
เพราะตลาดเกมส์บนสมาร์ทโฟนเองตอนนี้ นับว่าใหญ่เอามากๆเมื่อเทียบกับตลาดเครื่องเกมส์พกพา ที่นับวันดูจะหดตัวลงทุกที
แฟนๆที่รอคอยเกมส์นี้อยู่ มีข่าวว่าเราน่าจะได้สัมผัสเจ้า Mobius Final Fantasy กันในปีนี้ แต่ว่าเฉพาะเวอร์ชั่นภาษาญี่ปุ่นนะครับ ส่วนเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษยังไม่มีกำหนดการออกมาแต่อย่างใด
[divider]
ในฐานะแฟนตัวยงของเกมส์ตระกูลนี้…ผมรู้สึกว่า ตอนนี้ Square-Enix มาถูกทาง และได้เวลาที่เหมาะสมพอดีทีเดียวครับ
เพื่อนๆท่านไหนเป็นแฟนเกมส์ตระกูลนี้บ้าง มาพูดคุยกันได้นะครับ