บริษัทแงะฮาร์ดแวร์จากญี่ปุ่นอย่าง Fomalhaut เผยราคาประมาณการต้นทุนการผลิตของ Nintendo Switch จากปู่ Nintendo ว่าอยู่ที่ประมาณ $257 ซึ่ง Nintendo เปิดจำหน่ายคอนโซลล่าสุดของตัวนี้ที่ราคา $299 โดยมีกำไรประมาณ $42 ต่อตัวเท่านั้น และ Nintendo ตั้งเป้าไว้ว่าเครื่องเกมเจนเนอร์เรชั่นนี้ของตนจะทำยอดจำหน่ายได้ 30 ล้านเครื่องภายในปี 2018
อ่านรีวิว Nintendo Switch จาก AppDisqus
ทั้งนี้ก่อนจะไปพูดกันว่า Nintendo เอากำไรน้อยเหลือเกิน เราต้องเข้าใจกันก่อนว่าในวงการเกมนั้น หลักการตั้งราคาค่าตัวของคอนโซลหรือแฮนด์เฮลด์สักเครื่องจะต่างกับวงการมือถือโดยสิ้นเชิง โดยส่วนใหญ่แล้วจะนิยมตั้งราคากันเสมอค่าตัวค่าผลิต หรือบ่อยครั้งก็เห็นการตั้งราคาแบบขาดทุนกันไปเลย ทั้งนี้เนื่องจากบริษัทต้นสังกัดคอนโซลนั้นๆ ล้วนแล้วแต่มีซอฟต์แวร์ไลเซ็นซ์เป็นของตนเอง เช่น Sony PlayStation 4, Xbox One และมาจนถึง Nintendo Switch เอง ทั้งสามเครื่องต่างก็มีลิขสิทธิ์ OS เป็นของตนเองทั้งสิ้น ทำให้ยิ่งสามารถขายเครื่องไปได้มากเท่าไหร่ก็ยิ่งเหมือนเป็นเครื่องการันตียอดขายเกมหรือซอฟต์แวร์บน OS ของตนเองมากขึ้นเท่านั้นตามมา กำไรที่ได้ก็มหาศาลขึ้นตาม ดังนั้นจึงนิยมไม่เอากำไรจากฮาร์ดแวร์เพื่อต้อนคนเข้ามาเป็นลูกค้าด้วยการซื้อเครื่องแล้วค่อยมารอเอากำไรจากซอฟต์แวร์กันแทน
Japan’s teardown firm Fomalhaut expects Nintendo Switch’s cost at $257, may sell 30 million units by 2018 end. https://t.co/Gs52rk6HeD
— Takashi Mochizuki (@mochi_wsj) 4 เมษายน 2560
ก่อนหน้านี้มีการเปิดเผยต้นทุนขอ PlayStation 4 จาก Sony ที่มีต้นทุนการผลิตฮาร์ดแวร์สูงถึง $381 เหรียญ แต่ทาง Sony วางราคาจำหน่ายไว้เพียง $399 เหรียญเท่านั้น ทำให้เหลือกำไรเพื่อเป็นต้นทุนในการโฆษณาประชาสัมพันธ์เพียงแค่ $18 เหรียญต่อเครื่อง เรียกได้ว่า Sony ยอมขาดทุนเข้าเนื้อเพื่อเข็นคอนโซลของตัวเองให้เกิด จนตอนนี้ PlayStation 4 คือหนึ่งในน้ำเลี้ยงสายหลักของบริษัทไปเป็นที่เรียบร้อย
และจากประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาอาจเรียกได้ว่ามี Nintendo เพียงเจ้าเดียวเท่านั้นที่วางราคาฮาร์ดแวร์ของตัวเองหวังกำไรตั้งแต่ต้น แม้จะไม่มาก เพียงแค่ $42 ต่อตัวเท่านั้นในกรณีของ Nintendo Switch แต่ก็ยังถือเป็นกำไรที่มากกว่าราคาต้นทุนที่ยังเพียงพอเมื่อเอามาหักลบคูณหารกับค่าโฆษณาประชาสัมพันธ์นอกจากจะไม่ทันขาดทุนแล้ว เผลอๆ ยังเหลือเป็นกำไรให้ได้เห็นกันอีกนิดๆ ด้วย