โนเกีย ปลุกกระแสฟีเจอร์โฟนตลาดไทย ส่ง Nokia 110 4G (2023) และ 105 4G (2023) อัพเกรดใหม่ สวย คงทน ชี้ตลาดยังมีดีมานด์ความต้องการมือถือปุ่มกด สำหรับใช้เป็นเครื่องสำรอง ผู้สูงอายุ และกลุ่มองค์กร
เอชเอ็มดี โกลบอลประเทศไทย พร้อมเปิดจำหน่าย Nokia 110 4G (2023) และ Nokia 1054G (2023) มือถือปุ่มกดขนาดใหญ่ใช้งานง่าย อัพเกรดสเปคใหม่ รองรับเครือข่าย 4G ใช้งานสองซิม พร้อมการโทรที่ดังชัดเจนด้วยระบบ HD ที่เพิ่มแบนด์วิดท์เป็นสองเท่า
การแสดงผล IPS หน้าจอขนาด 1.8 นิ้ว พร้อมโหมดซูมขยายเอาใจผู้สูงวัย อัพเกรดลำโพงให้ดังขึ้น เพิ่มหน่วยความจำภายนอกสูงสุดถึง 32 GB บันทึก MP3 ได้กว่า 1,000 เพลง มีวิทยุ FM พร้อมเกมงูสุดคลาสสิก แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ขึ้น 1450 mAh ใช้งานได้ยาวนาน การเชื่อมต่อที่รองรับ Bluetooth พร้อมไฟฉายในตัวเครื่อง
เน้นกลุ่มวัยทำงานที่ต้องการเครื่องสำรอง ผู้สูงอายุ และกลุ่มองค์กร พบฟีเจอร์โฟนยังมีดีมานด์ ผู้บริโภคเริ่มมองหาฟีเจอร์โฟนเพื่อความตั้งใจที่จะออกห่างจากโซเซียลและสมาร์ทโฟน
ตัวเครื่องสวย ทนทานเหมือนเดิม ดีไซน์ตัวเครื่องเน้นความคลาสสิกแต่ร่วมสมัย โค้งมน พื้นผิวนาโน เฉดสีทันสมัย Nokia 105 4G (2023) จะเหมือนกันเป็นแฝดพี่แฝดน้อง แต่ความแตกต่างของทั้งสองรุ่นคือ กล้องถ่ายภาพที่มีเฉพาะใน Nokia 110 4G (2023) เท่านั้น โดยมาพร้อมกล้องหลังที่มีความละเอียด QVGA ซึ่งนับเป็นความละเอียดที่เพียงพอจะใช้ในการถ่ายภาพ และส่งข้อความในรูปแบบ MMS
Nokia 110 4G
Nokia 105 4G
ราคาจำหน่าย
- Nokia 110 4G (2023) มาพร้อมลวดลายพื้นผิวนาโน ให้เลือก 2 สี คือ Midnight Blue (สีน้ำเงิน) และสี Arctic Purple (สีม่วง) และยังคงเน้นความทนทานต่อรอยขีดข่วนในการใช้งาน ในราคา 1,350 บาท
- Nokia 105 4G (2023) มีให้เลือก 2 สี Charcoal (สีเทาดำ) และ Ocean Blue (สีฟ้า) ในราคา 1,290 บาท
พร้อมจำหน่ายในประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 23 พฤษภาคม 2566 เป็นต้นไป ผ่านร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ ร้าน TG FONE (เฉพาะสาขาที่ร่วมรายการ) และ Nokia Official Store ในช่องทางออนไลน์ อาทิ Shopee / Lazada
ข้อมูลเพิ่มเติม: https://www.nokia.com/phones/th_th/feature-phones
นายภราดร รามบุตร ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ เอชเอ็มดี โกลบอล (HMD) กล่าวว่า
โทรศัพท์มือถือฟีเจอร์โฟนยังคงเป็นที่ต้องการของตลาดในประเทศไทย โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุในประเทศที่มีสัดส่วนเพิ่มสูงขึ้น และกำลังมองหาโทรศัพท์มือถือปุ่มกด เน้นใช้งานง่าย ตัวอักษรมองเห็นชัดเจน แบตเตอรี่มีอายุการใช้งานได้นาน สามารถฟังเพลงและฟังวิทยุได้ตลอดทั้งวัน รวมไปถึงวัยทำงานซึ่งต้องการใช้เป็นเครื่องสำรองที่สามารถใช้งานได้นานไม่ต้องกังวลว่าแบตจะหมดเร็ว รวมไปถึงลูกค้ากลุ่มบริษัทและองค์กรที่มองหามือถือสำหรับใช้ในการทำงาน ปัจจุบัน โนเกีย ยังคงเป็น ผู้นำตลาดมือถือ ฟีเจอร์โฟนทั่วโลก และในประเทศไทย คาดว่าจะมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยพบว่าคนกลุ่ม Gen Z ในอเมริกาเริ่มหันมาให้ความสนใจซื้อฟีเจอร์โฟน สำหรับใช้งานมากขึ้น เนื่องจากต้องการลดการติดสมาร์ทโฟน หรือโซเชียลมีเดีย เพื่อลดความเครียดจากการใช้สมาร์ทโฟนและโซเซียลมีเดียตลอดเวลา ทำให้ผู้บริโภคเริ่มเลือกใช้ฟีเจอร์โฟนเพื่อเว้นระยะจากโซเซียลมีเดียต่าง ๆ