ในที่สุด สมาร์ทโฟนระดับสูงเครื่องแรกจาก HMD ภายใต้แบรนด์ Nokia ก็เปิดตัวออกมาอย่างเป็นทางการแล้วครับ นั้นก็คือ Nokia 8 สมาร์ทโฟนระบบ Android ที่มีหน้าจอ LCD IPS ขนาด 5.3 นิ้ว บนความละเอียดระดับ QHD มีความสว่างสูงสุดถึง 700nits กระจกจอ Gorilla Glass 5 แบบ 2.5D
ตัวเครื่องโค้งมนด้วยวัสดุพรีเมี่ยม อลูมิเนียมขึ้นรูปซีรี่ย์ 6000 มีความหนา 7.9 มม. กันน้ำกันฝุ่นในระดับ IP54 (กันน้ำแบบกระเซ็นใส่ได้) เลือกใช้สีสันเครื่องดูแปลกตาและหรูหราทีเดียวครับ
Nokia 8 จะใช้หน่วยประมวลผล Snapdragon 835 Octa-Core 2.4GHz แบตเตอรี่ขนาด 3,090 mAh รองรับระบบ Quick Charge 3.0 ผ่านพอร์ต USB Type-C ใต้เครื่อง ภายในใช้ระบบปฏิบัติการณ์ Android 7.1.1 (ในขณะเปิดตัว) ในแบบที่แทบจะไม่มีการปรับแต่งใดๆ เหมือนเครื่อง Nokia 3, Nokia 5 และ Nokia 6 เพื่อความง่ายสำหรับการอัพเดทระบบในอนาคตได้อย่างรวดเร็ว ตามนโยบายของ HMD
ตัว Nokia 8 สามารถใส่ MicroSD เพิ่มเติมได้อีก 256GB และยังสามารถอัพโหลดไฟล์ภาพและไฟล์วีดีโอขึ้นไปจัดเก็บบนระบบคลาวด์ของ Google ได้อย่างไม่จำกัด ผ่านแอพพลิเคชั่นแกลเลอรี่ที่ทาง HMD ร่วมมือกันกับ Google พัฒนา Google Photos ให้เป็นแอพแกลเลอรี่พื้นฐานในเครื่องเอาไว้ให้แก่ผู้ใช้งาน
Nokia 8 จะเปิดจำหน่ายแยกเป็น 2 รุ่นย่อย คือรุ่นพื้นฐานที่มีแรมขนาด 4GB หน่วยความจำภายใน 64GB และรุ่นพิเศษแรม 6GB หน่วยความจำภายใน 128GB ซึ่งจะมาออกมาในสีเดียวคือ Polished Blue
ในเรื่องของกล้องถ่ายภาพ Nokia 8 ทาง HMD ได้วิศวกรและเลนส์จาก Zeiss มาช่วยพัฒนาเพิ่มความน่าใช้ของตัวกล้องถ่ายภาพ ทั้งด้านหน้าและด้านหลังของเครื่อง ซึ่งกล้องหลังจะมีเซ็นเซอร์กล้องคู่ความละเอียด 13MP แบบสองสี (เซ็นเซอร์สี และเซนเซอร์ขาวดำ) ขนาดพิกเซล 1.12μm และรูรับแสง f / 2.0 ตัวเลนส์ของกล้องสีมีระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออปติคอล (OIS) และมีเลเซอร์ออโต้ และแฟลช LED แบบคู่ กล้องหน้าก็จะใช้เซ็นเซอร์ในมาตรฐานคล้ายกัน คือเซนเซอร์ความละเอียด 13MP ขนาดพิกเซล 1.12μmพิกเซล พร้อมรูรับแสง f / 2.0 และออโต้โฟกัสตรวจจับใบหน้า
Nokia 8 จะมาพร้อมกับระบบกล้องตัวใหม่ที่เรียกว่า “Dual-Sight” ซึ่งสามารถใช้การถ่ายภาพจากทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังแบบแยกสองหน้าจอได้พร้อมกัน สตรีมเป็นภาพวิดีโอถ่ายขึ้นไป Live ยัง YouTube และ Facebook
Nokia 8 ไม่ได้โดดเด่นแค่ในเรื่องของกล้องที่พัฒนาร่วมกันกับ Zeiss เท่านั้น แต่แผนกกล้องของ Nokia ยังได้ใส่ OZO Audio ระบบการบันทึกเสียงแบบเซอร์ราวด์ 360 ° จากไมค์รอบเครื่องทั้งสามตัว ซึ่งจะจับเสียงรอบด้านได้อย่างมีคุณภาพ เพื่อให้เหมาะสมกับภาพวิดีโอ 4K ที่คมชัดสูง คุณลักษณะที่ดีของเสียงก็จะช่วยให้ผู้ชมได้รับประสบการณ์ในการรับชมที่ดีมากยิ่งขึ้นด้วยเช่นกัน ซึ่งชิปเซ็ต Snapdragon 835 ที่อยู่ภายในเครื่อง มีประสิทธิภาพมากเพียงพอจะรองรับการประมวลผลสำหรับการทำงานที่จำเป็นทั้งหมดของระบบภาพและเสียงของ Nokia 8 ครับ
Nokia 8 จะเริ่มจำหน่ายไปทั่วโลกในเดือนกันยายนที่ราคาประมาณ 600 ยูโร หรือประมาณ 23,000 บาท แต่เมื่อมีการเปิดจำหน่ายในภูมิภาคอื่นๆ ราคาน่าจะถูกลงเนื่องด้วยอัตราภาษีที่ยุโรปค่อนข้างจะสูงครับ
จะเห็นว่า HMD คงสโลแกนความพรีเมี่ยมของตัวเครื่อง Nokia ตั้งแต่รุ่นเล็กไปยังรุ่นใหญ่ ตัวเครื่องภายนอกไม่ว่าจะถูกจะแพง ก็ขอให้มีวัสดุและงานประกอบที่ดูดีไว้ก่อน และสำหรับ Nokia 8 ก็ต้องบอกว่าจัดเต็มเทคโนโลยีและสเปคมาให้ไม่น้อยหน้าเรือธงตัวใดครับ โดยมีราคาจำหน่ายในเรทฟัดกับคู๋แข่งระดับพรีเมี่ยมแบบพอดิบพอดี แต่น่าสนใจตรงจุดขายที่มันมาภายใต้ชื่อ Nokia และ Zeiss มาให้พิจารณาครับ