ชื่อ Nokia X นั้นเดิมทีถูกเคยใช้มาแล้วครั้งหนึ่งสมัยที่ Microsoft ยังคุมหัวเรือ Nokia โดยใช้ในโครงการสมาร์ตโฟนโดยอาศัยพื้นฐานของ Android ซึ่งตอนนั้นสมาร์ตโฟน Nokia ส่วนใหญ่ยังรันระบบปฏิบัติการ Windows Phone อยู่ โดยวันนี้ HMD ก็ได้หยิบชื่อนี้มาใช้กับสมาร์ตโฟน Nokia รุ่นใหม่อีกครั้ง มีทั้งหมดสองรุ่น ได้แก่ Nokia X10 และ Nokia X20
Nokia X20
- ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 480 5G
- ตัวเลือก RAM สองแบบ 6/128GB และ 8/128GB
- หน้าจอ LCD ขนาด 6.67 ความละเอียด 1,080 x 2,400 พิกเซล หน้าจอสว่างสูงสุด 450nits ความครอบคลุมสี 82% NTSC มีฟิล์มมาให้ตั้งแต่แรก
- กล้องหลังพัฒนาร่วมกับ Zeiss ทั้งหมด 4 ตัว มีกล้องหลักความละเอียด 64MP, กล้อง Ultrawide ความละเอียด 5MP, กล้องมาโคร ความละเอียด 2MP และกล้อง Depth ความละเอียด 2MP
- กล้องหน้าแบบ Fix Focus ความละเอียด 32MP
Nokia X10
- ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 480 5G
- ตัวเลือก RAM สองแบบ 6/64GB และ 4/128GB
- หน้าจอ LCD ขนาด 6.67 ความละเอียด 1,080 x 2,400 พิกเซล หน้าจอสว่างสูงสุด 450nits ความครอบคลุมสี 82% NTSC มีฟิล์มมาให้ตั้งแต่แรก
- กล้องหลังพัฒนาร่วมกับ Zeiss ทั้งหมด 4 ตัว มีกล้องหลักความละเอียด 48MP, กล้อง Ultrawide ความละเอียด 5MP, กล้องมาโคร ความละเอียด 2MP และกล้อง Depth ความละเอียด 2MP
- กล้องหน้าแบบ Fix Focus ความละเอียด 8MP
ทั้ง Nokia X20 และ Nokia X10 รองรับการเชื่อมต่อ 5G, Wi-Fi 5, Bluetooth 5.0 พร้อม aptX HD/Adaptive และรองรับ NFC เชื่อมต่อและชาร์จแบตเตอรีได้ผ่านพอร์ต USB-C 2.0 มีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. รองรับวิทยุ FM ทั้งคู่มีแบตเตอรีความจุเท่ากันที่ 4,470 mAh ชาร์จไว 18W ซึ่ง HMD รับประกันว่าสามารถใช้งานได้นานถึง 2 วัน โดย Nokia X20 จะมีหัวชาร์จมากให้ ในขณะที่ Nokia X10 จะมีสายชาร์จให้เพียงอย่างเดียว
จุดเด่นของสมาร์ตโฟนทั้งสองรุ่นคือรับประกันอัปเดต Android ให้ทั้งหมด 3 เวอร์ชัน โดยแกะกล่องมาเป็น Stock Android 11 ราคาวางจำหน่าย Nokia X10 อยู่ที่ €310 หรือราว 11,600 บาท และ Nokia X20 ราคา €350 หรือราว 13,000 ราคาอาจดูสูงเนื่องจากเป็นราคายูโร หากเป็นราคาไทยก็เชื่อว่าจะถูกกว่านี้พอสมควรเลยครับ