หน่วยงานความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ (NSA) ออกมาเตือนผู้ใช้ iPhone ทั่วโลกให้ระวังการตั้งค่าเริ่มต้นบางอย่างที่อาจเป็นช่องโหว่ให้แฮกเกอร์เข้าถึงข้อมูลส่วนตัวได้ โดยเฉพาะฟีเจอร์ที่หลายคนอาจมองข้าม นั่นคือการเชื่อมต่อ Wi-Fi และ Bluetooth แบบอัตโนมัติ
“ภัยคุกคามเหล่านี้ไม่ใช่แค่ทฤษฎี แต่เป็นเทคนิคที่แฮกเกอร์ใช้โจมตีผู้ใช้งานจริงๆ ในปัจจุบัน” โฆษกของ NSA กล่าว พร้อมเน้นย้ำว่าผู้ใช้ iPhone ควรตรวจสอบและปรับการตั้งค่าโดยเร็วที่สุด
ทำไมถึงอันตราย?
บริษัท Kaspersky ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยไซเบอร์ระดับโลกอธิบายว่า แฮกเกอร์มักใช้เทคนิคที่เรียกว่า “Man-in-the-Middle Attack” หรือการดักข้อมูลระหว่างทาง โดยจะสร้าง Wi-Fi ปลอมที่มีชื่อคล้ายกับร้านค้าหรือสถานที่จริง เช่น “Starbuck Free WiFi” (สะกดผิด) แทน “Starbucks Free WiFi” เมื่อผู้ใช้เชื่อมต่อโดยไม่ทันสังเกต ข้อมูลทั้งหมดจะถูกส่งผ่านแฮกเกอร์ก่อนไปถึงอินเทอร์เน็ต ทำให้พวกเขาสามารถขโมยได้ทั้ง:
- รหัสผ่านโซเชียลมีเดีย
- ข้อมูลบัตรเครดิต
- ข้อมูลการเข้าสู่ระบบแอปธนาคาร
- อีเมลส่วนตัว
- รูปภาพและไฟล์ที่ส่งผ่านเน็ต
ตามสถิติจาก Norton ในปี 2023 พบว่ามีผู้ตกเป็นเหยื่อการโจมตีผ่าน Wi-Fi สาธารณะมากกว่า 2 ล้านรายทั่วโลก สร้างความเสียหายรวมกว่า 500 ล้านดอลลาร์
วิธีป้องกันตัวเองง่ายๆ เพื่อไม่ให้พลาดตกเป็นเหยื่อ
- ปิดการเชื่อมต่อ Wi-Fi อัตโนมัติ
- เข้า การตั้งค่า > Wi-Fi
- เลือก “ถามเพื่อเข้าร่วมเครือข่าย” เป็น “ถาม” หรือ “ปิด”
- ตั้ง “เข้าร่วมฮอตสปอตอัตโนมัติ” เป็น “ไม่เลย”
- จัดการเครือข่ายที่เคยเชื่อมต่อ
- ลบเครือข่าย Wi-Fi ที่ไม่ได้ใช้แล้ว
- ระวังเครือข่ายที่มีชื่อคล้ายของจริงแต่สะกดผิด
- ใช้ VPN เมื่อต้องเชื่อมต่อ Wi-Fi สาธารณะ
- ระวังภัยจาก Bluetooth ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยจาก Check Point Research เตือนว่า การเปิด Bluetooth ทิ้งไว้อาจนำไปสู่การโจมตีแบบ BlueBorne ซึ่งแฮกเกอร์สามารถที่จะ:
- ควบคุมอุปกรณ์จากระยะไกล
- ติดตั้งมัลแวร์เรียกค่าไถ่
- ขโมยข้อมูลส่วนตัว
- แอบใช้กล้องหรือไมโครโฟน
คำแนะนำเพิ่มเติมจากผู้เชี่ยวชาญ
- ใช้แอปธนาคารผ่านเครือข่ายมือถือดีกว่า Wi-Fi สาธารณะ
- เปิดใช้ Two-Factor Authentication (2FA) ในทุกบริการที่สำคัญ
- อัปเดต iOS เป็นเวอร์ชันล่าสุดเสมอเพื่อรับการแก้ไขช่องโหว่
- ติดตั้งแอปป้องกันมัลแวร์ที่เชื่อถือได้
ทั้งนี้ Apple ได้ออกมาให้ความเห็นผ่านบล็อกโพสต์เกี่ยวกับความปลอดภัยของบริษัทว่า กำลังพัฒนาระบบป้องกันการโจมตีผ่าน Wi-Fi และ Bluetooth ที่ดีขึ้นสำหรับ iOS เวอร์ชันถัดไป แต่ระหว่างนี้ขอให้ผู้ใช้ปฏิบัติตามคำแนะนำข้างต้นเพื่อความปลอดภัยสูงสุด