วันนี้ Nvidia ผู้ผลิตชิปเซ็ทชื่อดังสำหรับระบบมือถือ (นอกเหนือไปจากที่เรารู้จักในตลาดการ์ดจอคอมพิวเตอร์มาอย่างยาวนาน) ในนาม Nvidia Tegra ได้กระโดดเข้ามาสู่เบื้องหน้าของตลาด smart device บ้างแล้วครับ โดยทาง Nvidia ได้เปิดตัว tablet ภายใต้แบรนด์ Tegra ของตัวเอง ซึ่งอุปกรณ์ตัวแรกที่ส่งมาลุยตลาดคือ Nvidia Tegra Note นี่เอง
โดย Nvidia ได้ต่อยอดความสำเร็จจากแพล็ตฟอร์ม “Kai” ของตัวเองที่เป็นแพล็ตฟอร์มที่สามารถสร้างอุปกรณ์ที่มาพร้อม CPU ระดับ Quad core ได้ในราคาที่ไม่ถึง $199 หรือไม่ถึง 7,000 บาท ซึ่งนี่เป็นปัจจัยหนึ่งที่ผลักดันให้ Nexus 7 ประสบความสำเร็จพอสมควรเมื่อปีที่ผ่านมา
สเปคของเจ้า Nvidia Tegra ที่มีการปรกาศออกมา มีดังนี้ครับ
- หน้าจอขนาด 7 นิ้ว ความละเอียด 1280×800 pixel และเป็นจอแบบ IPS
- มาพร้อมปากกา Stylus ที่ Nvidia อ้างว่าแม่นยำมากๆ (Extremely precise built-in stylus) ที่เรียกว่าเทคโนโลยี DirectStylus
- ชิปเซ็ทที่ใช้เป็น Nvidia Tegra 4 ซึ่งเป็น CPU Cortex-A15 แบบ 4 คอร์ที่มาพร้อมกับคอร์พิเศษอีก 1 คอร์สำหรับการประมวลผลที่ไม่หนักมากเพื่อประหยัดแบตเตอร์รี่ และใช้ GPU Geforce ที่มีถึง 72 คอร์ ซึ่ง Nvidia อ้างว่าทำให้เจ้า Tegra Note เป็น tablet ขนาด 7 นิ้วที่เร็วที่สุดในโลก
- เทคโนโลยีด้านเสียง Nvidia Pure Audio ที่มีช่วงความถี่เสียงที่กว้างที่สุดในบรรดา tablet ด้วยกัน ทำให้คุณภาพเสียงที่ได้จากลำโพงคู่หน้าที่มีพอร์ต “bass-reflex” ออกมายอดเยี่ยม
- กล้องหลัง 5 MP และกล้องหน้าความละเอียด VGA โดยกล้องหลังใช้เทคโนโลยีการบันทึกและประมวลผลภาพ Chimera ของตัวเอง พร้อมทั้งแอพถ่ายรูปชื่อดังจาก iOS อย่าง Camera awesome
- แบตเตอร์รี่ที่สามารถใช้งานดูวิดีโอแบบ HD ได้ต่อเนื่อง 10 ชั่วโมง
- พอร์ตเชื่อมต่อ Micro HDMI
- หน่วยความจำภายใน 16 GB และเพิ่มได้ด้วย micro SD สูงสุดที่ 32 GB
- อุปกรณ์เสริมต่างๆอย่าง flip cover และ DirectStylus Pro ที่จะมีหัว stylus ให้เปลี่ยนได้หลากหลาย
- OS เป็น 100% Android รุ่นล่าสุด และจะได้รับการอัพเดทผ่าน OTA โดย Nvidia โดยตรง
สเปคทั้งหมดนี้ราคา $199 หรือไม่เกิน 7,000 บาทครับ โดยจะวางจำหน่ายผ่านพาร์ทเนอร์ของ Nvidia เองในอีก 2-3 เดือนข้างหน้านี้
น่าสนใจทีเดียวครับ ติดแค่เรื่องเดียวคือ ด้วยราคาใกล้เคียงกัน แต่ Nexus 7 รุ่นล่าสุดนั้น มาพร้อมจอที่มีความละเอียดที่มากกว่าที่ 1920 x 1200 พิกเซล ในราคา $229 (แต่ถ้าไม่ซีเรียสเรื่องจอมาก ก็มองข้ามไปได้ครับ)
การวางจำหน่ายเจ้า Tegra Note ครั้งนี้ น่าจะส่งผลให้ Nvidia กระตุ้นตลาดและเป็นการทำการตลาดชิปเซ็ท Tegra 4 ของตัวเองไปในตัว เพราะตั้งแต่มีการเปิดตัวตั้งแต่ช่วงต้นปีนั้น ตลาดของเจ้า Tegra 4 เองดูไม่คึกคักและโดนขู่แข่งนำไปหลายช่วงตัวอยู่เหมือนกัน
หวังว่า Nvidia Tegra Note จะทำตลาดได้ดี และทำให้ Nvidia มีแรงสู้ต่อในสมรภูมิ smart device ครับ