จากรายงานของเว็บไซต์ The Gurdian เผย Michael Kagan ตำแหน่ง Chief Technology officer (CTO) ของ NVIDIA เผยว่า “คริปโตเคอร์เรนซีไม่ได้นำประโยชน์อะไรมาให้กับสังคม” มันจะดีกว่ามากถ้าเรามีขุมพลังสำหรับใช้ในการประมวลผลที่ดีกว่าเดิม อย่างเช่นปัญญาประดิษฐิ์ เนื่องจากตอนนี้บริษัทกำลังสนใจธุรกิจ Data-Center บนพื้นฐานของเทคโนโลยี AI Large Language Model (LLM)
ในปี 2021 เป็นครั้งแรกเลยที่ NVIDIA ได้รับผลกระทบมากมายของคริปโตเคอร์เรนซีจนส่งผลให้การ์ดจอ RTX 20 และ 30 ซีรีส์มีราคาที่พุ่งขึ้นสูงมากในเวลานั้น จนทำให้ทาง NVIDIA ต้องเปิดตัวการ์ดจอโมเดลใหม่ของ RTX 3060 ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ “Lite Hash Rate” (LHR) เทคโนโลยรที่ช่วยลดประสิทธิภาพในการขุดเหรียญของการจอ ทำให้การ์ดจอโมเดลเหล่านี้ไม่ได้เป็นที่นิยมสำหรับการนำไปทำเหมืองสักเท่าไร แต่อย่างไรก็ตามในปี 2022 ผู้พัฒนาของโปรแกรมขุดเหมืองได้เข้าไปแก้อัลกอริทึม LHR และปลดล็อกความเร็วจนทำให้ประสิทธิภาพของการ์ดจอขุดเหมืองได้เต็มที่เหมือนเดิม
รายงานของ CNBC ในปี 2022 SEC ได้บังคับให้บริษัท NVIDIA จ่ายเงินมากถึง 5.5 ล้านดอลลาร์ตามข้อตกลง เนื่องจากพวกเขาไม่ได้แจ้งกับนักลงทุนว่าวงการคริปโตเคอร์เรนซีส่งผลกระทบส่งผลต่อความต้องการของ GPU มากขนาดไหน ข้อมูลที่ SEC ฟ้องร้องนั้นเผยว่า NVIDIA ตระหนักว่าคริปโตเคอร์เรนซีขับเคลื่อนธุรกิจของพวกเขา และผู้บริหารระดับสูงต้องการติดตามตลาดคริปโตเคอร์เรนซีต่อไป ซึ่งมันก็เป็นผลดีกับ NVIDIA แต่อย่างไรก็ตามเรื่องนี้จบลงด้วยการที่ NVIDIA จ่ายค่าปรับ 5.5 ล้านดอลลาร์ ในปัจจุบันกว่าการ์ดจอจะกลับมาราคาปกติก็คงใช้เวลาอีกหลายปีเลยทีเดียว