เชื่อว่าหลายคนคงได้มีโอกาสใช้งานระบบบริการฝากไฟล์ของไมโครซอฟท์ นั่นคือ OneDrive อยู่ไม่มากก็น้อย ซึ่งระยะหลังมักจะแถมพื้นที่ใช้งานมากับเครื่อง Nokia Lumia และ Windows Phone ความจุสูงถึง 15 GB ล่าสุดก็เพิ่มพื้นที่ให้ผู้ใช้บริการเป็น 30 GB เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และหากเพื่อนๆ ที่ติดตามข่าวสารจากเราคงได้พื้นที่เป็น 1 TB ไปใช้แบบฟรีๆ แล้วก็มีครับ แต่นอกจากที่เรารู้ว่าเราได้พื้นที่จัดเก็บข้อมูลแบบฟรีๆ นั้น เราได้ใช้งานมันบ้างหรือเปล่า? เรารู้หรือเปล่าว่ามันทำงานอย่างไรบ้าง? และมันทำอะไรได้มากกว่าฝากไฟล์เยอะแยะเลยครับ
เนื่องด้วยมีผู้ใช้งาน Windows Phone เยอะขึ้น จึงทำให้มีผู้ใช้ OneDrive รายใหม่เยอะขึ้นตามไปด้วย ประกอบกับการประชาสัมพันธ์บริการ OneDrive ของไมโครซอฟท์มักจะเน้นไปที่พื้นที่จัดเก็บข้อมูลดังที่ได้กล่าวมาแล้ว ทำให้ผู้ใช้งานรายใหม่ส่วนใหญ่ยังไม่รู้จัก OneDrive ดีพอ เราจึงเขียนบทความนี้ขึ้นมา เพื่อแนะนำฟีเจอร์ต่างๆ ของ OneDrive บน Windows Phone ว่าทำงานอย่างไร? และมันทำอะไรได้บ้าง? แต่หากเพื่อนๆ ค้นพบฟีเจอร์อื่นๆ ที่เราไม่ได้บอกไว้ก็เพิ่มเติมได้ที่คอมเม้นท์ด้านล่างนะครับ หรือบอกเล่าความรู้สึกกันได้ เพื่อเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ท่านอื่นที่เข้ามาอ่าน
วิจารณ์หน้าตาและการใช้งาน OneDrive สำหรับ Windows Phone
แอพพลิเคชัน OneDrive บน Windows Phone หน้าตาการใช้งานไม่มีอะไรยุ่งยาก จะมีหน้าหลักๆ อยู่แค่ 3 หน้า ได้แก่ หน้ารวมไฟล์และโฟลเดอร์ต่างๆ หน้า Recent ไว้แสดงรายการที่เราเข้าไปแก้ไขล่าสุด และหน้า Shared ไว้แสดงรายการที่เพื่อนหรือบุคคลอื่นๆ แชร์ไฟล์หรือเอกสารร่วมกันกับเราครับ
แนะนำเมนูการใช้งานของ OneDrive: สำหรับแอพพลิเคชันบน Windows Phone นั้น การเข้าสู่เมนูและการตั้งค่า โดยพื้นฐานจะต้องเริ่มต้นที่การกดปุ่มสามจุดด้านล่าง “…” เมื่อเรากดไปแล้ว ก็จะมีแถบเมนูเด้งขึ้นมา สำหรับแถบเมนูด้านบน ประกอบไปด้วย
- add: กดเพื่อเพิ่มหรืออัพโหลดไฟล์ที่อยู่ในโทรศัพท์ของเราขึ้นไปเก็บที่ OneDrive เมื่อกดไปแล้วระบบก็จะถามว่าเราจะเลือกไฟล์จากหน่วยความจำโทรศัพท์หรืออัลบั้มรูป เพิ่มได้ทั้งไฟล์รูปภาพและไฟล์เอกสาร
- details หรือ thumbnails: ติ๊กเพื่อสลับลักษณะการมองเห็นไฟล์ต่างๆ ใน OneDrive ระหว่าง details และ thumbnails
- select: กดเพื่อเปิดโหมดการเลือกไฟล์ จากนั้นเราก็ติ๊กเลือกไฟล์ที่ราต้องการเพื่อกระทำการ ลบ, ย้าย, แชร์ หรือ ดาวน์โหลด ซึ่งหากเราติ๊กเลือกอันเดียวเราก็จะสามารถเข้าไปเปลี่ยนชื่อไฟล์ได้ และหากเราติ๊กเลือกโฟลเดอร์ เราก็จะสามาระเลือกที่จะปักหมุด(pin) ไปไว้หน้า LiveTile ของโทรศัพท์ของเราได้ >> สำหรับการย้ายไฟล์นั้น เมื่อเราเลือกไฟล์แล้วกดย้าย จากนั้นระบบก็จะเด้งไปหน้ารวมโฟลเดอร์ทั้งหมดเพื่อให้เราคลิกเลือกโฟลเดอร์ที่เราต้องการย้ายไป จากนั้นก็กดเครื่องหมายถูกด้านล่างเพื่อวางไฟล์ไว้ในโฟลเดอร์นั้นๆ
- search: เมนูการค้นหาไฟล์ต่างๆ ใน OneDrive ซึ่งจะค้นหาได้เฉพาะชื่อไฟล์ไม่สามารถค้นหาโดยใช้เนื้อหาได้
ลำดับต่อมาเป็นเมนูที่อยู่ด้านล่าง ได้แก่
- create a new folder: สำหรับเพื่อโฟลเดอร์เก็บไฟล์ใหม่ใน OneDrive
- refresh: สำหรับรีเฟรซหน้า OneDrive เพื่อให้อัพเดตข้อมูลที่แสดงอยู่ใหม่อีกครั้ง
- sort by: กดเพื่อเลือกว่าจะให้ไฟล์และโฟลเดอร์ต่างๆ จัดเรียงแบบไหน? เรียงตามตัวอักษร เรียงตามความเก่าใหม่ของไฟล์ หรือจะเรียงตามขนาดของไฟล์
- view progress: ดูความคืบหน้าของกระบวนการที่กำลังดำเนินอยู่ ได้แก่ การดาวน์โหลด และการอัพโหลดไฟล์ นั่นเอง
- settings: สำหรับเมนูนี้ไม่มีอะไรสำคัญครับ คลิกเข้าไปก็จะเห็นเพียงแถบบอกความจุทั้งหมดและความจุที่ใช้ไปของพื้นที่ใน OneDrive ของเรา
- recycle bin: เมนูนี้สำคัญสำหรับการจัดการไฟล์บน OneDrive เป็นอย่างมาก มันก็คือถังขยะนั่นเอง เป็นแหล่งรวมไฟล์ที่เราลบออกจาก OneDrive ไปแล้ว ซึ่งช่วยเหลือเราได้หากเราเผลอลบไฟล์หรืออยากรื้อฟื้นไฟล์เก่าๆ กลับมา และเราไม่จำเป็นต้องมาตามลบเหมือนในคอมพิวเตอร์ที่ต้องลบออกเพราะกลัวเปลืองเนื้อที่ความจำเครื่อง แต่บน OneDrive เราไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องนั้นเลย
วิจารณ์ความสามารถของ OneDrive ที่เป็นมากกว่าแหล่งฝากไฟล์
แน่นอนครับ!! ความสามารถหลักๆ ของ OneDrive ก็คือเอาไว้ฝากหรือเก็บไฟล์ประเภทต่างๆ เอาไว้บนคลาวด์หรือแหล่งเก็บข้อมูลออนไลน์ ผ่านเมนู add ในตัวแอพฯ OneDrive หรือจะแชร์จากอัลบั้มก็ได้ หากจะดาวน์โหลดก็คลิกที่ไฟล์แล้วเลือกดาวน์โหลดได้จากเมนูด้านล่าง
นอกจากนี้ยังมีอีกความสามารถหนึ่งที่น่าสนใจมาก โดยเฉพาะคนทำงานด้านงานเอกสารอยู่ประจำ นั่นคือ นอกจากเราจะสามารถฝากไฟล์เอกสาร Microsoft Office ต่างๆ ได้แล้ว เรายังสามารถแก้ไขออนไลน์ และให้เพื่อนเราแก้ไขหรือตรวจทานเอกสารนั้นช่วยเราได้ด้วย ตัวอย่างเช่น หากเราเป็นนักศึกษาเราสามารถส่งบทความหรือโครงการให้อาจารย์ที่ปรึกษาตรวจทาน แก้ไข หรือคอมเม้นท์จุดใดจุดหนึ่งของเอกสารได้ ทำให้ไม่ต้องส่งไฟล์ไปมาวุ่นวายจนลืมไปเลยว่าไฟล์ไหนเป็นไฟล์ไหน อันไหนแก้ไขล่าสุดแล้ว เป็นต้น
ส่วนความสามารถในการแก้ไขเอกสารนั้นก็มีเพียงพอในการใช้งานครับ Microsoft Word ก็แก้ไขได้สะดวก Microsoft Excel ก็มีฟังก์ชันและเมนูให้ใช้งานแม้จะไม่ครบถ้วนเหมือนใช้ในคอมพิวเตอร์แต่ก็เพียงพอในระดับหนึ่งครับ
สำหรับการแชร์เอกสารเพื่อให้เพื่อนเราช่วยตรวจทานหรือแก้ไขแบบออนไลน์นั้น เราต้องเข้าไปที่โฟลเดอร์ที่เก็บเอกสารเราอยู่ แล้วค่อยคลิกเลือกเมนู select >> ติ๊กเลือกเอกสารที่เราต้องการแชร์ >> กดปุ่มแชร์ >> เลือกรูปแบบการแชร์ จากนั้นเราก็จะได้ลิงค์มา เราก็ส่งให้เพื่อนเราเข้าไปตรวจทานหรือแก้ไขได้เลย หากเราไม่ทำแบบนี้ แต่เข้าไปในเอกสารนั้นๆ แล้วค่อยกดแชร์ มันจะเป็นการแชร์ไฟล์ไม่ใช่แชร์ลิงค์ ทำให้ไม่สามารถแก้ไขออนไลน์ได้ครับ
นอกจากที่แนะนำในบทความนี้ OneDrive อาจมีความสามารถอื่นๆ อยู่อีกมากมาย ยังไงเพื่อนๆ ก็ทดลองใช้และค้นหากันดูนะครับ หากเจออะไรดีๆ ก็มาแชร์หรือคอมเม้นท์บอกกันได้ ซึ่งบทความนี้ที่เขียนขึ้นมาก็ต้องการเพียงว่าอยากเชิญชวนให้เพื่อนๆ ใช้งาน OneDrive ให้เต็มประสิทธิภาพกันมากขึ้น เพราะเมื่อมีการใช้งานกันมากขึ้น บ่อยขึ้น ก็จะค้นพบปัญหาและข้อมูลการใช้งานมากขึ้น ทำให้ไมโครซอฟท์มีแนวทางในการเพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถให้ OneDrive ได้มากขึ้นตามไปด้วยครับ
[box_light]เข้าใช้งาน OneDrive ได้ที่นี่ >> https://onedrive.live.com/[/box_light]