OPPO Find N3 Flip สมาร์ทโฟนจอพับได้แนวตั้ง ที่ OPPO ได้นำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยเป็นรุ่นที่สอง โดยเราจะเรียกสมาร์ทโฟนจอพับแบบนี้ว่า “จอพับแนวตั้ง” ตามลักษณะที่ดูคล้ายกับสมาร์ทโฟนทั่วไป แล้วสามารถพับครึ่งลงได้นั้นเอง การออกแบบนี้จะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการพกพา ดูน่ารักสวยงาม และยังทำให้กล้องหลังของตัวเครื่องที่มีคุณภาพสูง สามารถกลับกลายใสเป็นกล้องหน้าสำหรับถ่ายเซลฟี่ตัวเราได้
แต่ในตลาดปัจจุบัน ก็มีสมาร์ทโฟนจอพับแบบแนวตั้งออกมาจำหน่ายอยู่หลายรุ่น จากหลายแบรนด์ แต่ละรุ่นก็มีดีที่แตกต่างกันไป ซึ่งในบทความนี้เราจะมาเจาะลึกโดยเฉพาะกับ OPPO Find N3 Flip ถึงข้อดีข้อเสียที่ได้มาจากประสบการณ์การใช้งาน และข้อมูลที่อยู่นอกสเปคจากหน้ากระดาษของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้กันครับ
สมาร์ทโฟนจอพับแนวตั้ง ที่ใส่กล้องระดับเรือธงมาเป็นรุ่นแรก และรุ่นเดียวในตลาด
ข้อดีที่โดดเด่นเป็นเรื่องแรกเลย ก็คือเรื่องของกล้องถ่ายภาพนั่นเอง เพราะว่าที่ผ่านมาสมาร์ทโฟนจะพับได้ในลักษณะนี้มักจะใส่แค่กล้องระดับกลางๆ แต่ตัวเนี้ยมันใส่กล้องหลังระดับพรีเมี่ยมมาให้ โดยเป็นกล้องความละเอียดสูงทั้ง 3 เลนส์ ความละเอียดกล้องหลัก 50MP มี OIS กันสั่นในตัว แล้วเลนส์มุมกว้าง ที่ขยับจึ้นจากรุ่นเดิม (OPPO Find N2 Flip) ที่ใส่มาให้แค่ 8MP ตัวนี้ขยับมาเป็น 48MP และสุดท้ายคือกล้อง Telephoto 32MP ซึ่งเป็นครั้งแรกของวงการที่มีการใส่เลนส์ตัวนี้มาให้ แล้วเป็นเลนส์ที่สามารถซูมภาพ Portrait ได้แบบ Optical 2x อีกด้วย
ซึ่งด้วยคุณภาพกล้องที่ให้มาเป็นตัวจบ บวกกับสมาร์ทโฟนจอพับที่มีหน้าจอด้านหน้าเห็นตัวเองในเวลาโพสท่าถ่ายรูป เราจึงสามารถนำเครื่องไปวางตั้งตรงไหน ใกล้ ไกล ได้หมด แล้วก็สั่งชัตเตอร์ผ่านการทำมือแบบปาล์มเซลฟี่ ฉะนั้นใครใช้สมาร์ทโฟนเครื่องนี้ในเวลาถ่ายภาพตัวเอง ก็จะเหมือนมีคนตามไปถ่ายภาพให้ด้วยกล้องหลังคุณภาพสูงนั่นเอง และเป็นตัวแรกและตัวเดียวเท่านั้นที่ติดตั้งกล้องระดับนี้มาให้ใช้งานครับ ประสบการณ์การเซลฟี่จึงแตกต่างกับสมาร์ทโฟนทุกๆ รุ่นในตลาด ถ่ายภาพตัวเองสนุกกว่ามากครับ
OPPO Find N3 Flip จึงเป็นตัวเลือกแรกที่ผู้ใช้ไม่ต้องเลือกระหว่างอยากได้สมาร์ทโฟนจอพับน่ารักๆ หรือจะอยากได้สมาร์ทโฟนกล้องเทพคุณภาพดีๆ เพราะว่ารวมกันมาให้แล้วในรุ่นเดียวของวงการครับ ไม่ต้องมีแฟนตามไปถ่ายรูปให้ก็สามารถโพสท่าได้เต็มที่แบบที่การถ่ายเซลฟี่แบบมือถือทั่วไปทำไม่ได้ หรือจะถ่ายรูปกลุ่มเวลาไปเที่ยวก็ไม่ต้องอาศัยใครเลยครับ
สัดส่วนหน้าจอที่ถูกใจมากกว่า ได้ใช้จะรู้สึกเลยว่าลงตัว
ข้อดีที่ 2 ก็คือเรื่องของสัดส่วนหน้าจอ เป็นเจ้าเดียวที่เลือกออกแบบหน้าจอภายนอกมาในลักษณะของจอแนวตั้ง ในสัดส่วนและรูปทรงใกล้เคียงกับจอหลักด้านในของสมาร์ทโฟน เพราะเหตุผลข้อแรก คือเขาต้องการให้เราสามารถใช้งานแอปพลิเคชันต่างๆ บนหน้าจอภายนอก ได้ตามแบบที่เราคุ้นชิน ไม่ว่าจะเป็นการใช้ถ่ายรูป หรือเปิดแอปแนวตั้งอย่าง Tiktok หรือจะใช้งานแนวนอนดู YouTube ไม่ว่าจะใช้งานอะไรก็แล้วแต่บนหน้าจอด้านนอก เราก็จะรู้สึกเหมือนเปิดหน้าจอด้านในทำงานไม่ต่างกัน แค่จอเล็กกว่าและสะดวกกว่านั้นเองครับ
เหตุผลข้อที่สองก็คือ เมื่อหน้าจอสัดส่วนเดิมมันให้ประสบการณ์การใช้งานที่ดีพอแล้ว เราก็จะได้พื้นที่ด้านข้างจอในการติดตั้งกล้องมากขึ้นนั้นเองครับ จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไม OPPO Find N3 Flip จึงสามารถใส่ชุดกล้องคุณภาพสูงลงไปได้ ในขณะที่มือถือจอพับในลักษณะเดียวกันทำไม่ได้ครับ เพราะพื้นที่ถูกตัดสินใจนำไปขยายหน้าจอด้านนอกให้ใหญ่หมดแล้วนั้นเอง
และแม้เราจะเห็นว่าหน้าจอด้านนอกของ OPPO Find N3 Flip ยังดูคล้ายเดิมกับรุ่นก่อน แต่ในด้านการใช้งานถูกพัฒนาขึ้นอย่างเทียบไม่ได้เลยครับ เพราะทาง OPPO ได้มีการพัฒนาระบบให้แอปพลิเคชั่นแทบจะทุกๆ แอปพลิเคชั่นที่ติดตั้งลงในเครื่อง สามารถเรียกใช้งานได้บนหน้าจอด้านนอกโดยตรง โดยที่เราไม่จำเป็นต้องไปดัดแปลงหรือทำการแก้ไขใดๆ
ฉะนั้นเมื่อจอด้านนอก มีสัดส่วนหน้าจอที่เหมือนกับจอด้านใน และเรียกใช้งานเกือบทุกแอปพลิเคชั่น ประสบการณ์การใช้งานของ OPPO Find N3 Flip จึงดีขึ้นกว่ารุ่นเดิมอย่างมาก ได้ทั้งความเคยชิน สัดส่วนไม่ผิดเพี้ยน และดูมีความทันสมัยจากรูปทรงและการใช้ของสมาร์ทโฟนจอพับนั้นเองครับ
ไม่ใช่แค้เรื่องของสัดส่วนหน้าจอด้านนอกเท่านั้นนะครับ แต่รวมถึงสัดส่วนหน้าจอด้านในด้วย เพราะทาง OPPO เขากำหนดรูปทรงและขนาดของเครื่องมาได้พอดี ที่จะทำให้เมื่อเรากางจอด้านในใช้งานแล้ว จอหลักด้านในจะคงอัตราส่วนอยู่ที่ 21 : 9 ซึ่งเป็นอัตราส่วนที่พอดี จอไม่แคบเกินไปและไม่กว้างเกินไปครับ ให้ประสบการณ์แบบสมาร์ทโฟนจอใหญ่ๆ ปกติเครื่องหนึ่งเลย
และจอด้านในก็เป็นจอคุณภาพสูงซะด้วย ขนาดจอ 6.8 นิ้ว FullHD+ รีเฟรชเรท 120Hz รองรับทั้ง HDR 10+ และ Dolby Vision
แบตเตอรี่ขนาดใหญ่สุด และชาร์จไวที่สุด
ข้อดีต่อมาของ OPPO Find N3 Flip ก็คือระบบแบตเตอรี่ เพราะว่าเจ้าตัวนี้ใส่แบตเตอรี่ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของสมาร์ทโฟนจอพับมาให้ ด้วยการออกแบบแบตเตอรี่แยกเป็นสองก้อน รวมกันแล้วภายในใส่แบตขนาด 4,300mAh มาให้ พร้อมรองรับระบบชาร์จไว 44W SUPERVOOC ซึ่งก็เป็นระบบชาร์จไวที่เร็วที่สุดของวงการสมาร์ทโฟนจอพับแนวตั้งในขณะนี้ด้วยเช่นกัน ทั้งชาร์จไวและมีความปลอดภัยสูงครับ
จากที่เราทดสอบใช้งานมา เจ้าตัวนี้จะสามารถเปิดหน้าจอต่อเนื่องด้ประมาณ 7 ชั่วโมง หรือเฉลี่ยกินแบตเตอรี่ประมาณชั่วโมงละ 15% ส่วนเวลาในการชาร์จแบตเตอรี่ จะสามารถชาร์จได้ประมาณ 60% ในเวลาแค่ 30 นาทีเท่านั้นเอง
บานพับแข็งแรง ใช้งานได้นานกว่า 16 ปี!
จุดเด่นข้อนี้หลายคนอาจจะไม่รู้ เพราะมันไม่ได้อยู่ในสเปกหน้ากระดาษ มันคือเจ้าบานพับตัวใหม่ Flexion Hinge 3.0 ซึ่งมันมีผลการทดสอบความทนทานจากองค์กรภายนอก TÜV Rheinland ที่เขาเอาไปทดสอบว่า เจ้าบานพับตัวนี้จะสามารถทนทานต่อการเปิดปิดได้นานมากขนาดไหนก่อนที่มันจะเริ่มชำรุดเสียหาย โดบจากการทดสอบปรากฏว่า มันทนต่อการเปิดปิดได้มากกว่า 600,000 ครั้งเลยทีเดียว!
เป็นตัวเลขที่ทนมากๆ เลยนะครับ การทดสอบบานพับตัวเก่าทนได้ประมาณ 400,000 ครั้ง แต่ตัวนี้ขยับมาเป็น 600,000 ครั้ง ถ้าเราคิดกันเล่นๆ ว่า ในแต่ละวันเราเปิดปิดบานพับสักวันละ 100 ครั้ง มันก็จะอยู่กับเราได้ประมาณ 6,000 วัน หรือคิดเป็นปีก็ได้นานประมาณ 16 ปีเท่านั้นเอง ไม่นานเท่าไหร่นะ ^^
อีกอย่างที่ถูกบานพับตัวนี้ถูกพัฒนาขึ้นมาก็คือ มันสามารถกางค้างไว้ในทุกองศาได้อิสระแล้วครับ เพื่อการใช้งานในรูปแบบ Flexform
และแน่นอนว่ายังคงยอดเยี่ยมมากในเรื่องของการซ่อนรอยพับบนหน้าจอ ไม่ว่าจะเอียงแบบทางไหนก็แทบจะไม่เห็นรอยพับกลางจอเลยครับ ต้องตั้งใจเล็งหรือเอียงส่องหาถึงจะเห็นรอยพับมันได้ชัดๆ ทำจอพับที่ซ่อนรอยได้เนียนมากจริงๆ สำหรับ OPPO
ดูแลกันยาวๆ อัปเดทให้นานถึง 5 ปี
แล้วก็ข้อดีอีกข้อที่อาจจะไม่อยู่ในสเปคหน้ากระดาษด้วยเช่นกัน นั้นก็คือเรื่องของคำสัญญาที่ OPPO เขาได้ประกาศไว้ว่า OPPO Find N3 Flip จะเป็นอีกรุ่นหนึ่งที่จะได้รับการอัพเดทระบบให้นานอย่างน้อย 4 ปี และอัปแพทช์ความปลอดภัยให้นานอย่างน้อย 5 ปี เรียกได้ว่าอุ่นใจใช้กันยาวๆ ไม่ต้องกลัวตกรุ่นหรือโดนลอยแพอย่างแน่นอน
ข้อเสียที่ควรรู้
ข้อเสียของรุ่นนี้จากการใช้งานก็ยังมีนะครับ เรื่องแรกคือวัสดุตัวเครื่องที่ทาง OPPO ได้นำมาใช้ในสมาร์ทโฟนตัวนี้ จะมาเป็นลักษณะของผิวมันวาวทั้งหมดทุกสี ฉะนั้นเมื่อถือใช้งานโดยไม่สวมใส่เคส จะเห็นรอยนิ้วมือเยอะมากๆ
และอีกหนึ่งอย่างที่อาจจะเป็นข้อจำกัดของสมาร์ทโฟนในรูปทรงจอพับแบบนี้แทบทุกรุ่น ก็คือการที่เครื่องในรูปทรงลักษณะนี้ มักจะไม่มีการใส่รูฟัง 3.5 มม. มาให้ โดยใน OPPO Find N3 Flip ตัวนี้ก็จะไม่มีเช่นกันนะครับ อาศัยการเสียบหูฟังผ่านช่อง USB Type-C หรือเชื่อมต่อผ่านสัญญาณบลูทูธเป็นหลัก
รีวิวแบบเต็ม พร้อมตัวอย่างภาพถ่ายของ OPPO Find N3 Flip สามารถไปดูทั้งหมดในบทความรีวิวของทาง AppDisqus ในลิงก์นี้ครับ :>> รีวิว OPPO Find N3 Flip