วางขายกันไปเรียบร้อยแล้วกับสมาร์ทโฟนที่ใครหลายคนจับตามองอย่าง OPPO R7 Plus สมาร์ทโฟนสเปกแรง ดีไซน์สวย ที่เด่นด้วยขนาดหน้าจอ 6 นิ้ว ตอบโจทย์คนที่อยากได้สมาร์ทโฟนจอใหญ่ๆ พร้อมด้วยเทคโนโลยีดีๆ ที่จัดใส่มาในสมาร์ทโฟนเครื่องนี้แบบเต็มๆ ไม่ว่าจะเป็นแบตความจุสูง 4,100mAh พร้อมระบบชาร์จไว VOOC Flash Charge, เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ, กล้องที่มีระบบหาโฟกัสแบบ Laser Auto Focus และมีระบบกันภาพสั่น สเปกแรงๆ Ram 3GB ตัวเครื่องเพรียวบางหรูหราผลิตจากโลหะแมกนีเซียมอัลลอย ในราคาเพียง 16,990 บาท
เรามาดูกันดีกว่าครับว่า OPPO R7 Plus ในเวลานี้มีความคุ้มค่าน่าเลือกซื้ออยู่ในระดับไหน เมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ ในระดับเดียวกันอย่าง Samsung Galaxy A8 และ Huawei Ascend Mate 7 (Gold)
OPPO R7 Plus | Samsung Galaxy A8 | Huawei Ascend Mate 7 Gold |
6.0 Super AMOLED Full HD
(1,920×1,080 จุด) |
5.7 Super AMOLED
Full HD (1,920×1,080 จุด) |
6.0 Full HD
(1,920×1,080 จุด) |
Snapdragon 615
Octa-Core 1.5GHz |
Snapdragon 410
Octa-Core 1.2GHz |
Kirin 925
Octa-Core 1.8GHz |
13Mp + 8Mp
(มีระบบ Laser Auto Focus และ Anti-Shake Optimization) |
16Mp + 5Mp | 13Mp + 5Mp |
3GB + 32GB | 2GB + 32GB | 3GB + 32GB |
ColorOS 2.1 (Android 5.1) | Android 5.1 | Android 4.4 |
4,100mAh
(มีระบบชาร์จไว VOOC Flash Charge) |
3,050mAh | 4,100mAh |
Yes | Yes | Yes |
Yes | Yes | Yes |
16,990 บาท | 15,990 บาท | 17,990 บาท |
OPPO R7 Plus VS. Samsung Galaxy A8
ในมุมของคนที่อยากได้สมาร์ทโฟนจอใหญ่ๆ OPPO R7 Plus เอาชนะ Galaxy A8 ไปด้วยขนาดหน้าจอที่ใหญ่กว่า จะเล่นเกมหรือดูคลิปวิดีโอก็ใหญ่เต็มตาสะใจกว่า เมื่อเทียบกันในเรื่องของประสิทธิภาพ ก็ต้องบอกว่า OPPO R7 Plus เหนือกว่าอย่างชัดเจน ด้วยความที่สมาร์ทโฟนทั้ง 2 เครื่องนี้เลือกใช้ CPU ตัวเดียวกัน แต่ RAM ของ R7 Plus จัดมาให้เต็มกว่าที่ 3GB (ของ Galaxy A8 จัดมาให้ 2GB) ทำให้ OPPO R7 Plus เล่นแอพเล่นเกมได้ลื่นไหลกว่าอย่างแน่นอนครับ
ในส่วนของขนาดความจุแบตเตอรี่ซึ่งเป็นปัจจัยที่มีส่วนสำคัญมากสำหรับการตัดสินใจเลือกซื้อสมาร์ทโฟนหน้าจอใหญ่ OPPO R7 Plus ก็จัดแบตมาให้มากกว่าที่ 4,100mAh จากการใช้งานจริงก็ต้องบอกว่าแบตใหญ่ขนาดนี้รองรับการใช้งานได้ครบวันแบบสบายๆ เลยครับ ลืม Power Bank ไปได้เลย ในขณะที่ Galaxy A8 มาพร้อมกับแบตขนาดเล็กเพียง 3,050mAh เท่านั้น และเรื่องสุดท้ายที่ต้องพูดถึงคือฟังก์ชั่นกล้อง โดยที่กล้องหน้าของ OPPO R7 Plus ความละเอียดสูงถึง 8 ล้านพิกเซล บวกกับโหมดการถ่ายภาพหน้าเนียนฟรุ๊งฟริ้งของ OPPO (Beautify 3.0) ที่สาวกเซลฟี่ให้การยอมรับว่าถ่ายออกมาแล้วหล่อสวยดูดีจริง ฟันธงว่า R7 Plus เซลฟี่ดีกว่ากล้องหน้า 5 ล้านของ Galaxy A8 อย่างแน่นอน
ตัวอย่างภาพเซลฟี่ของ OPPO R7 Plus
มาดูเรื่องกล้องหลังกันบ้าง ทางฝั่งของ A8 มาพร้อมกล้องความละเอียดสูงกว่าที่ 16 ล้านพิกเซล ส่วนทางฝั่งของ OPPO R7 Plus ถึงแม้จะมาพร้อมกล้อง 13 ล้าน แต่ก็ต้องบอกว่าไม่ได้ด้อยกว่าแต่อย่างใด เพราะด้วยระบบประมวลผลภาพ Pure Image 2.0+ ทำให้สามารถถ่ายภาพได้ที่ความละเอียดสูงเทียบเท่า 50 ล้านพิกเซลในโหมด Ultra HD ได้ภาพขนาดใหญ่ที่เก็บรายละเอียดต่างๆ ได้ครบถ้วน
ภาพความละเอียดเทียบเท่า 50 ล้านพิกเซลในโหมด Ultra HD เก็บรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ในภาพได้ครบถ้วน
และกล้องหลังของ OPPO R7 Plus เหนือว่าด้วยเทคโนโลยี Laser Auto Focus ที่ใช้ลำแสงอินฟราเรดช่วยในการหาโฟกัส ทำให้หาโฟกัสได้อย่างรวดเร็ว แม้กับการถ่ายในห้องที่ค่อนข้างมืด ใครที่เคยถ่ายภาพเล่นในห้องที่แสงน้อยแล้วกล้องหาโฟกัสไม่เจอ หรือกล้องทำงานช้า ให้ลองมาเล่น OPPO R7 Plus รับรองว่าถูกใจอย่างแน่นอน และด้วยระบบป้องกันภาพสั่นไหว Anti-Shake Optimization ทำให้ได้ภาพที่คมชัดขึ้นแม้กับการถ่ายในสภาพแสงน้อย เหล่านี้เป็นจุดเด่นของกล้องหลัง OPPO R7 Plus ที่ถูกใจคนชอบถ่ายภาพอย่างแน่นอน ผลการเปรียบเทียบของ 2 รุ่นนี้ก็ต้องบอกว่าคุ้มค่าครับ ที่จะจ่ายเงินเพิ่มอีก 1,000 บาท เพื่อซื้อ OPPO R7 Plus
OPPO R7 Plus VS. Huawei Ascend Mate 7 (Gold)
อีกหนึ่งคู่เปรียบเทียบสมาร์ทโฟนจอใหญ่ที่วางราคาขายอยู่ในระดับราคาใกล้เคียงกัน จุดแรกที่จะหยิบมาพูดคือเรื่องของประสิทธิภาพ ทางฝั่งของ Mate 7 Gold เลือกใช้ CPU ความเร็วสูงกว่าที่ 1.8GHz (ของ OPPO R7 Plus ใช้ CPU 1.5GHz) แต่เมื่อมองในภาพรวมแล้ว CPU รุ่น Snapdragon 615 ของ R7 Plus มีเสถียรภาพและความราบรื่นในการทำงานเหนือว่า CPU Kirin 925 ของ Huawei Mate 7 Gold
กล้องหลังของทั้ง 2 รุ่นนี้ความละเอียดเท่ากันที่ 13 ล้านพิกเซล แต่ของ OPPO R7 Plus จะเด่นกว่าตรงที่มีระบบ Laser Auto Focus กล้องหาโฟกัสได้เร็วในทุกสภาพแสง และมีระบบป้องกันภาพสั่นไหว Anti-Shake Optimization ช่วยเพิ่มความคมชัดของภาพ และมีโหมด Ultra HD ที่ถ่ายภาพได้ความละเอียดสูงเทียบเท่า 50 ล้านพิกเซล ในเรื่องของกล้องหน้า OPPO R7 Plus ก็เด่นกว่าอย่างชัดเจนด้วยกล้องความละเอียดสูงกว่า ที่ 8 ล้านพิกเซล (ของ Huawei Mate 7 Gold ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล) และด้วยโหมดการถ่ายเซลฟี่ฟรุ๊งฟริ้งที่มีอยู่ใน OPPO R7 Plus ทำให้ตอบความต้องการของสาวกเซลฟี่ได้ดีกว่าอย่างแน่นอนครับ
และเรื่องสุดท้ายที่เอามาเทียบกันแล้ว OPPO R7 Plus ดูน่าสนใจกว่าคือเรื่องของแบตเตอรี่ที่ถึงแม้ทั้ง 2 เครื่องจะมีขนาดความจุเท่ากันที่ 4,100mAh แต่ R7 Plus เด่นกว่าด้วยระบบชาร์จไว 4 เท่า VOOC Flash Charge ชาร์จ 5 นาที รองรับการสนทนาโทรศัพท์ได้ถึง 2 ชั่วโมง ชาร์จ 30 นาทีแบตเตอรี่เต็ม 50% และชาร์จแบตเต็ม 100% ในเวลาเพียงประมาณ 1 ชั่วโมง 40 นาทีเท่านั้น เป็นสมาร์ทโฟนแบต 4,100mAh ที่ชาร์จเร็วที่สุดในท้องตลาด และด้วยราคาของ OPPO R7 Plus ที่ถูกกว่า Huawei Ascend Mate 7 Gold อยู่ 1,000 บาท ทำให้ R7 Plus ยิ่งมีความคุ้มค่าน่าเลือกซื้อมากขึ้นไปอีก