งานนี้ OPPO เขาขอท้าสื่อครับ ^^ กิจกรรม OPPO Reno2 Ultra Steady Challenge รอบทดสอบจริงกับระบบกันสั่น Ultra Steady Mode ที่เป็นการทำงานร่วมกันของสองระบบ OIS และ EIS ที่อยู่ในกล้องของ OPPO Reno2 ทำให้การทำงานขณะถ่ายวีดีโอของกล้อง Reno2 ให้ผลลัพท์ใกล้เคียงกับกล้องแอคชั่นแคมสำหรับการทำกิจกรรมแนว Extreme เลยละครับ
OPPO ได้พาเราไปสนามสำหรับการปั่นจักรยานที่ไม่ธรรมดา Peppermint Bike Park สนามจักรยานที่ออกแบบโดยบริษัทจัดจำหน่ายยาดมชื่อดังของเมืองไทย อาจจะด้วยศักด์ศรีของคนขายยาดมก็เลยออกแบบมากะให้คนมาปั่น ต้องหอบหายใจถามหายาดมกันให้ได้เลยละ ฉะนั้นงานนี้สื่อเหนื่อยครับ โดยเฉพาะตัวแทนของ APPDISQUS ที่เป็นผู้หญิงซะด้วย งานนี้ปั่นไปหอบไป เหนื่อยจริงแบบไม่ได้ใช้สแตนอิน 555 ต้องลงเดินเข็นก็ซะหลายรอบ
ก่อนอื่นขอแนะนำให้รู้จักกับ OPPO Reno2 กันก่อนนะครับ ว่าทำไมต้องพูดถึงเรื่องการถ่ายวีดีโอ
อาจจะบอกได้ว่า OPPO Reno2 นับเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของ OPPO ที่ถูกออกแบบเทคโนโลยีในด้านการถ่ายวีดีโอมาเป็นพิเศษ โดยเปิดตัวมาพร้อมกันระหว่าง OPPO Reno2 และ OPPO Reno2 F ชื่อรุ่นอาจจะคล้ายกัน แต่ OPPO Reno2 คือรุ่นพี่ที่มีความสามารถสูงกว่าหลายด้าน รวมถึงฟังก์ชั่นสนุกๆในการถ่ายวีดีโอ มีโหมดถ่ายภาพเคลื่อนไหวแปลกๆ และระบบกันสั่นระดับสูงในขณะถ่ายวีดีโอใส่เข้ามาให้ครบเลยครับ
โดยจากที่ APPDISQUS เคยรีวิว OPPO Reno2 ตัวนี้มา นอกจากการถ่ายภาพนิ่งจากกล้องหลังสี่ตัวที่ทำได้ดีแล้ว ก็ต้องยกให้เป็นมือถือที่มีความสามารถด้านการถ่ายวีดีโอเป็นระดับท็อปของวงการเลยละครับ
โดยจุดหลักที่ทาง OPPO จัดงาน “OPPO Reno2 Ultra Steady Challenge” ขึ้นมา ก็เพื่อจะให้เห็นผลลัพท์ของ Ultra Steady Mode กันได้อย่างชัดเจนขึ้นครับ โดยเป็นความสามารถที่ไม่ธรรมดาเพราะเป็นการนำระบบกันสั่นสองตัวในเครื่องที่มีทั้งกันสั่นซอฟแวร์อย่าง EIS และกันสั่นแลลฮาร์ดแวร์ OIS เข้ามาช่วยกันให้เราถ่ายวิดีโอได้นิ่งทุกช็อต มีความสมูทและคมชัดแม้ในขณะที่กล้องสั่นหรือไม่นิ่ง เอาอยู่หมดแม้จะเป็นการถ่ายในสถานะการณ์แบบกิจกรรม Extreme ก็ตาม ดังเช่นตัวอย่างจากวีดีโอที่เรานำ Reno2 ไปยึดติดกับแฮนด์จักรยาน แล้วออกปั่นในสนาม Peppermint Bike Park มาให้ดูด้านล่างนี้ครับ
ก็จะเห็นว่าวีดีโอจาก Reno2 นิ่งเหมือนเดินถ่ายบนทางเรียบเลย ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงสนามและตัวจักรยานไม่มีคำว่านิ่งครับ กึ๊กๆๆๆๆ กระเด้งกระดอนตลอดเส้นทาง 555 ตัวยึดโทรศัพท์ก็ไม่ได้แข็งแรงอะไร ทั้งหมดคือความสามารถของ Ultra Steady Mode ล้วนๆ รวมถึงการถ่ายวีดีโอที่สามารถถ่ายวิดีโอมุมกว้าง Utra Wide Angle ได้ และซูมภาพได้ 5X แบบยังคมชัดได้อีกด้วย
แต่ฟังก์ชั่นวีดีโอของ OPPO Reno2 ก็ไม่ได้มีแค่นี้ครับมันยังสามารถถ่ายวิดีโอได้แบบหน้าชัดหลังเบลออีกด้วย ในโหมด Bokeh Effect Video ซึ่งเป็นสามารถที่ทำได้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง เรามีอีกตัวอย่างวีดีโอที๋โชว์ความสามารถของกล้อง Reno2 ในโหมดถ่ายวีดีโอต่างๆ มาให้ดูกันด้านล่างนี้อีกคลิปนึงครับ
OPPO ออกแบบ Reno2 ให้เป็นเครื่องมือสำหรับการสร้างงานวีดีโอได้ตั้งแต่ต้นจนจบกระบวนการครับ เพราะหลังจากเราถ่ายวีดีโอมาด้วยโหมดต่างๆ ของตัวเครื่องมาเก็บไว้เป็นฟุตเทจแล้ว ใน Reno2 ยังมีแอพพลิเคชั่นสำหรับการตัดต่อวิดีโอโดยเฉพาะมาให้ นั้นคือ SOLOOP เป็นแอพที่สามารถแก้ไขและสร้างวิดีโอได้จากในตัวโทรศัพท์โดยตรง และยังคงคุณภาพของวิดีโอเอาไว้ได้สมบูรณ์แบบ ใส่มาเพื่อให้เข้ากันกับ Reno2 แบบสุดๆ เลยละครับ
จากความสามารถต่างๆ ของ OPPO Reno2 จึงเป็นมือถือที่เหมาะกับคนที่ชอบถ่ายวิดีโออย่างมาก รวมถึงมีความสามารถในการถ่ายเก็บภาพและตัดต่อวิดีโอได้ครบ จบในอุปกรณ์เดียว โดยยังคงคุณภาพของวิดีโอเอาไว้ได้ตั้งแต่ไฟล์ภาพต้นฉบับจนมาถึงผลลัพท์ออกมาเป็นงานวีดีโอครับ
ก็เป็นรุ่นที่ OPPO ตั้งใจทำออกมาเป็นอย่างดี ตัวเครื่องสวยมากอยู่แล้วตามมาตรฐานของ OPPO โดยเฉพาะ Reno2 นับเป็นตัวท็อปๆ ของแบรนด์ฉะนั้นพรีเมี่ยมสุดๆ ครับ เหลื่อมเงาเวลาโดนแสง ยังกับมีเลเซอร์วิ่งอยู่กลางเครื่อง จะบอกว่ารุ่นนี้หรูยันเคสแถมอะครับ สัมผัสหนัง เครื่องดูมีราคามาก กล้องหลังสี่หล้องหน้าป๊อบอัพแบบ Pivot Rising Camera หน้าจอเต็มไม่มีติ่งใดๆ
ราคาจำหน่ายของ OPPO Reno2 ตอนนี้อยู่ที่ 17,990 บาท เป็นรุ่นที่น่าสนใจครับ ลองสัมผัสการใช้งานจริงได้ที่ช็อป OPPO ทุกสาขาและร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศไทย เห็นตัวจริงแล้วคุณจะรู้ว่า มันสวยกว่าที่คิดไว้เยอะเลยละครับ ^^