OPPO Reno7 Z 5G The Portrait Expert สมาร์ทโฟนตัวที่สามจากซีรีส์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของ OPPO เปิดตัวมาอย่างต่อเนื่องครับ นับเป็นสมาร์ทโฟน 5G ที่ทำงานด้านการถ่ายภาพพอร์ตเทรตได้ดีที่สุดทั้งซีรี่ส์เลย ด้วยความสามารถของโหมดการถ่ายภาพ Bokeh Flare Portrait เพิ่มดวงไฟโบเก้ฉากหลังให้เด่นเหมือนถ่ายภาพด้วยกล้องเลนส์รูรับแสงขนาดใหญ่ พร้อมทั้งโหมด Selfie HDR เซลฟี่สวยแม้ถ่ายย้อนแสงครับ
และสำหรับ OPPO Reno7 Z 5G ก็เป็นรุ่นที่สวยงามเป็นพิเศษ ด้วยการผลิตฝาหลัง OPPO Glow และไฟ Dual Orbit Lights ไฟวงแหวนรอบกล้องทั้งสองตัว ที่มีมาเป็นพิเศษเฉพาะรุ่นนี้เลยครับ ^^
OPPO Reno7 Z 5G สวยล้ำมากครับ มีความเป็นตัวเองสูงมาก ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน ใช้กระบวนการผลิตแบบ OPPO Glow ทำให้พื้นผัวฝาหลังมีความระยิบระยับ มีความเงาบนพื้นผิวแบบด้าน แม้เครื่องที่ผมได้มาจะเป็นสีโทนดำ มันก็ยังไม่ใช่ดำธรรมดาที่เราเคยเห็นๆ กัน
สีดำ Cosmic Black จะมีพื้นผิวสัมผัสแบบด้านครับ สัมผัสละมุนมือ ใช้งานไม่เกิดคราบรอยนิ้วมือใดๆ แต่เมื่อมองเข้าไปจะเห็นถึงประกายระยิบระยับ สะท้อนเงาเล่นกับแสง เป็นเทคนิคการผลิตของ OPPO Glow ที่เคลือบผิว 2 ชั้น โดยใช้พื้นผิวซ้อนกัน 3 เลเยอร์
ระหว่าง 2 เลเยอร์แรกที่เป็นแบบด้าน และเลเยอร์ที่ 3 เป็นแบบเงาวางทับด้านบนอีกครั้งหนึ่ง ผสมกันระหว่างพื้นผิวเงากับผิวด้านในเครื่องเดียว โดยเราจะเห็นว่ารอบๆ กรอบกล้องหลังจะมีส่วนที่เป็นเงา แต่ส่วนอื่นๆ ของเครื่องจะเป็นผิวด้านทั้งหมด เพื่อให้มีความสวยงามแต่ยังใช้งานได้เต็มที่โดยไม่มีคราบรอยนิ้วมือ
การออกแบบกล้องก็พิเศษ ด้วยการตัดองค์ประกอบฐานรอบๆ ของชุดกล้องออกไปทั้งหมด ให้เป็นพื้นเรียบเนียนไปเสอมกันทั้งตัวเครื่องโดยไม่มีรอยต่อ สวยงามมากครับ
OPPO Reno7 Z 5G จะมีเข้าไทยมาสองสีครับ หนึ่งคือสี Cosmic Black ที่เห็นในพรีวิวนี้ และอีกสีที่สวยมากเช่นกัน Rainbow Spectrum ซึ่งเป็นสีโทนรุ่งที่จะเปลี่ยนไปมาได้ตลอดเวลา ตามมุมแสงที่มากระทบ ก็เป็นสองสีที่แยกกันเป็นเครื่องโทนเข้มกับโทนสว่าง สีไหนก็ไม่มีผิดหวังครับ
และไม่ใช่แค่เรื่องสีสันของ OPPO Glow เท่านั้นครับสำหรับ OPPO Reno7 Z 5G ยังมีความพิเศษแตกต่างไปจากตัวอื่นๆ ด้วย Dual Orbit Lights หรือไฟล้อมกรอบกล้องทั้งสองเลนส์ด้านหลัง ที่จะส่องแสงสว่างได้ตามการใช้งานในสถานการณ์ต่างๆ
เช่นจะติดขึ้นเมื่อเราเปิดเครื่องโทรศัพท์ แจ้งเราให้รู้ว่ามีสายเรียกเข้า หรือมีการแจ้งเตือนที่ยังไม่ได้อ่าน รวมถึงติดขึ้นให้ทราบในขณะกำลังชาร์จไฟ หรือจะตั้งค่าให้ส่องสว่างเมื่อเราเปิดใช้งานเกมก็ได้เป็นต้นครับ
สวยงาม โดดเด่น และแตกต่าง เหมือนเป็นการผสมผสานการออกแบบของสมาร์ทโฟนสายเกมมิ่งเข้ามาในสมาร์ทโฟนแนวแฟชั่นของ OPPO รวมไว้ด้วยกันครับ ไฟ Dual Orbit Lights ไม่ใช่จะแค่จะติดขึ้นมาเฉยๆ แต่จะสว่างสลับหรี่แสงไปมาได้ โดยไล่เฉดแสงสีน้ำเงิน ฟ้าอ่อน ฟ้าครามหรือเบบี้บลู โดยเราสามารถกำหนดค่าเวลาในการทำงาน และสถานการณ์ที่เราต้องการให้ไฟ Dual Orbit Lights ติดขึ้นมาได้ในการตั้งค่าครับ
งานออกแบบสวยมาก Ultra-Slim Retro Design แบบใหม่ ทรงตัดเหลี่ยมทันสมัย เครื่องบางพกง่ายดูโฉบเฉี่ยว เพราะ OPPO ทำเครื่องหนาๆ แนวเทอะทะออกมาไม่เป็นครับ
งานประกอบและออกแบบใส่ใจทุกรุ่น แน่นหนาและรู้สึกถึงความแกร่งได้ตั้งแต่แรกลองจับถือใช้ ตัวเครื่องบางแค่ 7.49 มม. (สี Rainbow Spectrum จะบาง 7.55 มม.) มีน้ำหนักแค่ 173 กรัม
AI สามกล้องหลัง กล้องหลักความละเอียด 64 ล้านพิกเซล และเลนส์ Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล สำหรับช่วยจับโฟกัสภาพบุคคล รุ่นนี้ถ่ายคนอย่างสวยครับ เพราะมีโหมด Bokeh Flare Portrait เพิ่มดวงไฟโบเก้พื้นหลังให้ดูสวยได้โดยอัตโนมัติ และสุดท้ายคือกล้อง Macro สำหรับโฟกัสวัตถุระยะใกล้ ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
กล้องของ OPPO Reno7 Z 5G โดดเด่นในด้านการถ่ายพอร์ตเทรตอย่างมากครับ ใช้อัลกอริธึมเฉพาะของ OPPO ทีพัฒนามาใหม่เพิ่มความสว่างให้แก่ตัวแบบพร้อมเบลอพื้นหลังและเพิ่มความเด่นให้ดวงไฟโบเก้ด้านหลังของแบบได้โดยอัตโนมัติในโหมด Bokeh Flare Portrait เป็นโหมดที่จะช่วยสมาร์ทโฟนของเราสามารถถ่ายพอร์ตเทรตได้สวยคล้ายใช้กล้อง DSLR
มีระบบปรับแต่งใบหน้าเหมือนการทำภาพรีทัช Portrait Retouching ที่อัปเกรดมาให้บน OPPO Reno7 Z 5G สามารถรปรับแต่งใบหน้าให้เนียนและดูสวยหล่อได้ ทั้งในการถ่ายภาพนิ่งและการถ่ายภาพวิดีโอพอร์ตเทรต ใช้ได้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังเลยครับ เป็นที่มาของความสามารถในนิยาม The Portrait Expert เรื่องถ่ายภาพคนโปรดไว้ใจ OPPO Reno7 Series สวยงามอย่างเป็นธรรมชาติ ^^
สำหรับคุณภาพของกล้องถ่ายภาพในโหมดต่างๆ ติดตามได้ในรีวิวเต็มๆ ของทาง Appdisqus นะครับ
หน้าจอของ OPPO Reno7 Z 5G เป็นหน้าจอขนาดใหญ่ 6.4 นิ้ว AMOLED Display สีสันสดใส แสงสว่างดี ขอบจอบาง รองรับการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอโดยตรง
เจาะรูวางกล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซลเอาไว้มุมซ้ายบน รองรับการสแกนใบหน้าเข้าใช้งานได้เช่นกัน
รันด้วยระบบ Android 11 ครอบทับด้วย ColorOS 12 ระบบใหม่ของ OPPO เรื่องของรวมเสถียรและคงทนไม่ต้องห่วงครับ เพราะนี้คือสมาร์ทโฟนอีกหนึ่งรุ่นของ OPPO ที่ไดได้ผ่านการรับรองมาตรฐาน TÜV SÜD 36-month fluency rating A หมายถึงการการันตีว่า สมาร์ทโฟนเครื่องนี้แม้จะใช้งานไปแล้วนานถึง 36 เดือนก็ตาม ก็ยังจะทำงานได้อย่างราบรื่นและรวดเร็วเช่นเดิม ของดีจากภายใน มันจะไม่เสื่อมไม่โทรมจากกันไปง่ายๆ ครับ
รุ่นนี้ให้ประสิทธิภาพการใช้งานที่แรงพอสมควรนะครับ ใช้ชิปเซ็ตตัวใหม่ Snapdragon 695 5G Mobile Platform ชิปเซ็ตเทคโนโลยีระดับ 6 นาโน แรงพอตัว กินพลังงานน้อย และรองรับการใช้งาน 5G เต็มรูปแบบด้วยครับ ให้แรมมา 8GB พร้อมความสามารถ RAM Expansion ขยายขนาดแรมออกไปได้ด้วยหน่วยความจำที่ยังไม่ได้ใช้งานอีก 5GB รวมเป็น 12GB ไว้ใช้ และหน่วยความจำให้มา 128GB ครับ และรองรับ micro SD Card เพิ่มเติมจากสล็อตซิมที่สองที่เป็นไฮปริด สลับใส่ระหว่างซิมกับ micro SD Card ได้ครับ
แบตเตอรี่ใส่ 4,500 mAh และใช้ระบบชาร์จไว 33W SUPERVOOC มาให้ครับ มาตรฐานชาร์จไฟตัวเก่งของ OPPO ที่เราไว้ใจได้ในความปลอดภัยและการควบคุมความร้อน ความไวในการชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็ม 100% ไม่ว่าแบตจะหมดเกลี้ยงแค่ไหนก็ตามใช้เวลาประมาณ 63 นาที หรือในระหว่างวัน มีเวลาแวะชาร์จเพียง 5 นาที ก็สามารถนำไปใช้คุยงานต่อได้นานถึง 3 ชั่วโมง มีอุปกรณ์ชาร์จมาให้เลยภายในกล่องครับ
อุปกรณ์ภายในกล่องก็จะมีที่ชาร์จ 33W SUPERVOOC สายดาต้า และเคสใสซิลิโคนแถมมาให้นะครับ
OPPO Reno7 Z 5G บาง สวย งานประกอบแน่นๆ ผู้ที่สนใจก็สามารถไปลองสัมผัสเครื่องจริงกันได้ที่หน้าร้านนะครับ ผมแอบมาบอกก่อนว่าทาง OPPO ได้เตรียมของแถมพรีออร์เดอร์เป็น Special Gift กระเป๋า OPPO Sports Bag เอาไว้ให้ด้วย
กระเป๋าใบใหญ่มากครับ หนา รับน้ำหนักได้พอสมควร ใส่อุปกรณ์กีฬาหรือใส่เสื้อผ้าไปต่างจังหวัดได้เลย
พรีวิว OPPO Enco Air2 หูฟังไร้สาย True Wireless รุ่นล่าสุด
และวันนี้ผมก็ได้ตัว OPPO Enco Air2 หูฟังไร้สายตัวใหม่ล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวไปเร็วๆ นี้จาก OPPO เอามาอวดกันด้วยครับ ผมจะบอกว่าหูฟังของ OPPO เสียงดีอยู่แล้ว ไม่มีรุ่นไหนผิดหวังแน่นอนครับ คุณภาพเสียงเกินราคาทุกตัว และตัวนี้ก็เช่นกันครับ
OPPO Enco Air2 มาพร้อมสโลแกน Fresh Sound in the Air ใช้ชื่อรุ่นว่า Air2 แต่ด้านเสียงนั้นกลับไม่เบาเหมือนชื่อครับ เบสทรงพลังมาก เพราะมาพร้อมกับไดร์เวอร์ขนาดใหญ่ 13.4 mm composite tetanized diaphragm driver พร้อม Bass booster เพื่อเพิ่มพลังเสียงเข้าไปอีก โดยไดรเวอร์ไดนามิกขนาดใหญ่นี้ออกแบบมาเพื่อให้หูฟังมีพื้นที่ในการอัดอากาศได้มากขึ้น เพิ่มพลังของเบสได้หนักขึ้น สะใจกับแรงผลักของเสียงเบสกันแบบเต็มที่ครับรุ่นนี้
OPPO Enco Air2 มีความโดดเด่นตั้งแต่ดีไซน์ภายนอกแล้วครับ ใช้ตัวเคสโปร่งแสงที่เป็นเอกลักษณ์ เราจะเห็นหูฟังภายในเคสได้โดยไม่ต้องเปิดฝา
ตัวเคสออกแบบโค้งมนแบบ Pebble-round ขนาดพอดีกับฝ่ามือ น้ำหนักเบามาก หูฟังรวมเคสชาร์จแล้วน้ำหนักจะอยู่ที่ 39.9 กรัมเท่านั้นเอง ด้วยเคสนี้จะช่วยชาร์จแบตเตอรี่กลับเข้าสู่ตัวหูฟังได้มากถึง 6 รอบ รวมเวลาใช้งานได้นาน 24 ชั่วโมงต่อการชาร์จหูฟังและแบตเตอรี่ของเคสให้เต็ม 100% เวลาที่ใช้ในการชาร์จทั้งหมดเฉลี่ยประมาณ 1.5 ชั่วโมง
OPPO Enco Air2 รองรับระบบส่งสัญญาณแบบ Binaural ส่งเสียงสู่หูฟังสองข้างพร้อมกัน เป็นเทคนิคการเชื่อมต่อของหูฟัง True Wireless รุ่นใหม่ เชื่อมต่อผ่านสัญญาณ Bluetooth 5.2 มันใช้พลังงานน้อยลง และได้ค่าความหน่วงที่ต่ำ และจะต่ำยิ่งกว่าเมื่อจับคู่การใช้งานของหูฟังรุ่นนี้เข้ากับสมาร์ทโฟนของ OPPO จะมีความหน่วงต่ำมากเป็นพิเศษครับเพราะถูกจูนมาเพื่อให้เข้ากันเป็นอย่างดี
แค่เพียงเราเปิดฝาเคสของหูฟัง อุปกรณ์สมาร์ทโฟน OPPO ที่อยู่ใกล้ๆ ถ้าเปิดสัญญาณบลูทูธเอาไว้ ก็พบเจอกันและพร้อมเชื่อมต่อใช้งานได้ทันทีเลยครับ
ตัวหูฟังจะมีระบบ Game mode เป็นโหมดที่จะเพิ่มประสิทธิภาพเพื่อลดความหน่วงของเสียงให้เหลือในระดับเพียง 80ms แต่ก็จะใช้พลังงานมากขึ้นกว่าปกติตามไปด้วยนะครับ
ซึ่งผู้ใช้งานสามารถเปิดการใช้งานได้ทันทีด้วยการแตะสามครั้งบนตัวหูฟังครับ ส่วนการควบคุมในคำสั่งอื่นๆ ก็ทำได้ผ่านตัวหูฟังโดยตรงเกือบทั้งหมด รวมถึงการลดเสียงและเพื่มเสียงด้วย
ตัวไมค์รับเสียงของ OPPO Enco Air2 ใช้ระบบ AI deep noise cancellation for calls เพื่อช่วยตัดเสียงรอบตัวให้การสนทนาของผู้ใช้ไร้เสียงรบกวน โดย AI จะเรียนรู้ในการแยกแยะเสียงของมนุษย์ และใช้อัลกอริธึเพื่อแยกเสียงพูดของเราออกจากเสียงอื่นๆ รอบตัว และลดเสียงที่ไม่เกี่ยวข้องได้แบบเรียลไทม์นั้นเองครับ
อุปกรณ์ภายในกล่องของหูฟัง OPPO Enco Air2 จะมีแค่ตัวชุดหูฟังพร้อมเคสและคู่มือการใช้งานให้มานะครับ ไม่มีสายชาร์จมาให้ ส่วนราคาก็รองานเปิดตัวอย่างเป็นทางการกันในต้นเดือนหน้านะครับ
OPPO Enco Air2 จะเปิดตัวพร้อมกับ OPPO Reno7 Z 5G ในงาน OPPO Reno7 Z 5G Launch Event ในวันพฤหัสบดีที่ 3 มีนาคม นี้ ตั้งแต่เวลา 16.30 น. เป็นต้นไป ใครที่สนใจก็ติดตามรับชมกันได้ ผ่านทาง Facebook, YouTube และ TikTok ของ OPPO Thailand เท่านั้นนะครับ แล้วไปร่วมรับชมรายละเอียดต่างๆ พร้อมกันในงานนะครับ ^^