Xiaomi Pocophone F1 นั้นถือเป็นมือถือทรงพลังที่อยู่ในกระแสและราคาประหยัดมากๆ จนหลายๆ สื่อต่างก็ให้ฉายาว่านักฆ่าเรือธง แต่แล้วจู่ๆ ก็มีการตั้งข้อสังเกตจาก Android Pure ซึ่งเป็นบล็อกข่าวสารฝั่ง Android ถึงสาเหตุที่ Pocophone F1 นั้นไม่มีการแสดงสัญลักษณ์ HD ที่มุมของจอภาพเมื่อเล่นวิดีโอสตรีมมิ่งผ่านแอพพลิเคชั่นอย่าง Netflix เป็นเหตุให้ต้องมีการหาคำตอบกันต่อไปว่าเกิดเพราะอะไร ซึ่งวันนี้ Digit.in มีการทดลองกับมือถือ Xiaomi เพิ่มเติมอีกหลายรายการและพบว่าทั้งหมดที่ทดสอบนั้นให้ผลลัพธ์ที่เหมือนกันคือไม่สามารถสตรีมมิ่งวิดีโอแบบ HD ได้ทั้งๆ ที่หน้าจอรองรับ FullHD
โดยกรณีนี้เคยเกิดขึ้นมาและเป็นข่าวใหญ่โตไปแล้วกับ OnePlus 5 และ 5T เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งในตอนนั้นการแก้ไขก็เรียกได้ว่าปวดหัวไม่น้อย เพราะปัญหาไม่สามารถแก้ได้ด้วยการส่งเฟิร์มแวร์อัพเดต OTA ออกไป แต่ต้องถึงขั้นเรียกเครื่องที่ประสบปัญหากลับคืนมายังโรงงานเพื่อทำการติดตั้งใบรับรองใหม่ที่ทำให้สามารถดูวิดีโอสตรีมมิ่งแบบ HD ได้ โดยตัวใบรับรองที่ว่านั้นก็คือรูปแบบหนึ่งของ DRM หรือ Digital Right Manager หรือใบรับรองการตรวจสอบลิขสิทธิ์นั่นเอง ซึ่ง DRM ตัวนี้สร้างขึ้นโดย Google เองและมีชื่อว่า Widevine โดยมีทั้งสิ้น 3 ระดับขึ้นคือ L1, L2 และ L3 และการที่จะสามารถเล่นไฟล์วิดีโอสตรีมมิ่งจากบริการอย่างพวก Netflix หรือ Amazon ได้นั้น อุปกรณ์เครื่องนั้นๆ ต้องมีการติดตั้งใบรับรองระดับ L1 เท่านั้นถึงจะเล่นไฟล์แบบ HD หรือความละเอียดสูงได้
แน่นอนว่ามือถือ Xiaomi ที่ทดสอบ ซึ่งเริ่มตั้งแต่ Pocophone F1 ตัวที่เป็นกระแสอยู่ในตอนนี้ ไปยัง Redmi Note 5, Redmi Note 5 Pro, Mi A2, Mi A1, Mi Mix 2, Mi Max 2 และ Redmi 6 Pro (และอาจมีอีกหลายๆ รุ่นที่ยังไม่ได้ทดสอบ รวมไปจนถึงแบรนด์อื่นๆ ด้วย) นั้นไม่มีเครื่องใดเลยที่จะสามารถสตรีมวิดีโอแบบความละเอียดสูงจากบริการอย่าง Netflix ได้ ซึ่งถือเป็นเรื่องน่าแปลกใจมาก เพราะการรับรอง Widevine นั้นไม่มีการเรียกเก็บค่าบริการลิขสิทธิ์ใดๆ โดย Google ตั้งใจเปิดให้เป็นการรับรองฟรีเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ผลิตมือถือได้มอบประสบการชมวิดีโอสตรีมมิ่งแบบความละเอียดสูงให้กับผู้ใช้งานนั่นเอง
ทั้งนี้ รายการมือถือทั้งหมดที่ทาง Digit.in ได้ทดสอบนั้น มีดังต่อไปนี้
ที่น่าสนใจจากรายการคือเหล่ามือถือจาก Honor ซึ่งเป็นแบรนด์ลูกของ Huawei ที่ก็ไม่ได้รับการรับรอง Widevine L1 เช่นกัน ทำให้ไม่สามารถสตรีมคอนเทนต์จากบริการอย่าง Netflix ในรูปแบบ HD ได้ ทั้งๆ ที่ตัวเครื่องมาพร้อมกับหน้าจอที่มีความละเอียดสูง ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องน่าเสียดายสำหรับผู้ใช้บริการอย่างเราๆ ท่านๆ อย่างแท้จริง
Digit.in ได้มีการติดต่อทาง Xiaomi เพื่อสอบถามถึงสาเหตุและแนวทางแก้ปัญหาจากแบรนด์แล้ว แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่มีการตอบกลับมาแต่อย่างใด ซึ่ง APPDISQUS จะรีบนำมารายงานเพื่อนๆ กันอีกครั้งทันทีที่มีความคืบหน้าออกมา
หากจะมีอะไรก็ตามที่เราเรียนรู้จาก OnePlus ในกรณีของ OnePlus 5 และ 5T ที่เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว สิ่งนั้นก็คงจะเป็นความจริงที่ว่าการแก้ไขปัญหานั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยการอัพเดตเฟิร์มแวร์แบบ OTA แต่เป็นการเรียกเครื่องคืนทั้งหมด ซึ่งก็ต้องดูต่อไปว่า Xiaomi จะเลือกแก้ไขปัญหานี้หรือไม่ หรือจะปล่อยผ่านเลยไปโดยไม่กลับมาพูดถึงมันอีกและให้การเวลากลบฝังไปในหลุมดำ