PR: เจาะกล้อง OPPO N3 ทลายทุกขีดจำกัดในการสร้างสรรค์ภาพถ่ายที่สวยงาม
กล้องหมุนอัตโนมัติของ OPPO N3ทำให้การถ่ายภาพด้วยสมาร์ทโฟนกลายเป็นอะไรที่ง่าย และน่าสนุกอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นโหมดการถ่ายแบบAuto-tackingที่กล้องแพนหมุนตามการเคลื่อนที่ของสิ่งที่ต้องการถ่ายได้โดยอัตโนมัติ และถ่ายภาพวิวแนวกว้างแบบพาโนราม่าได้ง่ายขึ้นด้วยโหมดการถ่ายแบบ Auto-panorama ที่เพียงถือกล้องไว้นิ่งๆ แล้วชิ้นกล้องก็จะหมุนกวาดเก็บภาพแนวกว้างโดยอัตโนมัติ
และด้วยความที่สามารถควบคุมการหมุนของกล้องผ่านการสไลด์นิ้วบนหน้าจอ ทำให้ใช้งานกล้องของ OPPO N3 ด้วยมือข้างเดียวได้อย่างง่ายดาย แต่ที่พูดถึงไปทั้งหมดนี้ก็ยังเป็นความสามารถเพียงส่วนเดียว เรามาดูกันดีกว่าครับว่ากล้องของ OPPO N3 สามารถสร้างสรรค์ภาพถ่ายสวยๆ ในรูปแบบไหนได้อีกบ้าง
OPPO N3 ถูกออกแบบมาให้เป็นสมาร์ทโฟนชั้นยอดสำหรับการถ่ายภาพ ด้วยเซ็นเซอร์ภาพขนาด 16 ล้านพิกเซลที่ทำงานร่วมกับชิ้นเลนส์ที่ผ่านการรับรองคุณภาพโดย Schneider-Kreuznach ผู้ผลิตเลนส์ระดับโลกจากเยอรมัน ทำให้ได้ภาพถ่ายที่ความละเอียดสูงเทียบเท่า 64 ล้านพิกเซลในโหมดการถ่ายแบบ Ultra HD นอกจากนี้เซ็นเซอร์กล้องยังมีขนาดของเซลล์รับแสงที่ใหญ่ถึง 1.34 ไมครอน และมีชุดเลนส์แบบ 5 ชิ้น ซึ่งเป็นมาตรฐานที่สูงกว่ากล้องของสมาร์ทโฟนระดับเรือธงทุกตัวในท้องตลาด และด้วยดวงไฟแฟลชแบบ 2 ดวงยังช่วยให้สภาพแสงที่เป็นธรรมชาติเมื่อต้องถ่ายในสภาวะแสงน้อย ในเมื่อมีฮาร์ดแวร์สำหรับการถ่ายภาพที่ดีแล้ว แน่นอนว่า OPPO N3 ย่อมต้องการซอฟต์แวร์สำหรับงานจัดการภาพถ่ายที่ดีดุจเดียวกัน เพื่อให้ได้ผลงานสุดท้ายเป็นภาพถ่ายที่สวยงามน่าประทับใจ
ด้วยซอฟต์แวร์ประมวลผลภาพถ่ายอัจฉริยะ PI 2.0+ ที่มีอยู่ใน OPPO N3 ที่ทำปรับแต่งค่าการถ่ายให้เหมาะกับสไตล์และรูปแบบการถ่ายภาพที่หลากหลาย OPPO ได้ทุ่มเททำการวิจัยเกี่ยวกับการปรับแต่งค่าการถ่ายสำหรับสถานการณ์เกินกว่า 100รูปแบบ (อาทิ การถ่ายภาพบุคคลกลางแจ้ง, การถ่ายบุคคลในร่ม, การถ่ายภาพวิวธรรมชาติ, การถ่ายภาพวิวในเมือง หรือการถ่ายภาพวิวชายทะเลเป็นต้น) แล้วเก็บค่าการถ่ายที่เหมาะสมสำหรับสถานการณ์เหล่านั้นไว้ในฐานข้อมูล และเมื่อเราเรียกใช้ฟังก์ชั่นกล้อง ระบบ PI 2.0+ จะทำการวิเคราะห์สภาพแวดล้อมในการถ่าย (อาทิ ระดับความสว่าง, สภาพของวิวทิวทัศน์ และสภาพของสิ่งที่เราต้องการถ่าย) แล้วทำการเลือกค่าการถ่ายที่เหมาะสมสำหรับภาพนั้นๆ โดยอัตโนมัติ รวมถึงมีการปรับแต่งค่าสีอย่างเหมาะสมเพื่อให้ภาพถ่ายออกมาสวยงามดูดีที่สุด ทำให้ไม่ว่าใครก็ถ่ายภาพออกมาได้สวยโดยไม่จำเป็นต้องเป็นตากล้องมืออาชีพ ซึ่งกระบวนการทำงานที่ละเอียดอ่อนซับซ้อนของระบบ PI 2.0+นี้เกิดขึ้นในจังหวะเพียงช่วงพริบตาที่เปิดกล้องขึ้นมา
PI 2.0+ มีการเก็บค่าการถ่ายสำหรับสภาพแวดล้อมในรูปแบบต่างๆ เกินกว่า 100 รูปแบบ
โหมดการถ่ายที่หลากหลาย ตอบรับทุกสไตล์การถ่ายภาพ
ปลดปล่อยจินตนาการในการสร้างสรรค์ภาพถ่ายให้เป็นอิสระ สำหรับกล้องของสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ อาจทำให้คนที่รักการถ่ายภาพต้องเจอกับข้อจำกัดมากมาย อย่างเช่นไม่สามารถปรับระดับแสงให้เหมาะสมสำหรับการถ่ายภาพในบางรูปแบบ หรือไม่สามารถถ่ายมาโครแบบซูมเจาะเข้าใกล้วัตถุขนาดเล็กได้ ทำให้ไม่สามารถสร้างสรรค์ภาพถ่ายออกมาได้ตามต้องการ แต่ด้วยซอฟต์แวร์ประมวลผลภาพ PI 2.0+ ทำให้ OPPO N3 สามารถก้าวข้ามขีดจำกัดเดิมๆ ของการถ่ายภาพด้วยสมาร์ทโฟน ทั้งยังขยายความเป็นไปได้ใหม่ๆ ในการสร้างสรรค์ภาพถ่ายที่สวยงามสะดุดตาด้วย
โหมดการถ่ายภาพที่แปลกใหม่และหลากหลายของ OPPO N3
สร้างสรรค์เอฟเฟกต์ภาพถ่ายแบบฝาแฝดได้ง่ายๆ ด้วยโหมดการถ่าย Auto-panorama
OPPO N3 สามารถ่ายภาพแบบใส่เอฟเฟกต์ให้มีตัวคุณอยู่ในหลายๆ ตำแหน่งของภาพได้อย่างง่ายดายด้วยโหมดการถ่ายภาพแบบ Auto-panorama (โหมดนี้แค่เพียงถือกล้องไว้นิ่งๆ หรือติดตั้งกล้องเข้ากับขาตั้ง แล้วชิ้นกล้องจะหมุน 206 องศา เพื่อเก็บภาพมุมกว้างโดยอัตโนมัติ)แต่การจะทำเอฟเฟกต์ภาพแบบนี้ต้องมีการวางแผนเล็กน้อย
อย่างภาพตัวอย่างด้านล่างนี้ ได้มีการแบ่งภาพแนวกว้างออกเป็น 3 ส่วน โดยเมื่อโหมดการถ่ายภาพแบบ Auto-panorama เริ่มทำงาน และชิ้นกล้องหมุนกวาดเก็บภาพในส่วนแรกเสร็จเรียบร้อยแล้ว นายแบบของเราก็ต้องมานั่งโพสต์ท่าต่อในตำแหน่งที่สอง และเมื่อกล้องหมุนกวาดเก็บภาพในส่วนที่ 2 เรียบร้อยแล้ว นายแบบก็ย้ายมาโพสต์ท่าต่อในตำแหน่งที่ 3 และสุดท้ายก็ได้ภาพถ่ายแนวกว้างพาโนราม่าที่มีแฝด 3 คนอยู่ในภาพ โดยที่ไม่ต้องเอาไปตกแต่งในซอฟต์แวร์ใดๆ เพิ่มเติม
เทคนิคการสร้างสรรค์ภาพถ่ายแบบแฝด 3 ด้วย OPPO N3
ถ่ายภาพสนุกๆ จับมือกับตัวเองด้วยโหมดการถ่าย Double exposure
อีกหนึ่งโหมดการถ่ายภาพแบบสนุกๆ และเต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ของ OPPO N3 คือโหมด Double exposure ที่เป็นการนำ 2 ภาพมาซ้อนรวมเป็นภาพถ่ายใบเดียว และสำหรับการถ่ายภาพแบบจับมือกับตัวเอง ให้ถ่ายภาพแรกเหมือนว่าเรากำลังยืนจับมือกับใครอยู่ เมื่อกดชัตเตอร์บันทึกภาพแรกเรียบร้อยแล้ว เราก็จะเห็นภาพนั้นเป็นเงาลางๆ บนหน้าจอ เพื่อช่วยให้ถ่ายภาพที่สองได้แบบซ้อนทับ จับมือกันสนิทพอดีได้อย่างง่ายดาย
ผลงานจากโหมดการถ่ายแบบ Double exposure
ไม่พลาดทุดรายละเอียดด้วยโหมดการถ่าย Ultra-HD
โลกนี้เต็มไปด้วยสิ่งที่น่าตื่นตา อย่าปล่อยให้ความประทับใจของคุณเลื่อนหายไปกับภาพถ่ายความละเอียดต่ำ และด้วยซอฟต์แวร์ประมวลผลภาพอัจฉริยะ PI 2.0+ ทำให้ OPPO N3 มาพร้อมโหมดการถ่ายแบบ Ultra HD ที่ให้ภาพถ่ายความละเอียดสูงเทียบเท่า 64 ล้านพิกเซลซึ่งเกิดจากเทคนิคการประมวลผลภาพแบบพิเศษ ด้วยการนำรายละเอียดในภาพขนาดเล็กหลายๆ ภาพ มารวมกันเข้าเป็นภาพถ่ายความละเอียดสูงเพียงภาพเดียว ให้ผลลัพธ์เป็นไฟล์ภาพภาพขนาดใหญ่ที่เก็บรายละเอียดของภาพได้ดีกว่าการนำภาพถ่ายมาแก้ไขด้วยซอฟต์แวร์ตกแต่งภาพในภายหลังและผู้ถ่ายสามารถเลือกความละเอียดภาพได้ที่ระดับ 64 หรือ 32 ล้านพิกเซลได้ตามต้องการ
ผลงานจากโหมดการถ่ายแบบ Ultra HD
สมาร์ทโฟนสำหรับการถ่ายภาพระดับมืออาชีพ
OPPO N3 ทำให้ตากล้องมืออาชีพ หรือผู้ที่รักการถ่ายภาพ ได้สนุกกับการถ่ายภาพมากขึ้น ด้วยโหมดการถ่ายแบบExpert ที่มีอยู่ใน PI 2.0+ทำให้ตากล้องสามารถปรับตั้งค่าการถ่ายภาพของ OPPO N3 ได้ใกล้เคียงกับกล้องดิจิตอลระดับมืออาชีพ ทำให้ผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพได้สนุกกับการบันทึกภาพความทรงจำในทุกช่วงจังหวะของชีวิต โดยไม่ต้องทนลำบากกับการพกกล้องดิจิตอลตัวโตๆ ติดตัวเอาไว้ตลอดเวลา
ในโหมด Expert เปิดโอกาสให้ปรับตั้งค่าการถ่ายที่สำคัญๆ ได้ครบ อาทิ การปรับค่าความไวแสง (ISO), ปรับค่าการชดเชยแสง เพื่อควบคุมระดับความสว่างของภาพได้ตามต้องการ, การปรับค่าWhitebalance เพื่อให้ได้สีสันถูกต้องเที่ยงตรงกับการถ่ายในสภาพแสงทุกรูปแบบ รวมถึงการปรับโฟกัสแบบ Manual ทำให้ OPPO N3 สามารถสร้างสรรค์ผลงานภาพถ่ายออกมาได้ในรูปแบบที่ตากล้องต้องการ
ปรับแต่งค่าการถ่ายได้ตามต้องการในโหมด Expert
ด้วยระบบกล้องหมุนอัตโนมัติและซอฟต์แวร์ประมวลผลภาพอัจฉริยะ PI 2.0+ ทำให้ OPPO N3 เป็นสมาร์ทโฟนที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพและถ้าคุณอยากค้นพบความสุขที่แท้จริงในการถ่ายภาพ ต้องลอง OPPO N3 ครับ
คลิกที่นี่ เพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติมของ OPPO N3