กลับมาอีกครั้งกับความคุ้มค่าล่าสุดจาก OPPO กับสมาร์ทโฟนราคาเบาๆ ขนาดตัวเครื่องกะทัดรัด ที่เหมาะสำหรับเป็นสมาร์ทโฟนเครื่องแรก และเหมาะกับคนที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนเครื่องสำรองติดบ้าน เผื่อไว้ใช้งานในช่วงเวลาที่สมาร์ทโฟนเครื่องหลักเกิดปัญหา รองรับระบบ 3G สองซิมการ์ดอัจฉริยะสามารถเลือกได้ว่าจะเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านซิมการ์ดหมายเลข 1 หรือหมายเลข 2 ได้อย่างอิสระ ซึ่งเป็นฟังก์ชั่นที่เพิ่มความคุ้มค่าน่าใช้งานให้กับ OPPO Joy Plus มากขึ้นไปอีก
รายการอัพเกรดหลักของ OPPO Joy Plus (เมื่อเทียบกับ Joy รุ่นแรก) คือการเพิ่มขนาดหน่วยความจำแรมมาเป็น 1GB ทำให้รองรับการใช้งานกับแอพพลิเคชั่นในปัจจุบันที่ต้องการเครื่องสเปกสูงได้ดีขึ้น และอีกหนึ่งรายการอัพเกรดที่สำคัญคือ การเปลี่ยนมาใช้ระบบปฏิบัติการ ColorOS 2.0 (บนพื้นฐานของแอนดรอยด์ 4.4 Kitkat) ทำให้ OPPO Joy Plus มีประสิทธิภาพ และมีฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่อำนวยความสะดวกในการใช้งานมากขึ้น รองรับการใช้งานในอนาคตได้ดีขึ้น
และจุดที่สำคัญคือ ColorOS 2.0 มีระบบการจัดการพื้นที่หน่วยความจำที่ดีขึ้น ทำให้มีเนื้อที่มากพอสำหรับการติดตั้ง และอัพเดตแอพพลิเคชั่นต่างๆ ได้ตามต้องการ จากการทดสอบของเรา เมื่อติดตั้งแอพที่จำเป็นสำหรับการใช้งานลงไปในเครื่องจนครบแล้ว ก็ยังมีเนื้อที่พอสำหรับการติดตั้งเกม LINE POP 2 กับอีกเกมที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่อย่าง FRONTLINE COMMANDO 2 (ขนาดเกม 154MB โดยได้มีการย้ายข้อมูลบางส่วนของเกม และบางแอพไปเก็บไว้ที่การ์ด microSD)
การอัพเกรดมาใช้ระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นล่าสุดอย่าง ColorOS 2.0 ทำให้ OPPO Joy Plus ใช้งานได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นฟีเจอร์ Hand Gesture ที่ทำให้สั่งงานตัวเครื่องได้อย่างสะดวกง่ายดายด้วยการวาดภาพบนหน้าจอ อย่างเช่นการวาดวงกลมเพื่อเปิดกล้องได้อย่างรวดเร็วในขณะที่หน้าจอปิดอยู่ หรือเปิด Facebook ได้แบบเร็วสุดๆ แค่วาดเส้นตรงบนหน้าจอ ไม่ต้องเสียเวลาเปิดหน้าจอไล่หาแอพ ฟีเจอร์ทางด้านลูกเล่นความสวยงามก็มีธีม และวอลล์เปเปอร์สวยๆ เท่ๆ ให้เลือกเปลี่ยนได้เกิน 100 แบบ โดยไม่ต้องลงแอพเสริม
ฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยของ ColorOS 2.0 ก็จัดมาให้แบบครบๆ ไม่ว่าจะเป็นการป้องกันไม่ให้คนอื่นเข้าใช้งานแอพใดๆ ด้วยระบบรหัสผ่าน หรือการบล็อกเบอร์โทรศัพท์ได้อย่างง่ายๆ และยังมีฟังก์ชั่นล้างข้อมูลขยะเพื่อช่วยให้เครื่องทำงานได้เร็วขึ้น โดยสามารถตั้งให้ล้างข้อมูลได้อัตโนมัติตามเวลาที่กำหนดไว้ (เช่นล้างวันละครั้ง หรือล้างทุกๆ 8, 2 หรือ 1 ชั่วโมงเป็นต้น) ซึ่งฟีเจอร์ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ColorOS 2.0 ทำได้โดยไม่ต้องติดตั้งแอพเสริมใดๆ เพิ่มเติม
เมื่อรู้แล้วว่าการอัพเกรดครั้งนี้มีอะไรดีๆ เพิ่มขึ้นมาบ้าง เราลองของจริงกันเลยดีกว่าครับ ดูสิว่า OPPO Joy Plus จะคุ้มค่าน่าซื้อขนาดไหน
Specification: OPPO Joy Plus
ขนาดหน้าจอ 4.0” IPS
ความละเอียดหน้าจอ 480×800 จุด (234 ppi)
ระบบปฏิบัติการ ColorOS 2.0 (บนพื้นฐานของ Android 4.4. KitKat)
CPU MediaTek MT6572 – Dual Core 1.3GHz
RAM / หน่วยความจำภายใน 1GB / 4GB (ขยายเพิ่มด้วยการ์ด microSD ได้อีก 32MB)
กล้อง กล้องหลัง 3 ล้านพิกเซลพร้อมไฟเติมแสง กล้องหน้า 0.3 ล้านพิกเซล
ระบบ 2 ซิม รองรับ (ซิม 1 ขนาดปกติ, ซิม 2 ขนาดไมโคร)
เครือข่าย 3G 850 / 900 / 2100MHz (รองรับ 3G ทุกเครือข่าย)
Battery 1,700mAh (แบบถอดเปลี่ยนได้)
ให้เลือกซื้อ ตัวเครื่องขาว, ตัวเครื่องน้ำเงิน
ราคา 3,490 บาท
จุดเด่นของ OPPO Joy Plus
* ประสิทธิภาพคุ้มราคา
* ตัวเครื่องกะทัดรัด เหมาะสำหรับคนไม่ชอบเครื่องใหญ่ๆ
* สมาร์ทโฟนราคาเบาๆ ที่จอสวย เสียงดี
* ใช้งานง่าย และทำอะไรได้มากกว่าด้วยระบบปฏิบัติการ ColorOS 2.0
* เป็นสมาร์ทโฟนราคาเบาๆ ที่ถ่ายภาพสวยน่าพอใจ
กะทัดรัดน่ารัก หยิบง่ายใช้คล่อง
ขนาดตัวเครื่องกะทัดรัดด้วยขนาดหน้าจอ 4.0 นิ้ว ทำให้ได้ใจคนที่ไม่ชอบพกสมาร์ทโฟนเครื่องโตๆ ไปแบบเต็มๆ ใครที่คิดว่าสมาร์ทโฟนขนาดหน้าจอ 5 นิ้วหรือใกล้เคียงนั้นใหญ่เกินไป OPPO Joy Plus น่าจะเป็นคำตอบสุดท้ายสำหรับคุณ และด้วยขนาดตัวเครื่องที่กะทัดรัดทำให้พกใส่กระเป๋ากางเกงยีนส์ได้แนบเนียนมาก ไม่มีตัวเครื่องโผล่พ้นออกมาจากขอบกระเป๋าให้กวนสายตา การจับถือตัวเครื่องก็กระชับเต็มมือ มั่นใจว่าตัวเครื่องไม่มีหลุดมือแน่นอน ใช้งานสะดวกมากๆ ด้วยมือเพียงข้างเดียว ไม่ต้องใช้อีกมือมาช่วยประคองตัวเครื่องขณะใช้งาน ทำให้ในขณะที่มืออีกข้างถือตัวเครื่องและกำลังแชทอยู่ มืออีกข้างก็หยิบขนมใส่ปากไปด้วยได้แบบสบายๆ เป็นความรู้สึกที่แตกต่างจากการใช้สมาร์ทโฟนจอ 5 นิ้วอย่างชัดเจน
OPPO Joy Plus เครื่องที่เราได้รับมาทดสอบเป็นตัวเครื่องสีขาวคาดขอบทองด้านข้างตัวเครื่อง เป็นดีไซน์ที่ดูเรียบหรูสะอาดตา ในส่วนของแผ่นฝาหลังโชว์ผิวสีขาวเนื้อมุกเงาวาว ทำให้เป็นสมาร์ทโฟนราคาเบาที่ดูดีอยู่ไม่น้อย ในส่วนของหน้าจอขนาด 4.0 นิ้วความละเอียด 480×800 จุด ให้การแสดงผลที่ละเอียดเนียน
ตาดี และเป็นจอชนิด IPS ที่ให้การแสดงสีสันที่อิ่มเข้มสดใสสวยงาม ใช้เปิดดูภาพถ่ายจากกล้องดิจิตอล หรือเปิดภาพที่เพื่อนๆ แชร์มาในโซเชียลเน็ตเวิร์กดูได้อย่างสวยงาม และจอมีความสว่างสู้แดดได้ดีพอสมควร สรุปว่าคนที่อยากได้สมาร์ทโฟนราคาไม่แพงแต่จอสวย รับรองว่าไม่มีผิดหวังกับ OPPO Joy Plus อย่างแน่นอน
เรามาดูรายละเอียดในส่วนต่างๆ ของ OPPO Joy Plus กันครับว่ามีอะไรบ้าง
ใต้หน้าจอ LCD เป็นตำแหน่งของ 3 ปุ่มมาตรฐานไล่เรียงจากซ้ายไปขวา ก็มีปุ่ม Menu, Home และ Back และขอบล่างตัวเครื่องเป็นตำแหน่งของช่องพอร์ต micro USB สำหรับการเสียบชาร์จ และถ่ายโอนข้อมูลกับคอมพิวเตอร์
เหนือหน้าจอ LCD เป็นตำแหน่งของเลนส์กล้องหน้าขนาดความละเอียด 0.3 ล้านพิกเซล ถึงแม้ความละเอียดจะไม่สูงมากมาย แต่ก็รองรับการเซลฟี่ได้ดี และเป็นตำแหน่งของช่องลำโพงสำหรับการสนทนาโทรศัพท์ ซึ่ง OPPO Joy Plus ให้เสียงการสนทนาโทรศัพท์ที่ดังชัดเจนดีทั้ง 2 ฝั่งครับ ส่วนทางด้านขอบบนตัวเครื่องเป็นตำแหน่งของช่องแจ็คเสียบหูฟังขนาดมาตรฐาน Stereo 3.5 มม. สามารถเปลี่ยนไปใช้หูฟังคุณภาพดี เพื่อการฟังเพลงให้ไพเราะขึ้นได้ตามใจชอบ ขอบขวาตัวเครื่องเป็นตำแหน่งของปุ่ม Volume เพิ่ม/ลดเสียง
ขอบซ้ายตัวเครื่องเป็นตำแหน่งของปุ่ม Power เปิด/ปิด หน้าจอ และบนฝาหลังตัวเครื่องเป็นตำแหน่งของเลนส์กล้องดิจิตอลขนาด 3 ล้านพิกเซล และดวงไฟเติมแสง ที่ช่วยเพิ่มความสว่างในการถ่ายภาพ และคลิปวิดีโอ
เปิดฝาหลังตัวเครื่องออกจะพบกับช่องใส่ซิมการ์ดหมายเลข 1 (ใช้ซิมขนาดปกติ) และช่องใส่ซิมการ์ดหมายเลข 2 (ใช้ซิมขนาดไมโคร) ที่สามารถเปิดรอสแตนบายรอรับสายได้พร้อมกัน 2 ซิม และด้วยระบบ 3G อัจฉริยะ ทำให้สลับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านซิมหมายเลข 1 หรือ 2 ได้อย่างอิสระ ก้อนแบตเตอรี่ขนาด 1,700mAh สามารถถอดเปลี่ยนได้เอง และด้วยขนาดหน้าจอที่ไม่ใหญ่โตเพียง 4.0 นิ้ว ทำให้ OPPO Joy Plus เป็นสมาร์ทโฟนที่แบตอึดใช้ได้ ชาร์จครั้งเดียวอยู่ได้ยาวๆ ทั้งวัน ไม่ต้องชาร์จแบตฯ กันบ่อยๆ
ประสิทธิภาพดีคุ้มราคา
แม้สเปกจะไม่ได้หวือหวาอะไรแต่ก็ต้องจัดว่า OPPO Joy Plus เป็นสมาร์ทโฟนที่คุ้มค่ามากที่สุดรุ่นหนึ่งในระดับราคาที่ต่ำกว่า 3,500 บาท จากการทดลองใช้งานจริงกับแอพพลิเคชั่นที่ใช้งานในชีวิตประจำวันอย่างเช่น Facebook, Line, Facebook messenger, Chrome, YouTube และแอพเล่นเพลง ก็พบว่า OPPO Joy Plus ใช้งานกับทุกแอพได้ลื่นไหลน่าพอใจ ไม่ออกอาการช้าอืดอาดจนน่ารำคาญ เรามาดูผลคะแนนที่สมาร์ทโฟนเครื่องนี้ทำได้จากแอพทดสอบประสิทธิภาพกันครับ
การทดสอบประสิทธิภาพด้วยแอพ AnTuTu Benchmark ผลปรากฏว่า OPPO Joy Plus ทำได้ 11,581 คะแนน และได้ 5,156 คะแนนจากการทดสอบด้วยแอพ Quadrant Standard Edition และการทดสอบประสิทธิภาพระบบสัมผัสของหน้าจอ ผลออกมาว่ารองรับการแตะสัมผัสได้สูงสุด 5 จุดพร้อมกัน และไม่เกิดอาการแตะไขว้ ทำให้ไม่เป็นปัญหากับการเล่นเกมบางเกมที่ต้องใช้มากกว่า 1 นิ้วแตะลงบนหน้าจอพร้อมกันเพื่อควบคุมเกมครับ
เป็นสมาร์ทโฟนราคาเบาๆ ที่รองรับการเล่นเกมได้อย่างน่าพอใจครับ เราใช้ OPPO Joy Plus เล่นเกมเบาๆ น่ารักๆ อย่าง LINE POP 2 ผลออกมาว่าเล่นผ่านได้อย่างลื่นไหลสบายๆ ลองของหนักขึ้นอีกนิดกับเกมที่มีกราฟิก 3D แนวยิงมุมมองบุคคลที่หนึ่ง อันสุดแสนจะมันส์อย่างเกม FRONTLINE COMMANDO 2 ผลออกมาว่า OPPO Joy Plus ใช้เล่นเกมนี้ได้อย่างลื่นไหลดีมากๆ ไม่มีอาการสะดุดให้เห็นเลย แสดงเอฟเฟกต์เปลวไฟและระเบิดต่างๆ ในเกมได้สวยงามดี
ดูหนังฟังเพลงใช้ได้
OPPO Joy Plus เป็นสมาร์ทโฟนราคาเบาๆ ที่ใช้ฟังเพลงได้ดีเกินคาด เพราะโดยปกติแล้วสมาร์ทโฟนที่ราคาต่ำกว่า 5 พันบาทมักจะคาดหวังไม่ได้กับเรื่องคุณภาพเสียง แต่ OPPO Joy Plus ทำให้ต้องเปลี่ยนความคิดนี้เสียใหม่ เพราะมันให้คุณภาพเสียงสำหรับการฟังเพลงที่ดีเกินคาด ถ่ายทอดเนื้อเสียงร้องออกมาได้อย่างชัดเจนน่าฟัง และเด่นเป็นพิเศษกับช่วงเสียงเบสทุ่มต่ำที่อิ่มแน่น ช่วยทำให้ฟังเพลงแนวแด๊นซ์ และเพลงแนวร็อคได้อย่างสนุกสนาน ตอบโจทย์คนที่ชอบฟังเพลงจากสมาร์ทโฟนผ่านการเสียบหูฟังได้เป็นอย่างดี และสำหรับการเปิดฟังเพลงผ่านลำโพงที่ตัวเครื่อง พบว่าถ่ายทอดเสียงนักร้องได้ชัดเจนดี แต่ระดับเสียงยังค่อนข้างเบา ให้เสียบฟังเพลงผ่านชุดลำโพงภายนอกจะสนุกสะใจกว่า
การเปิดดูคลิปวิดีโอความละเอียดสูงระดับ HD ด้วยแอพเล่นไฟล์วิดีโอที่ติดมากับเครื่องของ OPPO Joy Plus ก็ให้การเปิดเล่นคลิปที่ลื่นไหลไม่มีอาการสะดุดให้เห็นระหว่างที่เล่นวิดีโอ หน้าจอฉายภาพของคลิปวิดีโอความละเอียดสูงได้ละเอียดเนียนตา สีสันอิ่มเข้มสวยงามดี โดยในระหว่างที่เล่นคลิปวิดีโอ สามารถเพิ่ม/ลดความสว่างของคลิปได้ง่ายๆ ด้วยการใช้นิ้วสไลด์ขึ้น/ลงบริเวณขอบจอซ้าย และเพิ่มลดระดับเสียงได้ด้วยการสไลด์นิ้วขึ้น/ลงบริเวณขอบจอขวา เป็นลูกเล่นที่อำนวยความสะดวกในการดูคลิปวิดีโอได้ดี
ลองถ่ายภาพด้วย OPPO Joy Plus
OPPO Joy Plus ถึงแม้จะมาพร้อมกล้องหลังความละเอียดเพียง 3 ล้านพิกเซล และไม่มีระบบออโต้โฟกัส แต่ภาพถ่ายที่ได้ก็ถือว่าออกมาสวยงามน่าพอใจ ใช้ถ่ายภาพสวยๆ ส่งให้เพื่อนๆ ดูผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์กได้แบบสบายๆ เราลองมาดูผลงานภาพถ่ายของ OPPO Joy Plus กันครับ
นอกจากการถ่ายภาพในโหมดปกติแล้ว OPPO Joy Plus ยังมีโหมดการถ่ายแบบ “การรับแสงสองครั้ง” (หรือ Double exposure) สร้างสรรค์ภาพถ่ายที่แปลกใหม่ โดยเทคนิคการถ่าย 2 ภาพแล้วนำมาซ้อนรวมกันเป็นภาพเดียว ทำให้ได้ภาพถ่ายที่เก๋เท่ไม่เหมือนใคร
ถึงแม้กล้องหน้าจะมีความละเอียดเพียง 0.3 ล้านพิกเซล แต่ก็ต้องยอมรับว่า OPPO Joy Plus เป็นสมาร์ทโฟนราคาเบาๆ ที่รองรับการเซลฟี่ได้สวยเนียนหล่อเนียนฟรุ๊งฟริ้งดีในโหมดการถ่ายแบบ “ถ่ายรูปพร้อมแต่งสวย” ที่มีเอฟเฟกต์การปรับภาพหน้าเนียนให้เลือกใช้ถึง 8 แบบ ได้แก่ ธรรมชาติ, ความทรงจำ, โตเกียว, วาเลนเซีย, ผู้เชียวชาญ, ทะเลทราย, สายรุ้ง, โมโน และยังมีลูกเล่นเก๋ๆ แค่เพียงพูดคำว่า “Cheese” ก็เซลฟี่ได้แบบง่ายๆ ไม่ต้องใช้นิ้วตะหน้าจอ เราลองมาชมตัวอย่างภาพเซลฟี่สวยๆ จาก OPPO Joy Plus กันครับ
บทสรุป OPPO Joy Plus
เป็นสมาร์ทโฟนราคาต่ำกว่า 4 พันบาทที่ดีที่สุดรุ่นหนึ่งในท้องตลาด ด้วยหน้าจอที่สวยงาม คุณภาพเสียงที่ดีสำหรับการฟังเพลง คุณภาพของกล้องที่น่าพอใจทั้งสำหรับการถ่ายภาพแนวทั่วๆ ไปและการถ่ายเซลฟี่ รองรับ 3G สองซิม และประสิทธิภาพของเครื่องที่ดีเพียงพอสำหรับการเป็นสมาร์ทโฟนเครื่องแรก หรือเป็นเครื่องสำรองติดบ้านไว้ใช้งานเผื่อเครื่องหลักมีปัญหา และเหมาะเป็นพิเศษสำหรับคนที่อยากได้สมาร์ทโฟนเครื่องเล็กกะทัดรัด พกสะดวกหยิบใช้งานคล่อง
คลิกที่นี่เพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติมของ OPPO Joy Plus
